เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Review - ZICO 2nd Mini Album - 'TELEVISION'aorvip
"ZI-AH-CO" การเปิดเผยตัวตนที่หลากหลายผ่านบทเพลงจากมินิอัลบั้ม 'TELEVISION'
  • ZICO (ซิโค่) หรือ Woo Jiho (อู จีโฮ) เป็นหนึ่งในสมาชิกวง BLOCK B ศิลปินกลุ่มจากแดนกิมจิ ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดค่ายเพลง KQ Entertainment หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Seven Seasons โดยมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าวงและ Main Rapper อีกทั้งยังเป็นนักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ให้กับวง BLOCK B นอกจากนั้นยังเคยทำเพลงให้กับศิลปินอื่นอีกมากมาย ร่วมร้องกับศิลปินในวงการเพลงเกาหลีใต้อีกหลายคน รวมถึงการมีซิงเกิลเดี่ยวที่ปล่อยออกมาเรื่อยๆพร้อมกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ฟัง หลังจากที่ซิโค่ได้ปล่อยมินิอัลบั้มภายใต้ชื่อ 'GALLERY' เมื่อปี 2015 ในปี 2017 นี้ซิโค่ก็ได้กลับมาแสดงตัวตนในฐานะศิลปินเดี่ยวอีกครั้งกับมินิอัลบั้มที่มีชื่อว่า 'TELEVISION' ซึ่งได้ปล่อยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา และมินิอัลบั้มนี้มีทั้งหมด 6 เพลงที่สื่อถึงตัวตนของซิโค่ในฐานะแร็ปเปอร์แห่งวงการเพลงฮิพฮอพเกาหลีใต้

    สมาชิกวง BLOCK B มีทั้งหมด 7 คน เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา : 
    JAEHYO, PARK KYUNG, P.O, ZICO, U-KWON, B-BOMB และ TAEIL



    Toy : ผลงานเพลงของวง BLOCK B จากมินิอัลบั้มชุดล่าสุด 'Blooming Period' (2016)



    Eureka (Feat. Zion. T)  หนึ่งบทเพลงจากมินิอัลบั้ม 'GALLERY' (2015) ของ ZICO

    อันดับแรกขอกล่าวถึงศิลปินซักเล็กน้อย นอกจากการแนะนำตัวก่อนที่จะเข้าเพลงหรือเริ่มแร็พในท่อนของตัวเองด้วยคำว่า "ZI-AH-CO" ที่ผู้ฟังจะได้ยินแทบทุกเพลงแล้ว สไตล์อันโดดเด่นของซิโค่คือ ดนตรีฮิพฮอพที่จัดจ้านไปด้วยสีสัน รวมทั้งการออกเสียงอักขระที่ชัดเจนทั้งในภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาตระหนัก ซิโค่เคยกล่าวไว้ว่า เขาพยายามที่จะออกเสียงให้ชัดเจนเพื่อให้คนฟังเข้าใจเพลงได้โดยที่ไม่ต้องไปหาเนื้อเพลงดูทีหลัง (ตรงนี้น่าจะหมายถึงคนที่สามารถฟัง พูด และมีความรู้ในภาษาเกาหลี) ซึ่งมินิอัลบั้มนี้ก็ยังคงคอนเซ็ปแนวดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของซิโค่ รวมทั้ง Music Video ที่ถ่ายทอดตัวตนของเขาออกมาตามแนวเพลงในอัลบั้ม ซึ่งต้องบอกก่อนว่าทั้ง 6 เพลงมีสไตล์ที่แตกต่างกันไป แต่รวมๆแล้วก็สื่อถึงตัวตนที่หลากหลายของศิลปินคนนี้ได้ดีทีเดียว นอกจากนั้นซิโค่ยังเป็นแร็ปเปอร์ที่เต้นเก่งด้วยนะ (ᵔᴥᵔ)
  • มาพูดถึงเพลงในอัลบั้มนี้กันดีกว่า โดยจะขออธิบายตาม Tracklist บนปกอัลบั้มเลยละกัน :)

    Track 1 : 천재 (Behind the scene)


    ชื่อเพลงนี้ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษก็คือ Genius (Behind the scene) เนื้อหาของเพลงก็แสดงให้เห็นมุมมองที่ซิโค่พยายามจะบอกกับผู้ฟังว่า เบื้องหลังการทำเพลงนั้นเขาก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมายกว่าจะได้เพลงๆหนึ่ง โดยเขามองตัวเองเป็นนักดนตรีที่ใช้ความสามารถเล็กๆที่มีอยู่ในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งแม้ภายนอกคนจะมองว่าเขาเป็นอัจฉริยะทางดนตรี แต่เขาก็ต้องเจอกับปัญหามากมายระหว่างช่วงเวลานั้น โดยซิโค่ได้กล่าวว่า เขาไม่ได้จะถ่อมตัวอะไรหรอก เพียงแต่อยากให้มองสองด้านเท่านั้นเอง เพราะศิลปินคนหนึ่งก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการผลิตงานเพลงเพื่อให้เข้าถึงผู้ฟังที่คอยติดตามมากที่สุด ชื่อเพลงจึงเป็นการสื่อมุมมองของแฟนเพลงที่ชื่นชมเขาและความจริงในฉากหลังที่ศิลปินคนหนึ่งต้องเผชิญ ซึ่งก็เป็นการตั้งชื่อเพลงที่สื่อมุมมองทั้งสองได้ดี บวกกับจังหวะ medium กลิ่นอายดนตรีฮิพฮอพบรรเลงเปียโนผสมผสานกับการแร็พของเขา เพลงนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในเพลงโปรดของเราไปแล้ว


    ************** 


    Track 2 : Artist (Title)


    หลังจากสัมผัสมุมมองเรียลๆไปแล้ว ก็เข้าสู่โหมดโลดแล่นไปในโลกแห่งจินตนาการในบทบาทของ Artist  เพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลง Title จากมินิอัลบั้ม Television ซิโค่กล่าวถึงเพลงนี้ว่าเขาตั้งใจทำมันในช่วงเวลาที่เขาอารมณ์ดีและใส่ใจกับเพลงนี้มากที่สุด เพราะเขาต้องการให้เพลงนี้ส่งไปถึงคนที่เหน็ดเหนื่อยกับการใช้ชีวิตหรือเบื่อหน่ายกับอะไรที่ซ้ำซากจำเจ อยากให้ทุกคนที่กำลังท้อถอยหรือหมดหวังลุกขึ้นมาสนุกกับการออกไปปลดปล่อยตามที่ใจต้องการ เปรียบทุกคนมีความเป็น Artist ในตัวเอง เพียงแค่หยิบพู่กันในมือแล้ววาดหรือระบายอะไรลงไปตามความคิด แล้วพักผ่อนให้เต็มที่ในจินตนาการของเรา จังหวะของเพลงนี้จึงเป็นแนวแดนซ์ แต่ยังคงกลิ่นอายฮิพฮอพอยู่เหมือนเดิม โดยเพลงนี้ซิโค่ได้ชวนเพื่อนร่วมวง BLOCK B คือ U-KWON ตำแหน่ง Lead Dancer ของวงมาร่วมแสดง MV และยังได้นักออกแบบท่าเต้นชื่อดังจากญี่ปุ่น คือ Riehata และทีมของเธอ มาร่วมสนุกในครั้งนี้ด้วย

    เพลงนี้เป็นเพลงที่เราชอบมาก ยกให้เป็นอันดับ 1 ของมินิอัลบั้มนี้ เพราะเป็นอีกหนึ่งตัวตนของซิโค่ที่เราชอบ แฟชั่นที่ไร้ขอบเขต สีสันของเพลงที่ถ่ายทอดออกมาเป็น MV ตัวนี้ยิ่งทำให้บรรยากาศสนุกขึ้นมาอีก เป็นเพลงที่อยากฟังสดๆซักครั้ง และขอแนะนำให้ทุกคนเข้าไปชม MV รับรองว่าสนุก เพราะ Life is short Art is long นะจ๊ะ 。◕‿◕。

    BLOCK B's U-KWON & ZICO


    RIEHATA & ZICO


    ZICO, U-KWON WITH RIEHATATOKYO TEAM


    ************** 
  • Track 3 : Anti (Feat. G.Soul) (Title)


    มาถึงเพลง Title อีกเพลง เพลงนี้มีชื่อว่า Anti ซึ่งก็ได้ G.Soul ศิลปิน R&B มาร่วมฟีทเจอริ่ง ปัจจุบัน G.Soul เป็นศิลปินในสังกัดค่ายเพลง H1GHR MUSIC ซึ่งเป็นค่ายลูกของ AOMG ที่ Jay Park หรือ Park Jaebum (อดีตสมาชิกวง 2PM) ได้ร่วมก่อตั้งขึ้น ซึ่งเนื้อหาของเพลงนี้ซิโค่ได้สร้างตัวละครขึ้นมาโดยเล่าจากมุมมองของ Anti Fan ที่มองศิลปินเป็นสินค้า ไม่มีคำว่าส่วนตัว เพราะลูกค้าคือพระเจ้า ซึ่งคำแปลนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของเพลง ถึงแม้เพลงนี้จะเป็นการถ่ายทอดมุมมองด้านลบ แต่ก็นับว่าเป็นอีกด้านหนึ่งที่คอยย้ำเตือนตัวเขาตลอดว่า เมื่อได้ก้าวเข้าสู่ความเป็นบุคคลสาธารณะแล้วก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ ในขณะที่มีคนชื่นชมมากมายก็ย่อมมีคนที่คอยลดทอนคุณค่าของตนอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน ดังคำแปลจากเนื้อเพลงที่ว่า "ร้อยความดีที่แกทำ ฉันจะสลักไว้บนผืนทราย และเมื่อไหร่ที่แกพลาด ฉันจะสลักมันไว้บนหินผาอันแข็งแกร่ง" 

    ในมุมมองของเรา ไม่มีด้านไหนที่ถูกและผิดเสมอไป ทุกอย่างย่อมมีหลายด้าน ความเกลียดชังจาก Anti Fan ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เขาต้องเจอระหว่างทางของการเป็นศิลปิน แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือเขาสามารถเก็บความคิดเหล่านี้มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานตัวเองให้แปลกใหม่ ซึ่งซิโค่ก็ยอมรับว่ารู้สึกตลกร้ายเหมือนกันที่ต้องมาล้อเลียนตัวเองในขณะที่ทำเพลงนี้ 555 จึงเป็นอีกเพลงที่แนะนำ และสำหรับเหล่า Anti Fan ที่ได้ฟังก็อาจมีสะดุ้งกันบ้างว่านี่แหละคือสิ่งที่คุณให้กับคนๆหนึ่งที่เขาสร้างสรรค์ผลงานด้วยความตั้งใจ 

    ************** 

    Track 4 : Fanxy Child (Feat. Fanxy Child)


    ต่อไปเป็น track ที่ 4 ซึ่งต้องบอกก่อนว่าการเรียง track ในมินิอัลบั้มนี้ก็โคตรจะตั้งใจเลย หลังจากที่อินกับคำสบถก่นด่าจากเหล่า Anti Fan ใน track ก่อนหน้านี้ ก็มาถึงเพลงที่ 4 ที่มีชื่อว่า Fanxy Child (Feat. Fanxy Child) ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วไอ้ Fanxy Child นี่เป็นใครกัน? 

    ขออธิบายคร่าวๆว่า Fanxy Child เป็นกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวของเพื่อนสนิทที่มีทั้งนักร้อง โปรดิวเซอร์ รวมไปถึงดีเจชาวเกาหลีใต้ที่เกิดในปี 1992 มีทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย ZICO จากวง BLOCK B, DEAN ศิลปิน Alternative R&B, CRUSH ศิลปิน R&B, PENOMECO แร็ปเปอร์ใต้ดิน และ DJ.MILLIC (เป็นคนเดียวที่เกิดในปี 1993) ซึ่งปัจจุบันเป็นศิลปินสังกัดค่าย HIGHGRND (เป็นค่ายลูกของบริษัท YG Entertainment ซึ่งดูแลโดย TABLO จากวง EPIK HIGH) ทั้งห้าคนได้รวมตัวกันในปี 2016 และร่วมทำเพลงกันภายใต้ชื่อกลุ่ม Fanxy Child นี้ แต่ก็ยังคงมีผลงานในฐานะศิลปินเดี่ยวและสมาชิกของวงหรือกลุ่มที่ตัวเองสังกัดเช่นเดิม เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มศิลปินที่ทำโปรเจกต์พิเศษร่วมกันเป็นครั้งคราว แต่ก็ฮ็อตไม่เบา เพราะเมื่อไหร่ที่ทั้งห้ารวมตัวกันมักจะมีเพลงเจ๋งๆออกมาเสมอ

    ดังนั้นเพลง Fanxy Child ความหมายก็ตรงๆ เป็นการประกาศศักดาให้รู้ว่ากลุ่ม Fanxy Child นี้เจ๋งขนาดไหน ในแต่ละพาร์ทของแต่ละคนก็จะแสดงความเจ๋งของตัวเองในเรื่องความสามารถและประสบการณ์ในวงการเพลงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเพลงที่มีสไตล์ฮิพฮอพจ๋าเลย ใส่กลิ่นอายความเป็น Asian HipHop ลงไป ความ flow และชัดถ้อยชัดคำในการแร็พของ ZICO เสียงสูงอันมีเอกลักษณ์ของ PENOMECO บวกกับสไตล์การเล่น trap ที่โดดเด่น ผสมผสานกับการร้องแบบ R&B ของ DEAN และ CRUSH อีกทั้งนักร้องทั้งสองคนนี้ยังได้โชว์ทักษะการแร็พที่เขาทั้งคู่ก็ทำได้ดีไม่แพ้แร็ปเปอร์อย่าง ZICO และ PENOMECO พอได้อ่านความหมายของเพลงยิ่งทำให้รู้สึกว่า "เฮ้ย แ*งเจ๋งว่ะ" อีกทั้งเมื่อเป็น track ที่วางไว้ต่อจากเพลง Anti จึงให้ฟีลที่ตรงกันข้ามและเหมือนเป็นการตอบโต้กับเหล่าคนที่ดูถูกคนทำเพลงเป็นนัยๆ ซึ่งคลิปที่โพสต์ประกอบเป็น Live Session จากเพจ Dingo ไม่ใช่ MV นะจ๊ะ แค่อยากให้เห็นหน้าตา Fanxy Child เท่านั้นเอง แต่เพลงนี้ Dj.Millic ไม่ได้ร่วมร้องกับพี่ๆนะ :)

    ตัวอย่างท่อนหนึ่งของ ZICO ซึ่งเป็นพาร์ทที่เราชอบที่สุด แปลความหมายได้ว่า 

    "ย้อนกลับไปปี 2014 ความอคติจางหายไปอย่างไม่มีใครคาดคิด ผมอายุ 24 ตอน SMTM4 และอายุ 26 ตอนซีซั่น 6 สื่อมีเดียรวมกับสายตาอันแหลมคมของผม มันจะสร้างรายได้อันมหาศาล"

    ตรงนี้ซิโค่กล่าวถึงครั้งที่เขาเป็นกรรมการในรายการแข่งขันแร็พที่มีชื่อว่า"Show Me The Money" ซึ่งเป็นรายการที่เฟ้นหาสุดยอดแร็ปเปอร์จากทั่วทุกมุมโลกที่จะเข้ามาประลองความสามารถในการแต่งเนื้อร้องและการร้องแร็พกันสดๆในรายการ รวมไปถึงการแสดงสดร่วมกับศิลปินชื่อดังในวงการเพลงเกาหลีใต้ โดยซิโค่ได้ร่วมเป็นกรรมการตัดสินในซีซั่นที่ 4 ในวัย 24 ปี (ตามการนับอายุของเกาหลี) และกลับมาอีกครั้งในซีซั่นที่ 6 ซึ่งกำลังออกอากาศทางโทรทัศน์ที่เกาหลีใต้ในตอนนี้ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งบทบาทของชายหนุ่มวัย 26 ปี (ตามการนับอายุของเกาหลี) ซึ่งก็ถือว่าซิโค่เป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จระดับหนึ่งในขณะที่อายุยังน้อยสำหรับการทำงานในวงการเพลง

    (การนับอายุตามวัฒนธรรมของเกาหลีจะบวกเพิ่มจากการนับแบบสากลอีก 1 ปี)


    อ้อ! และสำหรับใครที่ติดตามรายการ SMTM ซีซั่น 6 ก็คงจะคุ้นหูกันดี เพราะ Fanxy Child เป็นเพลง Cypher ของทีม ZICO & DEAN ที่ร่วมเป็นหนึ่งในทีมกรรมการตัดสินนั่นเอง (ขอแปะคลิปไว้ให้ดูเลยละกัน ^^")


    [̲̅$̲̅(̲̅5̲̅)̲̅$̲̅][̲̅$̲̅(̲̅5̲̅)̲̅$̲̅][̲̅$̲̅(̲̅5̲̅)̲̅$̲̅][̲̅$̲̅(̲̅5̲̅)̲̅$̲̅][̲̅$̲̅(̲̅5̲̅)̲̅$̲̅][̲̅$̲̅(̲̅5̲̅)̲̅$̲̅]

    Fanxy Child เรียงจากซ้ายไปขวา : DJ.MILLIC, ZICO, DEAN, CRUSH และ PENOMECO

    ************** 
  • Track 5 : She's a Baby


    มาถึง track ที่ 5 กันแล้ว เพลงนี้มีสไตล์ที่แต่งต่างไปจากเพลงอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งซิโค่ก็ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตนในด้านนี้ผ่านงานเพลงซักเท่าไหร่ she's a Baby เป็นเพลงที่มีจังหวะเนิบช้า ฟังสบาย ตัวละครในเพลงอยู่ในช่วงที่กำลังมีความรัก เป็นเพลงที่เหมาะสำหรับช่วงที่กำลังจีบใครซักคนอยู่ พร้อมที่จะเปิดเผยความรู้สึกให้ฝ่ายตรงข้ามรับรู้ ซึ่งซิโค่ได้บอกกับพวกเราว่า เขาจินตนาการถึงกระต่ายตัวผู้ที่พร้อมจะดูแลปกป้องกระต่ายตัวเมียที่ปรากฎในตอนท้าย MV นี้ด้วย อีกทั้งได้ถ่ายภาพเจ้ากระต่ายสองตัวนี้ด้วยตัวเองเพื่อใช้เป็นภาพทีเซอร์โปรโมทเพลง ซึ่ง MV ก็จะมาในโทนสีพาสเทล ให้ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความรักในช่วงที่กำลังผลิบาน จึงเป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่สำหรับแฟนเพลงที่มีต่อแร็ปเปอร์ซิโค่ ซึ่งเพื่อนๆในวงการที่ได้ฟังเพลงของเขาต่างก็รู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นซิโค่ในมุมนี้ แต่ก็เป็นการแสดงให้เห็นมุมที่อ่อนโยนของผู้ชายที่หน้าตาดูก้าวร้าว และยังได้แสดงทักษะในการร้องเพลงอีกด้วย อย่างไรก็ตามซิโค่เองก็เผยว่า เขาไม่มั่นใจในทักษะการร้องเพลงของตัวเองซักเท่าไหร่ เพลงนี้จึงไม่มีการโปรโมทโดยการแสดงสดผ่านทางรายการเพลงของเกาหลี

    (เพลง She's a Baby พร้อม Music Video ออกอากาศเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2560)

    ************** 


    Track 6 : Bermuda Triangle (CD Only)


    และแล้วก็มาถึงเพลงสุดท้ายในมินิอัลบั้ม Television  ถึงแม้บนปกจะบอกว่า CD Only แต่เพลง Bermuda Triangle ได้ปล่อย MV ไปเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2559 หรือในปี 2016 ซึ่งเป็นปีที่ Fanxy Child ได้รวมตัวกันนั่นเอง เพลงนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของศิลปินกลุ่มนี้ โดยมี ZICO DEAN และ CRUSH ร่วมกันทำขึ้นมา ทั้งแต่งเนื้อร้องในพาร์ทของตัวเองและแสดง MV ส่วน PENOMECO หนึ่งในสมาชิก Fanxy Child ก็ได้ร่วมร้องคอรัสด้วย เนื้อหาของเพลงนี้ก็มีความคล้ายกับเพลง Fanxy Child เป็นการประกาศให้รู้ว่า มีกลุ่ม 92line ที่เจ๋งโคตรๆในช่วงเวลานี้ และพร้อมจะสยบทุกคนด้วยบทเพลงของพวกเขา

    จุดเด่นของเพลงนี้อยู่ที่การเล่นคำและใช้สำนวน ซึ่งแสดงให้เห็นทักษะการใช้ภาษาในเพลงฮิพฮอพที่ใส่สไตล์ความเป็นเอเชี่ยนลงไปทั้งในเพลงและ MV อย่างเช่นในท่อนของ Dean ที่บอกว่า 

    "พวกเราเป็นอาชญากร" เป็นการเปรียบเปรย หมายถึง "กำจัดคนอื่นๆ ให้ดับไป" หรือ 

    "ถ้าเข้ามา คุณจะติดอยู่ในวังวนสามเหลี่ยมนี้" จริงๆแล้วคำที่ใช้ในเนื้อเพลง หมายถึง รักสามเศร้า แต่จะแปลว่า "คุณจะติดอยู่ในวังวนรักสามเศร้า" ก็คงดูขัดๆกับสไตล์เพลง สามเหลี่ยมนี้จึงหมายถึง ZICO DEAN และ CRUSH นั่นเอง ซึ่งหมายความว่า "ถ้าใครหลงเข้ามามีซวยแน่นอน" 

    รวมไปถึงการเล่นคำในท่อนของ ZICO ที่แปลความหมายได้ว่า "เซเด(ยุคสมัย) เปลี่ยน เราก็เลยต้องกลายเป็น เดเซ(เทรนด์) ในยุคนี้" เพลงนี้จึงเป็นอีกเพลงที่ดนตรีมีความเร้าใจและรู้สึกได้ถึงความ cool ของกลุ่มศิลปิน Fanxy Child

    ************** 
  • ทั้ง 6 เพลงจากมินิอัลบั้ม Television จึงเป็นการแสดงออกถึงคาแร็กเตอร์ที่หลากหลายของ ZICO ไม่ว่าจะเป็นมุมของคนทำเบื้องหลัง มุมหลุดโลกในแบบ Artist ความเจ๋งแบบ Fanxy Child สิ่งที่ Anti Fan มอง รวมไปถึงตัวตนที่อ่อนโยนแบบ She's a Baby เปรียบเหมือน Television ที่มีหลาย Channel ให้เลือกดู ซึ่งแต่ละช่องก็จะฉายโปรแกรมที่แตกต่างกันไป อยู่ที่คนดูจะเลือกรับชมช่องไหน และช่องไหนจะมีรายการที่เราติดหนึบจนต้องรอดูทุกสัปดาห์ ทุกอย่างที่นำเสนอผ่านสายตาและการรับฟัง เขาคนนี้คือโปรดิวเซอร์ผู้ผลิตรายการด้วยตัวเองทั้งหมด ขอเชิญเลือกสัมผัสสไตล์ของ ZI-AH-CO ได้ตามใจคุณ :)

    และสำหรับใครที่อยากทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้ เราก็มีผลงานในฐานะศิลปินเดี่ยวของ ZICO มาแนะนำให้ลองฟังกันดู

    *************

    Tough Cookie (Feat. Don Mills) (2014) : เพลงฮิพฮอพบีทหนัก เนื้อหา 19+ ที่แสดงตัวตนของ ZICO ในฐานะแร็ปเปอร์ได้ดีอีกเพลง ตอกย้ำว่า "ฉันนี่แหละตัวปัญหา แล้วยังไงล่ะ ทำได้ดีเท่าฉันหรือเปล่า" 

    และใน MV นี้ ก็มีสมาชิกวง BLOCK B และแร็ปเปอร์อีกหลายคนมาร่วมแสดงด้วย 





    Boys and Girls (Feat. Babylon) (2015) : เพลงจังหวะสนุกๆในบรรยากาศปาร์ตี้ริมสระน้ำ





    I am you, you are me (2016) : สัมผัสมุมหวานๆของแร็ปเปอร์ซิโค่ ซึ่งสันนิษฐานโดยเหล่าแฟนคลับว่า เพลงนี้น่าจะเขียนขึ้นตอนที่กำลังอินเลิฟ 555




    ทิ้งท้ายด้วยความในใจเล็กน้อย ที่มารีวิวช้าไปเพราะตอนแรกกะว่าจะมาเขียนตอนที่อัลบั้มถึงมือแล้ว แต่ก็กลัวฟีลลิ่งจะหมดซะก่อน แหะๆ ^^ ขอบคุณสำหรับทุก View ที่แวะเข้ามาอ่านกันนะคะ (:

    *** The End ***

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in