เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
O Hai YoImyani
2018 Reflection of Mine
  • Hello again Minimore
    ไม่ได้เข้ามาเขียนซะนานเลย
    เป็นเพราะเรามัวไปติดพันอยู่กับอีกเว็บไซต์หนึ่งมากกว่า เลยไม่ค่อยได้เข้ามาแวะเวียนที่นี่สักเท่าไร
    วันนี้จะกลับมาเขียนแล้วนะ

    31 ธันวาคม 2018
    อีกไม่กี่ชั่วโมง ก็จะปีใหม่แล้ว
    เวลาผ่านไปเร็วจนฉันงง เหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งปีเป็นเพียงความฝัน
    ในปีนี้มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งดีและไม่ดี ฉันคิดว่ามันก็ครึ่งๆกลางๆนะ ไม่ได้ดีมากและไม่ได้แย่มาก

    "การเรียน"
    ปีนี้เป็นปีที่เหนื่อยพอสมควรเลยล่ะ ตั้งแต่ต้นปีที่ฉันวางแผนอ่านหนังสือ เริ่มตะลุยเรียนพิเศษอย่างหนักเพื่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการให้ได้ 

    ในตอนแรก ฉันตั้งใจมากที่จะเข้าคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะชอบในตัวหลักสูตร และความเป็นอิสระในการเรียน ฉันตั้งใจอ่านหนังสือทุกวัน เรียนพิเศษทุกวัน เพื่อที่จะยกระดับตัวเองให้ไปถึงจุดที่ต้องการให้ได้

    แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้ในปีนี้ก็คือ ใจคนเรามันเปลี่ยนแปลงกันได้ และเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

    ฉันได้พบเจอผู้คนและสิ่งต่างๆที่เข้ามาทำให้หวั่นไหวอยู่ตลอดเวลา ทำให้ใจฉันเริ่มลังเล ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิต
    ในหัวสมองมักจะมีคำพวกนี้วนไปวนมา "อาจารย์มหาวิทยาลัย" "ครูปฐมวัย" "มัณฑนากร" "นักมานุษยวิทยาการแพทย์" "นักสังคมสงเคราะห์" "คนวาดรูปภาพประกอบ" "หมอจิตแพทย์" ... และอื่นๆอีกมากมาย
    เกิดการโต้เถียงกับพ่อกับแม่ เพื่อน กับตัวเอง หลายครั้งที่สับสนและไม่รู้จะเอายังไง
    จนสุดท้าย หลังจากเปลี่ยนทั้งคณะและมหาวิทยาลัยที่จะเรียนต่อหลายครั้ง ฉันก็มาลงเอยที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    และคิดว่านี่เป็นคำตอบสุดท้ายในใจของฉันแล้ว
    เพิ่งได้รับการตอบรับไปสัมภาษณ์ของคณะมนุษยศาสตร์ในรอบที่ 1 รู้สึกมีความสุขมาก ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวฉันเองแล้ว ว่าจะทำได้ดีเพียงไร
  • อืม... ความรัก
    ปฏิเสธไม่ได้ว่าความรักเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิต
    ไม่มีความรักก็เหมือนไม่มีชีวิต
    สำหรับฉัน...
    ในปีนี้ คนในใจก็ยังเป็นคนเดิม
    แอบทึ่งกับตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมถึงรักเขาได้นานขนาดนี้ 
    ปีนี้เป็นปีที่หนักพอสมควรในเรื่องของความรัก เพราะฉันและเขา ต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ ต่างคนต่างมุ่งเป้าไปยังมหาวิทยาลัย
    ฉันรู้ว่ามันยังไม่ใช่เวลาสำหรับเขาที่จะมาสนใจเรื่องความรัก ถึงแม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกดีๆให้กับฉันก็ตาม สถานะก็ไม่เคยชัดเจน ฉันก็ทำอะไรไม่ได้
    มีหลายคนเข้ามาหาฉันมากมาย แต่ฉันกลับเลือกที่จะปิดโอกาสของพวกเขาเหล่านั้น แค่เพราะใจฉันยังคงรักเขาคนนั้นอยู่ 
    ไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องอยู่รึเปล่า แต่ถ้าถามฉัน ต่อให้วันนี้จะไม่ใช่เขา ฉันก็ยังคงไม่พร้อมที่จะมีแฟนอยู่ดี ถึงแม้ใจจะโหยหาความรักก็ตาม ฉันต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จก่อน ถึงจะไปดูแลคนอื่นได้ นี่คือสิ่งที่ฉันบอกตัวเองมาตลอด

    ในปีนี้ ฉันรักเขาในแบบที่เติบโตขึ้น
    รักด้วยการเฝ้ามองอยู่ห่างๆ มีความสุขเมื่อเขามีความสุข ดูแลเขาในยามจำเป็น อธิษฐานถึงสิ่งดีๆและคอยเป็นกำลังใจให้เขาอยู่เสมอ
    ฉันรู้ว่าม.6ทุกคนต้องการกำลังใจ และยิ่งการที่เขามีเป้าหมายที่สูง ทำให้ฉันอยากเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันให้เขาได้ทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ และถึงแม้ในท้ายที่สุด ฉันอาจจะไม่ได้ยืนเคียงข้างเขา แต่แค่วันนี้ ได้เป็นกำลังใจให้กับเขา เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

    เขาเหมือนดอกไม้ ที่ฉันคอยรดน้ำ ใส่ปุ๋ย และเฝ้ามองมันเติบโตขึ้น รอคอยวันหนึ่งที่จะผลิบานอย่างงดงาม 
    ฉันไม่เคยเบื่อที่จะเฝ้ามองเขา ไม่เคยเบื่อที่ได้ดูแล ได้ทำสิ่งดีๆให้ เขาสอนให้ฉันรู้จักการเสียสละ การเข้าใจสิ่งที่ไม่แน่นอนในชีวิต และการที่ได้แบ่งปันความรักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ

    ถึงแม้เรื่องราวที่ผ่านมาจะมีทั้งดีและร้าย แต่ฉันก็ขอบคุณเธอ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะ
  • "ความรับผิดชอบ"
    ปีนี้เรียกได้เลยว่า เป็นปีที่หนักที่สุด 
    ฉันอยู่ม.6 ต้องแบกรับความกดดันในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย อีกทั้งต้องแบ่งเวลาไปทำกิจกรรมให้กับโรงเรียนอยู่ตลอดทั้งปี
    ไม่รู้จะเรียกว่ามันเป็น a bless or a curse ดี แต่คิดว่ามันคงเป็น a bitter bless มากกว่า
    ฉันถูกดึงตัวไปแข่งเกือบแทบทุกกิจกรรม ทั้งการโต้วาทีภาษาอังกฤษระดับโรงเรียน ระดับภาค การแข่งสุนทรพจน์สองงาน และการแข่งศิลปหัตถกรรมที่ต้องผ่านถึง 4 สนาม ที่ตอนนี้ สิ้นสุดลงแล้ว

    ถ้าไม่พูดถึงความเหนื่อยยาก จริงๆแล้วการแข่งขันเหล่านี้ให้อะไรแก่ฉันมากมาย
    การที่ได้ร่วมทำงานกับคนอื่น ทำให้ฉันเห็นถึงความสำคัญของการทำงานเป็นทีม ทำให้รู้ว่า ทุกคนมีความสามารถและศักยภาพของตนเอง และการช่วยเหลือกัน จะทำให้ทีมไปถึงความสำเร็จได้ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยและท้อกันสักแค่ไหน แต่ถ้าเราช่วยกัน เราจะไปถึงจุดหมายได้

    นึกแล้วอยากร้องไห้ ภาพตอนที่ขึ้นรับรางวัลตอนนั้นกับทีม... ทำให้ฉันตื้นตันใจมากจริงๆ
    การโต้วาทีภาษาอักฤษที่ฉันกลัวและหลีกเลี่ยงมาตลอด มาวันนี้ ฉันชนะความกลัวนั้นได้แล้ว
    ต้องขอบคุณคุณครู ที่นำพาให้ฉันได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ทำให้ฉันรู้ว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ นอกจากเราจะไม่ทำมัน

    ปีนี้เป็นปีที่สุดยอดมากเลยจริงๆ ฉันเต็มที่กับทุกการแข่งขัน ถึงแม้จะไม่ได้ที่ 1 ตลอด แต่ถ้าได้ทำดีที่สุด ฉันก็ภูมิใจในตัวเองมากแล้ว หลังจากนั้น ค่อยกลับมาพัฒนาตัวเองต่อไป

  • 22.31 PM
    อีกไม่นานแล้วล่ะ
    คุณ 2018 ปีที่เยี่ยมยอดปีหนึ่ง
    ขอบคุณสำหรับความทรงจำดีๆนะ :)

    ลาก่อน
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in