เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Music StationKIK
Lorde
  •  ก็ปล่อยออกมาแล้วสำหรับ Single ใหม่ของสาวน้อย Lorde หรือเจ๊หลอดที่หลายๆคนเรียกกันพร้อมอัลบั้มใหม่ชื่อว่า Melodrama หลังจากหายไปเกือบ 4 ปีเลยนะตั้งแต่เพลง Royal ที่กวาด Grammy ไป 2 รางวัลทั้งSong of the year และ Best pop solo performance อีกแถม Brit Award อีกตัว

    เกริ่นก่อนว่าบทความนี้ไม่มีความรู้เจาะลึกอะไรทั้งนั้น อวยล้วนๆ ฮ่าๆๆ พูดถึง Lorde  กันหน่อยดีกว่า Lorde หรือ Ella Marija Lani Yelich-O'Connor เป็นชาวนิวซีแลนด์แต่กำเนิดเลย  ตอนนี้ Lorde อายุ 20 ปีแล้ว ประวัติโดยละเอียดเริ่มต้นไม่แน่ชัดนักในตอนเข้าวงการ แต่ตอนแรกเลยคือ Lorde ปล่อยเพลง Royals ที่โปรดิวซ์โดย Joel Little ผู้ที่ทำให้ทำเพลงนี้ดังเป็นพลุแตกเลยก็ว่าได้ ด้วยเนื้อหาที่จิกกัดสังคมที่เขียนโดย Lorde เองทั้งๆที่ตอนนั้นเธออายุ 16 เองนะแต่แต่งเพลงจิกกัดได้เป็นผู้ใหญ่มีความคิดดีมาก อาจจะประกอบจากครอบครัวเธอที่เป็นนักเขียนเธอเลยได้อ่านหนังสือมากมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เธอมีความคิดเกินไว (รวมถึงหน้าตา ที่หลายๆคนแซว) อาจจะเรียกได้ว่าเพลง Royals เป็นเพลงเปิดตัวอัลบั้มและเพลงแจ้งเกิดของเธอเลย ขึ้นที่ 1 ในชาร์ตบ้านเกิดอย่างรวดเร็ว สามารถถล่มชาร์ต Billboard ยับขึ้นสู่อันดับ 1 รวมไปถึงชาร์ตของอังกฤษที่เป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่าถ้าไม่ใช่เพลงคนอังกฤษเองก็ขึ้นยากอยู่แล้วแต่เพลง Royals ก็ยึดชาร์ตขึ้นที่ 1 ของอังกฤษได้ 



    ( Lorde - Royals )
    สำหรับรางวัลการันตีเพลงนี้ว่าเป็นตำนานของเธอเลยคือรางวัล Grammy ที่เธอได้ไป 2 รางวัลเลยโดยสามารถเอาชนะ  Bruno Mars ,Katy Perry, Justin Timberlake  ที่มีเพลงที่ฮิตเหมือนกันไปได้




    และตั้งแต่เธอเข้าวงการมาระหว่างนั้นเธอก็มีเรื่องราวแสบๆ ด้วยความเป็นเด็กวัยรุ่นกล้าคิดกล้าพูดหลายอย่างมากมายทั้งการวิจารณ์ Justin Bieber , Selena Gomez, Taylor Swift รวมถึงคนอื่นๆแม้แต่ศิลปิน EDM สุดแสบอย่าง Diplo อีกด้วยซึ่งตรงนี้คือฉาวมาก 
    สามารถหาอ่านข่าวได้เลย  >> จิ้ม 


             ว่าด้วยเรื่องผลงานซิงเกิ้ลอื่นๆของเธอก็เป็นไปด้วยดีในชาร์ตทั่วโลก ไม่ว่าจะเพลง Team   หรือ         Tennis Court ที่ต่างก็ไต่ขึ้นชาร์ตได้สวยงามไม่แพ้กัน 



    รวมถึงได้ร้องเพลงประกอบภาพยนต์เรื่อง Hunger Game อีก 3 เพลงอีก คือ Yellow Flicker Beat, Flicker และ  Ladder Song ซึ่งให้อารมณ์หม่นๆเหมือนเนื้อเรื่องของภาพยนต์อีกด้วยเก่งมากๆสำหรับเด็กอายุ 16 แล้วหลังจากนั้นก็ได้ร่วม featuring เพลงบ้างแล้วหายไปเลย อันนี้คนเขียนก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าหายไปไหน แต่เห็นว่ากลับไปเรียนต่อให้จบ เพราะตอนเป็นศิลปินอยู่ก็มัวแต่ออกไปทัวร์คอนเสิร์ตแถมได้รับเชิญไปรายการต่างๆมากมายจนไม่มีเวลาได้เรียน


    (2015)


    ต่อมาในวันที่ 2 มี.ค. 2017 เธอก็กลับมาพร้อมเพลงไฟเขียว Green Light  ยังคงเป็นเพลงที่เนื้อหามีคำเปรียบเทียบเยอะและลึกซึ้งและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แถมสวยขึ้นด้วยนะ เนื้อเพลงก็เกี่ยวกับความรักที่น่าจะเลิกราจากผู้ชายจอมโกหกและรอวันที่ตัวเองจะเปิดใจอีกครั้ง(รอไฟเขียว) เพื่อหารักใหม่ต่อไปนั่นเองเพลงนี้ได้โปรดิวเซอร์ผู้ที่พาให้ อัลบั้ม 1989 ของ Taylor Swift ได้ Grammy  Album of the year มาแล้ว นั่นคือ Jack Antonoff หลายคนอาจจะไม่ค่อยรู้จัก แต่ถ้าบอกว่าเขาคือหนุ่มแว่นกีต้าร์ที่อยู่ในวง Fun หลายคนอาจจะรู้จักมากขึ้น


    ( นาทีที่ 1:18 )

    ( ตอนขึ้นมารับรางวัล Best Pop Vocal Album แทน Taylor Swift ที่กำลังเตรียมการแสดงอยู่ที่ Back Stage )

      ซึ่งทำให้การันตีได้ในระดับนึงเลยว่าอัลบั้มนี้ Lorde จะมีเพลงที่ตลาดมากขึ้น ฟังง่ายขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ถูกใจคอเพลง Alternativeมากนักที่ชอบเพลงของเธอจากบั้มแรก (ซึ่งก็ไม่ค่อยอัลเทอเท่าไหร่อยู่แล้วนะ)

    ซึ่งก่อนหน้าที่จะปล่อยเพลง เธอก็ได้ใบ้ชื่อเพลงไว้ในทวีตของเธอ




    หลายคนบอกไม่ดู mv แล้วฟังเพราะกว่า ส่วนตัวคือเป็นคนชอบภาพหรือวิดีโออะไรก็ตามที่ Noise เยอะๆอยู่แล้วนะดูดิบๆดี แถมเอกลักษณ์ท่าเต้นของเธอก็ดูสนุกสนานมาก รวมถึงซีนกระทืบรถอีกอันนี้ชอบมากเหมือนกัน

    และเจ้าตัวเองก็ออกมาทวิตนะว่าชอบซีนนี้เช่นกัน

    สำหรับ Jack Antonoff เองก็ออกมาพูดถึงแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงร่วมนี้ด้วย



    และปฏิกริยาของเพื่อนสนิทของเธออย่าง Taylor Swift ต่อเพลงๆนี้



    ก็ต้องรอดูต่อไปว่าผลงานเพลง Green light ของเธอจะทำชาร์ตได้ดีแค่ไหนส่วนนี้ก็ขอเอาใจช่วยนะครับ

    -

     " I’m waiting for it, that green light, I want it
    I’m waiting for it, that green light, I want it "

    -


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in