ข้ามผ่านจากชั้นประถมสู่ชั้นมัธยม ความจริงแล้วก็แค่ข้ามมาเรียนโรงเรียนฝั่งตรงข้าม แต่การเข้ามาใหม่ในโรงเรียนที่มีชั้นประถมอยู่ก่อนแล้วเนี่ยทำให้เราดูเป็นคนนอกขึ้นมาเลย ยิ่งเป็นปีแรกที่มีนักเรียนหญิงในรุ่นด้วยยิ่งแล้วใหญ่
ห้องม.1/1 ไม่ใช่ห้องเก่งหรอก เพราะที่นี่เขาไม่ได้คัดห้อง แต่เป็นหนึ่งในสามห้องที่เลือกเรียนภาษาอังกฤษจากหลักสูตร BELL ในปีแรกนี้โรงเรียนบังคับเรียนซัมเมอร์ที่โรงเรียน และปีนี้เป็นปีที่ประหลาดมากเพราะแทนที่หน้าร้อนจะร้อนจนอารมณ์เสียเหมือนทุกปี ปีนี้กลับมีลมหนาวพัดมาให้ประหลาดใจ และการที่ต้องเปลี่ยนจากเรียก "ครู" เป็น "มิส" หรือ "มาสเตอร์" ก็เป็นเรื่องประหลากสำหรับเราเช่นกัน
นักเรียนหญิงในห้องมีจำนวนแค่เกินสิบมานิด ๆ ในขณะที่นักเรียนทั้งห้องมีประมาณ 50 คน ถือเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับเรา เพราะที่ผ่านมาในห้องจะมีนักเรียนหญิงมากกว่านัเรียนชายตลอด แต่ก็ยังมีเรื่องที่ดีอยู่ ก็คือได้อยู่ห้องเดียวกับเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ประถม หรือถ้านับกันจริง ๆ คืออยู่ห้องเดียวกันมาตั้งแต่อนุบาลเลยทีเดียว
โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนใหญ่ กว่าจะหาทางเดินไม่ให้หลงได้ก็กินเวลาไปหลายวัน ตอนเช้าจะนัดเจอเพื่อนที่หน้ากรงนกยูง ในช่วงเรียนพิเศษนี้จะเป็นการเรียนวิชาการช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายจะให้เลือกเรียนกิจกรรม เราเลือกศิลปะกับเพื่อนอีกคนที่รู้จักกันมาก่อน และได้้รู้จักกับเพื่อนใหม่หน้าตาน่ารัก แต่ช่วงหลัง ๆ กลับหายไปจากโรงเรียนจนนึกว่าจะลาออกเสียแล้ว
ในวิชาศิลปะนี้ มาสเตอร์สอนตั้งแต่การใช้ดินสอEE สีไม้ และก็สีน้ำ และมาสืบทราบทีหลังว่าปกติแล้วมาสเตอร์คนนี้จะทำงานของโรงเรียนอย่างเดียวไม่ได้ลงมาสอนเด็กนักเรียน นี่คงเป็นความโชคดีที่มีโอกาสเรียนกับมาสเตอร์
กลับมาในเรื่องของวิชาการช่วงเช้า มีวิชาหนึ่งที่จำได้แม่นคือวิชาภาษาอังกฤษ ครูสุ่มให้ออกไปแนะนำตัวหรือเล่าเรื่องเป็นภาษาอังกฤษหน้าห้อง และกิจกรรมที่ติดอยู่ในใจมากที่สุดคือ เติมคำในเพลง A lover's Concerto ที่จนถึงตอนนี้ยังจำเนื้อเพลงนี้ได้อยู่เลย
เวลาล่วงเลยไป เสื้อที่โรงเรียนแจกให้ใส่สัปดาห์ละวันที่ตอนแรกเศษผ้าหลุดเต็มไปหมดตอนนี้ไม่มีเศษอะไรหล่นมาจากเสื้อแล้ว แต่สำหรับคนที่มนุษยสัมพันธ์แย่อย่างเรา เราก็ยังคุยกับเพื่อนไม่ครบทุกคนในห้องอยู่ดี
ผ่านไปไม่ทันไรก็เข้าสู่ภาคเรียนที่หนึ่งอย่างแท้จริงของชั้นมัธยมแล้ว
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in