“You can spend the rest of your life being afraid of people rejecting you. You have to start by not rejecting yourself. You don’t deserve it.” — Rae
_________________
ซีรีส์ธรรมดาที่เติบโตและเรียนรู้ผ่านมิตรภาพและไดอารี่
เริ่มคือ my mad fat diary มี background เป็นยุค 90 ยุคที่หลายๆคนคงจะพูดถึงทั้งเรื่องของดนตรีในยุคนั้น เพลงแต่ละเพลงที่อยู่ในแต่ละซีนของซีรีส์เป็นเพลงจากฝั่งอังกฤษจากยุค 90 ทั้งนั้น รวมทั้งเพลงตั่งต่างจาก oasis ซึ่งเราก็ชอบมาก จนไปถึงเรื่องแฟชั่นด้วย
My mad fat diary เป็นเรื่องของสาวอ้วนคนนึงคือ Rae หรือ เร สาววัยรุ่นที่ไม่มั่นใจในตัวเอง และมีปัญหาทางจิตจนต้องเข้ารับการรักษาตัวจากโรงพยาบาล หลังจากที่เรออกจากโรงพยาบาลมา เรกลับไปหาเพื่อนสนิทอย่าง Chloe หรือโคลอี้ และโคลอี้นี่เองที่แนะนำให้เรรู้จักกับเพื่อนใหม่ของโคลอี้จนกลายเป็นมิตรภาพที่ดีของเรไปในที่สุด โดยเรื่องราวในชีวิตของเรจะเล่าผ่านการเขียนไดอารี่ของเรเอง
Finn, Chop, Izzy, Archie and Chloe
My mad fat diary เป็นเรื่องราวของวัยรุ่นทั่วไปก็จริง แต่เราชอบที่ซีรีส์เล่าประเด็น coming of age ของเรที่ไม่มีความไม่มั่นใจในตัวเองผ่านตัวละครที่เป็นสาวอ้วน เอาจริงๆ มันทำให้เราเข้าใจในตัวเรจากสิ่งที่ถ่ายทอดออกมา การที่เรรักเพื่อนสนิทของตัวเองมากอย่างโคลอี้ การเกิดที่อยากจะเป็นเหมือนคนที่เรารัก มันทำให้เรมากดดันตัวเองจนเกิดเป็นปมในใจของเรเอง การแก้ปัญหาแบบวัยรุ่น ประเด็นปัญหาครอบครัว การคิดเท่าไม่ถึงการณ์ สุดท้ายแล้วในตอนจบจะสอนให้เรได้เติบโตขึ้น
“When you’ve lived in someone’s shadow for a long time, you kind of get used to it.” — Rae
สิ่งที่เราจะอวยนอกจากความเป็นกลิ่นอายของยุค 90 เราชอบตัวละคร Finn มาก เชื่อว่าผู้หญิงหลายคนที่ดูน่าจะชอบความแอบใส่ใจเรของฟินน์เหมือนที่เราชอบ โดยบางทีพี่เขาก็ใส่ใจไปเลยตรงๆ (ซึ่งมันมีหลายซีนมากกกกกกกก) อีกอย่างคือ ฟินน์น่ารักมากกกกก ไม่ไหวจริงๆค่ะ ความรักมันล้นจอ ให้ตัยเถอะ เรากรี๊ดเขามาก ขอผู้ชายแบบพี่ในชีวิตจริงของนุได้มั้ย
เรื่องนี้มีคนตาย #น้องเอง
จะบอกว่าวินาทีนั้นเราไม่รู้อะไรแล้ว เพราะนี่ร้องไห้หนักมาก ฮรุกๆ
สปอยนิดนึงได้มั้ย ข้ามได้นะ ep สุดท้ายซีนที่เรตามหาฟินน์จนเจอเป็นซีนที่เราชอบที่สุดแล้ว คือแก เราแบบอุดปากกรี๊ด ส่วนหนึ่งมาจากเพลง
champagne supernova ของ oasis ที่เล่นเป็น background ด้วยแหละ ที่มันเข้ากับซีนนี้ดีเหลือเกิน #ติ่ง
ในส่วนของซีซั่นสองและสามก็พูดถึงการเข้าสังคมในรูปแบบใหม่ เราได้เห็นตัวละครโตขึ้นในแต่ละ episode และในแต่ละซีซั่น ส่วนตัวเราว่าซีซั่นสองเป็นอะไรที่ดาร์คกว่าซีซั่นแรกด้วย ด้วยความที่ตัวละครโตขึ้น มันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางต่างๆของแต่ละตัวละคร
เราว่าซีรีส์เรื่องนี้มันน่ารักแบบอยากจะกรี๊ดให้แต่ละตอนของฟินน์กับเรก็จริง แต่ก็ไม่ได้หวานจนขนาดเซอร์เรียลขนาดนั้น รวมถึงตอนจบในซีซั่นสามที่เราจะได้เห็นการที่เรโตขึ้นกว่าซีซั่นที่ผ่านมา เห็นเรยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และเข้าใจโลกมากขึ้น
แต่เราปวดใจมากให้ตาย
How many special people change
How many lives are living strange
Where were you while we were getting high
#somedayyouwillfindme
ด้วยรัก
สะใภ้แซ่เพ้ง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in