เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ม้งอินเทิร์นmeawmio
ไปInternshipได้ยังไง!?(ว้า)
  • อย่างที่ทุกคนรู้ตอนนี้เรามา Internship ที่ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่นค่ะ
    ระยะเวลาที่มาที่นี่ราวๆ 2 เดือน
    บอกก่อนเลยว่าไม่สามารถเอ่ยถึงชื่อบริษัทที่มาได้ แต่เป็นที่ๆ80%ได้ยินชื่อแล้วจะร้อง อ๋อออ ทันที

    อย่างแรกถ้าถามว่ามาได้ยังไง ให้ตอบแบบกวนตีนก็คงบอกว่า ก็สัมภาษณ์ผ่าน 5555555
    งั้นขอขยายความนิดนึง คือ บริษัทเค้าโคกับทางมหาลัย แล้วก็ไปสัมภาษณ์ถึงที่มหาลัยเลยค่ะ

    ขอเขียนบรรยากาศการสัมภาษณ์อย่างละเอียด (เพราะขี้เกียจเล่าหลายรอบ)

    การสัมภาษณ์เป็นแบบ 1 ต่อ 1
    คนสัมภาษณ์เป็นบุโจว (หัวหน้าแผนกไรงี้) เป็นคุณลุงคนนึงที่ดูไม่ได้ใจดีไรหรอกแต่คุยได้ 
    (เดี๋ยวภาคต่อๆไปจะเจอลุงเค้าอีกหลายรอบ)

    ส่วนหน้าห้องจะมีคนญี่ปุ่นจากบริษัทสองคน คอยนั่งยิ้มชวนเราคุยเรื่อยเปื่อย
    (แต่ทีหลังเข้าใจว่า สองคนนี้ก็มีส่วนในการตัดคนไปเหมือนกัน /เดา)

    ช่วงรอสัมภาษณ์ก็นั่งเรียงหน้ากระดานรอกันเหมือนในหนังเลย
    2 คนที่ว่าก็จะมาชวนคุย เรียนเป็นไง ชวนเมาท์ที่ไทยเป็นงี้งั้น เนี้ยยไปนั้นนี่มา
    เรามาเข้าใจทีหลังว่าเค้าคงดูปฏิสัมพันธ์ด้วยว่า คนไหนอะไรยังไง เพราะตอนคัดตัว 2 คนนี้ก็ช่วยคัด ทั้งๆที่ไม่ได้ฟังสัมภาษณ์

    จนเข้าไปสัมภาษณ์กับขุ่นลุง
    บอกเลยว่ามารยาทที่เรียนมา เคาะประตู 3 ครั้ง โยโรชิคุโอเนไงชิมัส โค้ง ปิดประตู บลาๆ ไม่ได้ใช้เลย55

    เข้าไปลุงให้นั่งเลย ก็โค้งๆไรไป
    ก็เริ่มสัมภาษณ์เลย
    คำถามส่วนใหญ่ก็ทั่วไปเลยค่ะ ไม่มีแนะนำตัว 自己PR ใดๆ
    ลุงที่สัมภาษณ์เราได้ทำการอ่านใบสมัครของเราอย่างดีมากกก อย่างกะท่องมา
    เข้าไปเค้าก็ชวนคุยนู้นนี่ ที่สำคัญคือจะให้เราบอก ข้อดี และ ข้อเสียของตัวเอง
    แล้วข้อเสียนั้นเรามีทางออกยังไง เคยทำกิจกรรมไรมา เคยทำงานพิเศษไรงี้
    อยากได้อะไรจากการเข้าร่วมการ Internship ครั้งนี้ ไรงี้

    หลักๆเลยคือเค้าดูความตั้งใจของเราล้วนๆเลย
    ส่วนใหญ่ก็สัมภาษณ์กัน 5 - 8 นาที ไม่เกิน

    แต่เราแอบเข้าไป 15 นาที เพราะมัวแต่เมาท์กับลุงเรื่อง Airport Link กับ การขึ้น BTS ไทย 5555555

    หลังจากลุงได้ทำการสัมภาษณ์ทุกคนจนพอใจแล้ว
    ก็ให้เรารอราวๆ 20-30 นาทีนี่แหละ ก็ประกาศผลเลยจ้า เร็วสรัส
    แล้วห้องที่สัมภาษณ์มันเป็นห้องกระจกที่มาม่านโปร่งๆ คือเห็นหมดตอนเพื่อนสัม 
    ตอนหยิบใบสมัครเข้า หยิบออก

    จนโอเค ประกาศ ผ่าน

    ต่อไปเรื่องวีซ่า บอกเลย สัมภาษณ์ง่ายกว่าวีซ่าเยอะ

    โชคดีที่บริษัทที่เราไปเค้าทำการจัดการเรื่องเอกสารให้ทั้งหมด
    เราก็แค่เตรียมจม.จากมหาลัย และเอาเอกสารที่เค้าส่งมาให้ไปส่งสถานฑูต
    ปกติเค้าจะใช้เวลาทำ 1-2 วีคไม่เกินใช่มะ
    เราได้ทำการยื่นวีซ่าล่วงหน้าก่อนบิน ประมานเกือบเดือน ซึ่งแกเอ้ยย เราได้วีซ่าวันที่จะบินพอดี

    เวรมากกกก

    เรื่องราวระหว่างรอวีซ่ามันคือจุดพีคของชีวิต คือ โทรไปถาม ก็โดนด่ากลับมาไรเงี้ย
    คือแบบ วีซ่ากรู กรูจะบินแล้วนี่ไม่มีสิทธิ์ถามเลยใช่มะ
    เรื่องราวมันก็วนเวียน เราใช้เวลา ราวๆ 1 เดือนไปกับการปล่อยเวลาทิ้ง ตอนนี้คือเครียดมาก

    เราก็ไม่รู้จะบรรยายความเครียดทั้งหมดผ่านตัวอักษรยังไง
    เพราะผ่านมาได้แล้ว และเราเป็นคนลืมง่าย5555555

    แต่ก็เครียดเบอร์ที่ว่าอยู่บ้านไม่ได้ ออกบ้านไปดูหนังทำนู่นเราทุกวัน เพราะไม่อยากคิดอะไรแล้ว

    ก่อนมาไม่ได้เตรียมตัวอะไรทั้งนั้น วีซ่าติดต่อมาหาเราตอนที่จัดการเลื่อนตั๋วเครื่องบินไปแล้วจ้า
    พอได้วีซ่าปุ๊บเราก็รีบติดต่อไปที่บริษัทญี่ปุ่นทันที (เมล์คุยกันเป็นหลักอะนะ)

    สรุปเราได้บิน 4 วันหลังได้วีซ่า
    ปล.เราได้วีซ่า 3 เดือนมา

    4 วันนี่คือเตรียมตัวหัวหมุนมาก จนโอเคบินมาที่ญป.
    มาเป็นม้ง งงๆ อยู่ทุกวันนี้ เพราะนอกจากดูตารางอีเวนท์ลูกๆ ป้าไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย

    ขออภัยที่ต้องจบตอนแรกไว้แค่นี้ 555555555555 เพราะเวลาช่างมีจำกัด
    ไว้เราจะมาเล่าเรื่องราวหลังจากมาฝึกงานที่นี่ต่อนะจ้ะ

    แปะรูปอ่อยก่อน

    บรรยากาศแถวที่ฝึกงาน

    อันนี้แปะให้เอนทรี่นี้เครียดน้อยลง


    เจอกัน


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in