เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
A journey is like marriageMultistoried by Petanque
PT travel x Mom : 001 "น่าน"
  • #pttravelxmom


    "อยากไปดอยเสมอดาวอ่ะแม่"
    "ไปสิ ไปวันไหนดี"

    เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเราอยากไปดูดาวที่ดอยเสมอดาว
    อยากไปต้องได้ไป

    ก่อนไปหนึ่งอาทิตย์ โทรไปจองเต้นท์ 
    ปรากฏว่า เต้นท์เต็มจ้าาาา.....
    ได้เอาเต้นท์ไปเอง 

    พอถึงวันเดินทาง
    ไปกันแบบงง ๆตั้งใจแค่จะไปนอนดูดาวที่ "ดอยเสมอดาว" 
    ไปแบบไม่มีแพลนอะไรนอกจากไปนอนดูดาว

    นี่เห็นนึกขึ้นได้ เคยไปขุนสถาน
    เลยบอกแม่ว่าเราแวะนี่ก่อนละกันอยากไปดูต้นสีชมพู ๆ
    ตอนไปขุนสถาน มีเหตุให้เซ็งคือโทรศัพท์พัง จู่ ๆ นางก็ดับไปเอง
    ดับแบบเอ้าาาา ก่อนออกเดินทางเราชาร์จแบตมาเต็มอ่ะ 

    กลับลงมาจากขุนสถานก็มุ่งเข้าตัวเมืองน่านเลยค่ะ โทรศัพท์พังไปไหนต่อไม่ได้ เพราะไม่มี maps ให้เปิด ถ้าถามว่าเอ้า แล้วโทรศัพท์แม่อ่ะ ใช้ไม่ได้เหรอ??? โทรศัพท์แม่ไม่มีเนตจ้าาา แม่ไม่ค่อยใช้เนต 
    คือแบบเข้าตัวเมืองน่านก็งง นะเหวย ขับตาม ๆ ป้ายไปบิ๊กซี โทรศัพท์ซ่อมเสร็จ ก็ไปต่อค่ะ 

    เที่ยงพอดี เราต้องหาที่กินข้าว แม่บอกจะไป "น่านตะวันฟาร์ม" 
    เอ้า ไปก็ไป ขับรถหาป้ายไปเรื่อย ๆ ไปไม่ถูกก็ถามเอา 
    ไปถึงร้าน ร้านเป็นร้านพึ่งเปิดใหม่ มีในส่วนของร้านอาหาร และเครื่องดื่ม และก็มีฟาร์มปลูกผักเล็กน้อย 
    คือพวกผักสลัด กรียโอ๊ค เร้ดโอ๊ค มะเขือเทศ และเมล่อน ในส่วนของรูปร้านและบรรยากาศโดยทั่วไปนั้น เราไม่ได้มาถ่ายรูปมา แต่ถ่ายวิดีโอมาแทน (แนบคลิปตอนท้ายละกันเด้อ)
    จะเข้าชมฟาร์มได้ต้องเสีย 50 บาทเด้อ เป็นคูปองแทนเงินสด เอาไปใช้ในร้านอาหารหรือแลกซื้อเครื่องดื่มได้นะคะ
    ข้าวกุ้งคั่วพริก **เรคคอมเมนจากทางร้านนาจา ราคา 80 บาท(ถ้าจำไม่ผิด)
    สตรอเบอร์รี่โซดา 

    บรรยากาศโดยรวมของที่นี่ถือว่าโอเค แต่พึ่งเปิดใหม่อาจจะมีติดขัดบ้าง ชักช้าบ้าง
    ในส่วนของโซนร้านอาหารร้านเปิด 10.00-21.00น.
    โซนคาเฟ่เปิด 08.00-18.00น. 

    กินข้าวอะไรเสร็จเรียบร้อยว่า จะเที่ยวเล่นในตัวเมืองก่อนขึ้นไปดอยเสมอดาว 
    แต่พอไปถามทางจากร้านค้า เค้าบอกมาว่าต้องขับรถย้อนกลับไปทางที่มาเมื่อเช้าอีก 100 กว่ากิโล 
    แม่แบบโอ้โหวววว เราต้องรีบไปแล้ว แวะไหนไม่ได้แล้ว ขับกลับไปอีกไกล 
    นี่ก็เปิดแผนที่เลยค่ะ ก็บอกว่าไม่ถึงร้อยกิโลนะแม่ มันบอกมางี้ 
    ขับรถกลับออกมาที่ อ.เวียงสา เพื่อที่จะ อ.นาน้อย แม่บอกถ้าเรารู้ก่อนเราก็ไม่ต้องเข้ามาในเมืองไง 
    นี่เลยสวนกลับไปว่า ก็โทรศัพท์พังไง ฮ่าๆๆๆๆ 
    ก่อนขึ้นดอยต้องเตรียมเสบียงไปตุนอีก กลัวไม่มีร้านอาหาร แวะเซเว่นตุนเสบียง ขนม น้ำ นม 
    หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ ดอยเสมอดาว 

    พอไปถึงดอยเสมอดาว ร้านอาการก็มี หมูกระทะก็มี (จะตุนเสบียงมาทำม้ายยยยย)
    ละแบบคนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกก(ขนาดไปช่วงไม่เทศกาลละนะ) รถจอดเต็มตั้งแต่ข้างล่าง ตามไหล่ทาง จนไปถึงข้างบน พอไปข้างบนโชคดีมีที่จอดรถว่างหนึ่งคัน ยิ้มเลยค่ะ สบายละ จอดรถเสร็จไปหาที่กางเต้นท์
    จะกางเต้นท์ มีลุงกับป้าเต้นท์ข้าง ๆ มาช่วยกาง เสร็จเร็วขึ้นมาอีกนิด 
    ในขณะที่กางเต้นท์อยู่เจ้าหน้าที่อุทยานก็ประกาศว่า 
    "และขอให้นักเที่ยวที่นำเต้นท์มากางเอง จ่ายค่าสถานที่ 30 บาท/คน" 
    "ขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวที่ขนของลงรถเสร็จแล้ว ให้นำรถลงไปจอดไว้ข้างล่างให้หมดด้วยนะครับ ข้างบนเราไม่อนุญาตให้จอด" 

    ผ่างงงงงงงงงงง เงิบสิครับบบ ต้องเอารถลงไปจอดข้างล่าง แล้วขึ้นมาไงอ่ะ ทำไงไม่ได้นอกจากเดินขึ้นมา ฮ่าาาา คิดซะว่าออกกำลังกายเนอะ 
    ในวันที่เราไป วันนั้นโชคดีค่ะ เป็นวันเด็ก เค้างดเก็บค่าผ่านประตู ต่าง ๆ มากมาย เลยจ่ายไปคนละ 30 บาท สองคนกับแม่ ก็ 60 เด้อ ค่ารถยนต์ก็ไม่ได้จ่าย เรียกได้ว่าโชคดีไป ไม่เจอค่ายิบย่อย 55555
    ร้านอาหารมีให้บริการนะ ไม่ต้องกลัวอดเลยอ่ะ มีบริการส่งหมูกระทะถึงข้างบน คือเค้ามีอุปกรณ์ให้ครบเลยแหล่ะ ไม่อดแน่นอน

    คืนนี้ต้องได้เห็นดาวตามที่เราตั้งใจจะมากัน
    หกโมงทุ่ม มืดแล้ว ออกไปดูดาว ท้องฟ้าสวยมาก ดาวพราวระยิบ (ในส่วนของดาวเราไม่สามารถถ่ายรูปมาให้เห็นได้ ยังถ่ายดาวไม่เป็นค่ะ) แต่ขอยืนยันว่าสวยจริง ๆ สวยมาก แนะนำให้ไปเห็นด้วยตา สัมผัสด้วยใจ สักสองทุ่มกว่า ๆ พระจันทร์ก็ได้ขึ้นมายลโฉม สวยมาก เหมือนเราอยู่ใกล้พระจันทร์มาก ส่องสว่างทั้งคืน เช้ามาก็ไปรอดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูทะเลหมอก :) เป็นอันปิดภารกิจที่ดอยเสมอดาว 

    คืนที่ดาวเต็มฟ้า ฉันจินตานาการเป็นหน้าเธอ........


    **นอนเต้นท์เด้อ ต้องมีความเกรงใจกันในระดับหนึ่งแหล่ะ เพราะเต้นท์มันใกล้กัน เค้างดใช้เสียงหลัง 21.00น. เราก็ต้องปฏิบัติตามแหล่ะ แต่ถ้าจะไม่ทำตามทำก็ไม่ควรส่งเสียงดังจนเกินไปอ่ะ นี่เจอมาแบบต้องตื่นมาบอกให้เค้าคุยกันเบา ๆ ลงหน่อย คือมันเสียงดังจจนเกินไป 
    **อีกอย่างเราจะเจอมหกรรมการนอนกรนนะคะ ต้องอดทนนะคะ สมมติว่ามันเป็นเสียงสนุก ๆ นี่ก็ว่าไปนั่น แทบจะนอนไม่ได้เหมือนกัน 
    แต่ก็อย่างว่าละเนอะเที่ยวแบบนี้ก็ต้องเจออยู่แล้ว 

    ในส่วนของสภาพอากาศ ไม่หนาวมากนะคะ ช่วงที่เราไป เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวส่วมให้พออุ่นค่ะ 
    แต่สำหรับคนขี้หนาวก็อาจจะมีหมวก มีผ้าพันคอเตรียมไปเนอะ อันนี้ก็แล้วแต่ตัวใครตัวมัน 
    ห้องน้ำมีให้บริการค่า สะอาดโอเค
    น้ำเย็นใช้ได้ เราอาบน้ำเด้อ ทั้งกลางคืนทั้งเช้า กลางคืนก็ไปอาบตอนสองทุ่ม เช้านี่ตื่นมาอาบตอนตีห้า ฮ่าาาาาาา (คนบ้า)บางคนก็ไม่อาบเพราะว่าหนาว 
    แต่เราเป็นคนขี้ร้อนอ่ะ ก่อนนอนก็ต้องอาบ เช้าก็ต้องอาบ ไม่งั้นจะหงุดหงิดเหนียวตัว 
    มารอดูพระอาทิตย์ขึ้น
    ในที่สุดก็ขึ้นมาให้เห็นแล้ว
    นักท่องเที่ยวหลังดูพระอาทิตย์ขึ้น

    แวะทานข้าวเช้าที่ข้างล่างที่ขับรถผ่านมาเมื่อวานแหล่ะ แม่อยากกินไข่กระทะ หมดค่าอาหารมื้อเช้าไปทั้งหมด 110 บาท เติมพลังเสร็จก็ออกเดินทางต่อเลยค่าาาา
    ขนมปังปิ้ง น่าจะ 30 บาท
    ไข่กระทะ น่าจะ 40 บาท

    แต่ช้าแต่ เรายังไม่จบการเดินทางพียงเท่านี้ 
    ด้วยความยังไม่อยากกลับ เราเลยพากันไปปัวต่อ 

    ไปทำไมก็ไม่มีเป้าหมายนะคะ ไปเรื่อย ๆ ขับรถไปเรื่อย ๆ ก็สนุก 

    อ้อออ แต่มีคนแนะนำมาว่าให้ไปกินกาแฟบ้านไทลื้อ 


    กาแฟบ้านไทลื้อ เป็นร้านกาแฟของร้านลำดวนผ้าทอ ในโซนร้านกาแฟ บรรยากาศดีมาก มีที่ให้นั่ง นอน ชมวิว ท้องทุ่งนาสีเขียว แต่ช่วงที่เราไปเค้าเก็บเกี่ยวไปหมดละะเนอะ เลยปลูกดอกไม้แทน

    ในส่วนของรูปสวยๆของสถานที่ แนะนำให้ไปหารีวิวอื่น ๆ ดูนะคะ ทางเราไม่มีให้ชม ฮ่าาาาาา

    กาแฟเค้าคั่วเอง บดเองเด้อ แต่ซื้อเมล็ดกาแหมาจากที่อื่นแหล่ะ (แป่ววววว...ไปรู้เค้าอีก ก็แม่ถามเค้ามาอ่ะ ด้วยความอยากรู้ ฮ่าาาา ) แต่กาแฟเค้าอร่อยจริง ๆ นะ 


    ที่นั่นก็มีเสื้อผ้าทอ ขายเยอะมาก ราคา ถือว่าถูกมากทีเดียว ในร้านยังมีป้ายติดว่า "ขายถูกแล้วค่ะ ห้ามต่อ" 

    เอ้อออเอ้าเค้าเขียนมาขนาดนี้แสดงว่ามันต้องมีคนไปต่อราคาเค้าแน่ๆ 

    เที่ยวเล่นเสร็จแล้ว ไปไหนต่ออ่ะ ไม่มีที่ไปแล้ว กลับสิกลับกันเถอะ 

    เที่ยงกว่า ๆ แล้วก็ไม่รู้จะหาไรกินที่ปัว จะกลับเลยตัดสินใจว่ากลับมากินในเมืองละกัน เตี๋ยวไร้เทียมทาน ที่ขับผ่านวันก่อนเห็นชื่อแล้วอยากลอง สุดท้ายก็ได้กิน

    เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังเลยนะ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกระดูก ฮื้อหืออออ ถือว่าเด็ด ร้านอยู่แถว ๆ โรงเรียนอะไรสักอย่างอ่ะ จำไม่ได้ 

    ไปถึงต้องรอคิวอีกนาจาา เค้ามีคิวให้ อย่าลืมไปหยิบคิวล่ะ ถ้าเห็นโต๊ะว่างแล้วเดินเค้าไปนั่ง เค้าไม่ให้กินเด้อ เค้าจะเชิญให้ออกมารอคิวก่อนเด้อ ฮ่าาาาาา

    ก๋วยเตี๋ยวอร่อยสมคำร่ำลือ เค้าบอกว่า ไม่ใช้มะนาวขวด ไม่ใช้น้ำประปาต้มซุป กระดูกสันหลังมังกร หูยยยย เค้าเคลมอะไรอีกเยอะแยะ อยากรู้ต้องไปลองค่ะ 

    ถ้าใครไปเที่ยวน่านก็อย่าลืมไปแวะลองกันนะคะ

    ต้มยำดูก พิเศษ 60 นาจา (เราไม่กินผัก เลยดูเหมือนเตี๋ยวเด็กเลย)

    ของแม่ แม่ไม่กินเผ็ด น้ำใสดูกรวม ธรรมดา 50 เด้อ 

    เอาล่ะค่ะ เวิ่นเว้อ มาพอสมควร ได้เวลาจบลงแล้ว สำหรับทริปนี้ สนุกสนานมากจริง ๆ ค่ะ กลับมาถึงบ้านหลับเป็นตาย เรียกได้ว่าหลับไปตอนไหนไม่รู้ตัว

    เล่าเรื่องครั้งแรก เราเล่าแบบน้ำบ้างเนื้อบ้าง สนุกมั่งไม่สนุกมั่ง(หรือจริงๆไม่สนุกเลย) 555555

    เราไม่ขอเรียกว่ารีวิิวนะ หรือเรียกว่า รีวิวบ้างประปราย 

    จริง ๆ เราว่าเรารีวิวอะไรไม่ค่อยเก่งหรอก คือจำอะไรไม่ได้ขนาดนั้น 

    ก็เลยออกมาในรูปแบบของเรื่องเล่าซะมากกว่า(หรือเปล่า??) 

    เขียนผิดตรงไหน บอกกันได้นะคะ ภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ 

    ภาษาอังกฤษก็ไก่กา เอ้าาาาา! แล้วมีดีอะไร เอาจริง ๆ ก็ไม่มีค่ะ ฮ่าาาาาา

    **แนบคลิป**




    "When you’re traveling, 
    you are what you are right there and then. 
    People don’t have your past to hold against you. 
    No yesterdays on the road." – William Least Heat Moon

    ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายนะคะ 

    ด้วยรัก

    PT

    -เจอกันในครั้งต่อไป ไปเที่ยวกับแม่แล้วจะกลับมาเล่าใหม่-

    #ท่องเที่ยว #บันทึก #travel #PTเที่ยวกับแม่ #PTtravelxMom #การเดินทาง #เรื่องเล่า #รีวิว #review #thailand #NAN #น่าน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in