เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
something worth watchingnadnnaddy
Review: Movies based on MARS
  • ดูเหมือนว่า "ดาวอังคาร" จะเป็นหนึ่งสถานที่ยอดฮิตที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์
    NASA และนักวิทย์ศาสตร์ก็ได้ให้ความสนใจกับเรื่องดาวอังคารมาอย่างยาวนาน
    แต่สิ่งที่เซอไพรส์เรามากคือหนังเรื่องแรกที่พาเราไปรู้ัจักดาวอังคารนั้นมีตั้งแต่ปี 1910 แล้วนะ!
    โดยเรื่องนั้นมีชื่อว่า A Trip To Mars ซึ่งหนังเรื่องนั้นมีความยาวเพียง 4 นาที
    ถือว่าเร็วมากๆเลยนะที่ Mars ได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์เพราะว่าหนังเรื่องแรกของโลกเกิดขึ้นในช่วงปลาย 1800s นี้เอง หลังจากนั้นก็มีหนังเกี่ยวกับดาวอังคารออกมาเรื่อยๆเลยจนถึงปัจจุบันนี้

    อย่างเรื่องที่ทุกคนน่าจะได้ยินชื่อเสียงเรียกนามกันเมื่อไม่นานนี้ก็คือ The Martian (2015) ที่พาพี่ Matt Damon ไปสู่เวทีออสการ์กันเลยทีเดียว


    แต่วันนี้เราไม่ได้จะมาพูดหนังของพี่แมตต์แต่อย่างใด หนังที่เราจะมาพูดถึงวันนี้มี 2 เรื่องด้วยกัน ซึ่งเราว่าเพื่อนๆก็คงเดากันออกไม่ยากเลยใช่มั้ยคะ :-)

    ก่อนที่จะไปอ่านความรู้สึกของเราต่อหนัง 2 เรื่องนั้น เราอยากจะแฝงเกร็ดเล็กๆเกี่ยวกับเจ้าดาวดวงนี้ไว้ซะหน่อย เผื่อจะทำให้เพื่อนๆเข้าใจกันมากขึ้นว่าทำไมดาวดวงนี้มันถึงน่าสนใจอะไรขนาดนี้นะ?

    -1 วันของดาวอังคารเท่ากับ 24 ชั่วโมง 39 นาที 35 วินาที ซึ่งใกล้กับโลกมากๆ
    -ในปี 1976 ยานอวกาศ Viking 1 และ Viking 2 ได้ลงจอดที่ดาวอังคาร โดยยานแรกใช้เวลาอยู่บนดาวอังคาร 4 ปี และ ยานลำที่สองใช้เวลาถึง 6 ปี
    - รูปภาพที่ถูกบันทึกมาจากยานทำให้ได้รู้ว่าบนดาวอังคารมีทั้งน้ำ, ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง, และดิน
    -ปี 2012 NASA ค้นพบ underground ice บนดาวอังคาร
    -ปี 2014 NASA ยังคงเจอสารต่างๆที่บ่งบอกถึงการ "เคย" อาศัยอยู่ของสิ่งมีชิวิตบนดาวอังคาร และ NASA ให้ความสนใจกับดาวดวงนี้จนมาถึงปัจจุบัน
    -นอกจากบรรดาหนังที่นับไม่ถ้วน David Bowie นักร้องเพลงร็อคชื่อดังยังปล่อยเพลงชื่อ Life on Mars ในปี 1971 อีกด้วย :-D


    อ่านสาระไปกันพอหอมปาก หอมคอ ออกนอกเรื่อง นอกทะเลไปไกลเลย555555
    ปี2017พึ่งผ่านไป 3 เดือน มีหนังเกี่ยวกับดาวอังคารมาให้เราเห็นถึง 2 เรื่อง
    ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะมีมาอีกมั้ย ต้องรอติดตาม


    1. The Space Between Us


    Director: Peter Chelsom
    Duration: 121 minutes
    IMDb: 6.3/10
    Last watched: 02/03/17

    "You made me human."

    ต้องขอชมก่อนเลยว่าเรื่องนี้ภาพสวยมาก สวยแบบเลอค่า production นี้ได้ใจเราไปเต็มๆเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นบนดาวอังคารหรือฉากบนโลกเอง ชอบ character ที่ชัดเจนของนางเอก โดยนางเอกก็ได้ Britt Robertson จาก Tomorrowland มารับบทนี้ ถึงแม้นางเอกจะหน้าแก่ไปเลยเมื่อมายืนข้างนุ้ง Asa แต่เราก็ชอบอดตกหลุมรัก character ของนางเอกที่ถูกวางมาไม่ได้ ชอบความใสซื่อ อินโนเซ็นต์ของพระเอก เรียกว่าใครติ่งเอซ่าพลาดไม่ได้เลยอะเรื่องนี้ ดีงามมาก55555 ฉากที่อยู่ในsupermarketกับroad trip เราดูแล้วนึกถึงหนังเรื่อง Paper Town เลย การมี road trip ก็ทำให้หนังมีอะไรมากขึ้นสำหรับเรา แต่ข้อเสียของหนัง คงเป็นการที่หนังมี plot hole หลายๆจุด แล้วตัว background story ก็แห้งและไม่ทำให้อินได้เท่าที่ควร ยกตัวอย่างเช่นการที่นางเอกเน้นมากๆว่าชีวิตหล่อนแย่มาก+พระเอกสำคัญมากๆต่อชีวิตหล่อน แต่หนังไม่ได้เล่าอะไรลงลึกถึงความลำบากของนางเอกเลย หรือวิทยาศาสตร์บางอย่างมันไม่ค่อยสมเหตุสมผล เช่นตอนท้ายๆของเรื่อง จะไม่สปอยล์5555 ถ้ามองหนังเรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติก จริงๆเราคงให้คะแนนเยอะเลยนะ แต่ด้วยความที่หนังไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นหนังโรแมนติกแต่อย่างเดียว แต่ต้องมีความเป็นsci-fiอยู่ ซึ่งหนังทำไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราเลยขอให้คะแนนไป

    Personal Rating: 7.6/10

    แต่ๆๆๆ มันยังไม่หมดเท่านั้นสำหรับเรื่องนี้!!!
    เราจะบอกว่าsoundtrackเรื่องนี้ดีมากกก เป็นหนึ่งเหตุผลที่กดคะแนนให้รัวๆๆ
    ไหนๆก็ไหนๆอยากแนบเพลงที่เราชอบกลับไปให้ฟังกันหน่อยย




    soundtrack อื่นๆ ที่เราชอบก็จะมี
    Stay Right Where You Are (Ingrid Michelson), Waves (Kathryn Ostenberg), Hold Back The River (James Bay)
    ลองไปหาฟังเพลินๆกันได้นะคะ ดีทุกเพลงจริงๆ คอนเฟิร์มเลย :- D

    2. Life


    Director: Daniel Espinosa
    Duration: 103 minutes
    IMDb: 7.2/10
    Last watched: 25/06/17

    "What I feel right now is unscientific and irrational. I feel hatred."

    เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เห็นบรรยากาศบนดาวอังคารซะทีเดียว แต่เราจะไปท่องอยู่ในยานอวกาศที่พึ่งจับสิ่งชีวิตจากดาวอังคารมาต่างหากล่ะ! พล็อตเรื่องอาจจะไม่ได้แปลกมากซะทีเดียว การที่นักบินอวกาศต้องสู้กับเอเลี่ยนเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด ตัวภาพ แสง สีต่างๆ อาจจะไม่ได้ดีเลิศหรู แต่ต้องบอกเลยว่าเรื่องนี้ลุ้นไม่ติดเก้าอี้มากๆ หนังไม่ได้ซัดฉากน่ากลัวมาติดๆๆกัน แต่จะค่อยๆโยนมา แต่ละครั้งก็เอาทำเอากรี้ดเบาๆ แต่เราว่าจังหวะดีมาก ดูสมจริง หนังจะใส่ดราม่ามาเรื่อยๆสลับกับฉากตื่นเต้น แต่จะบอกว่าฉากดราม่าไม่ทำให้เราอินเลย นี้อาจจะเป็นข้อเสียของหนัง ทั้งๆที่ความสัมพันธ์ของคนบนยานดูผูกผันกันมากๆ แต่เราว่าหนังยังบี้ไม่ค่อยสุด ตัวละครแต่ละตัวเหมือนจะมีstoryของตัวเอง แต่หนังไม่ได้ทำให้ของคนไหนเข้าถึงคนดูได้เลย ฉากดราม่าที่เราชอบมากๆคงเป็นฉาก "goodnight" มันคืออะไร อันนี้ต้องไปดูกันเอาเองเนอะ55555 ตอนจบเรื่องนี้ก็แหวกแนวดี เราไม่ได้ทั้งชอบ และไม่ได้ทั้งไม่ชอบกับตอนจบแบบนี้นะ ก็รู้สึกว่ามันเป็นตลกร้ายดี555555 สำหรับเราแล้วเรื่องนี้ลุ้นและตื่นเต้นมากๆ ถึงแม้บางฉากจะทำหลุดโฟกัส แต่ร่วมๆแล้วไปดูได้เอามันส์เลย

    Personal Rating: 7.5/10

    ทั้งๆที่ "ดาวอังคาร" ก็เป็นสถานที่มีเพียงไม่กี่คนที่ได้ขึ้นไปเหยียบ
    แต่กลับกลายเป็นหนึ่งใน location เด็ดในการจะนำมาสร้างเป็นหนังซักเรื่อง
    จาก 2 เรื่องนี้ ก็จะเห็นได้เลยว่าทั้งๆที่อิงข้อมูลจากสถานที่เดียว แต่หนังสามารถทำให้อารมณ์ที่ออกมาต่างกันมากๆ นี้ยังไม่นับหนังมากกว่า 10 เรื่องที่อิงข้อมูลจากดาวดวงนี้นะ!
    เราว่ามันเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์มากๆการที่สถานที่ๆเดียวสามารถทำให้เกิดเรื่องราวที่แตกต่าง โดดเด่นได้มากมายขนาดนี้ ก็อยากจะให้เพื่อนๆได้ลองไปสัมผัสบรรยากาศนอกโลกไปกับหนังสองเรื่องนี้นะคะ :-)

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in