Startup ของจริงหรือแค่มายา? 

                                                                                                                   โดย BestBlogger_Thailand

ร้อนแรงแซงโค้งต้องยกให้วงการ Startup ถ้าพูดให้ถูกกว่านี้ ต้องพูดว่า Tech-Startup (เทค-สตาร์ทอัพ)

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ญาติ เพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง ต่างก็กระโดดเข้าร่วมวงการ Startup หลายต่อหลายคน

บอกตรงๆ ว่าคนกลุ่มนี้เป็นบุคคากรที่ล้วนมีความรู้ ความสามารถ ด้านเทคโนโลยีกับแทบทั้งสิ้น ทั้งๆที่ต่างคนมาจากหลายวงการ ตามที่สังเกตุ จะพบว่ามีความสามารถอย่างนึงที่เหมือนกัน คือ การเขียนโปรแกรม

กระแสของ Startup ถือว่าแรงมาก ถึงมากที่สุดถ้าเปรียบเทียบ กับ แม่น้ำก็คงเป็นแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก

ทั้งภาครัฐ เอกชนยักษ์ใหญ่ ก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี

VC (Venture Capital) ในSeries ต่างๆ ก็ทุนหนา 

Angel ก็พรั่งพร้อมนำเงินมาลงทุน 

เพื่อที่จะมามอบให้พัฒนาต่อยอดใน Business model ของธุรกิจนั้นๆ

เหล่าStartup ก็พยายามสร้างสรรค์ผลงานกันอย่างเต็มที่ เตรียมพรีเช้นที่ดีเยี่ยม เปี่ยมด้วยพลัง 

เพื่อคว้าโอกาสที่เกิดขึ้นในแม่น้ำที่เชี่ยวกรากสายนี้

แต่ทำไม เรายังมองไม่เห็น Startup ที่ประสบความสำเร็จจริงๆสักที

นั้นจึงเป็นคำถาม...ในใจผมเสมอมา

มีคำพูดอยู่คำนึง ในวงการStartup ที่ผมมักได้ยินเป็นประจำในวงการนี้ คือ  Exti ซึ่งแปลว่า ทางออก

ทางออกอะไร? แล้วจะออกทำไม?

ผมจึงศึกษาต่อ ผมก็ได้คำตอบที่ว่า เมื่อไรที่ Startup ได้สร้างสรรค์ทำผลงานได้มาระดับนึง เขาก็จะนำผลงานชิ้นนี้ไปขายต่อเป็นหุ้น หรือ อาจขายทั้งหมด แล้วนำเงินก้อนโตออกจากผลงานของเขา

พูดง่ายๆคือว่า ขายขาดในผลงาน แล้วเอาเพียงเงิน...

นี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ไม่ได้บอกว่าถูก!

เมื่อศึกษาเพิ่มเติม ได้มีโอกาสพูดคุยกับเหล่า Startup หลายคน ในหลายธุรกิจ ก็ทำให้พบว่าสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ภาพรวมของวงการ Startup ดูยังไม่สำเร็จ มี 2 ปัจจัยใหญ่ๆ ดังนี้...

1.ปัจจัยภายในของ Startup

1.1 ยังไม่เข้าใจลูกค้าของตนเองที่แท้จริง หรือ เข้าใจแต่ยังน้อยอยู่

1.2 ยังไม่เข้าใจการตลาดที่ควรทำ และไม่ควรทำ

1.3 ยังบริหารเงินทุนได้ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ส่งผลต่อการต่อยอดขาดศักยภาพ

2.ปัจจัยภายนอกของ Startup

2.1 บริบทของผู้บริโภคยังไม่ตอบโจทย์ด้านเทคโนโลยีด้านนี้

2.2 สิ่งแวดล้อมของประเทศโดยรวมยังไม่เอี้อยอำนวยให้ธุรกิจของ Startup มากนัก 

2.3 ขาดบุคลากรในระดับผู้บริหารประเทศที่มีวิสัยทัศน์เรื่องนี้จริงๆ

ส่วน...มุมในด้านบวกของ Startup เมืองไทยที่ผมเห็นมาตลอดเวลา เป็นเรื่องของความมุ่งมั่นตั้งใจ บางคนต้องการจะเปลื่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้น บางคนต้องการเปลื่ยนแปลงโลกกันเลย

แต่ในอีกมุม...เมื่อ Startup สร้างผลงานแล้ว เข้าตานักลงทุนแล้ว ได้เงินมาแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง คือ ไม่สามารถนำเงินทุนที่ได้ มาใช้ให้เกิดมีประสิทธิภาพจริงๆ เพราะจะคิดว่าเป็นเงินทุน จะใช้อย่างไรก็ได้ สะเปะสะปะไปหมด

ต่อด้วย...

การรักษาลูกค้าไม่ได้ ข่วงแรกที่ทำก็มีคนซื้อดี  ซื้อเพราะแปลกใหม่ พอเวลาผ่านไป ไม่กลับมาซื้อซ้ำส่งผลให้ธุรกิจ เจ๊ง...ในเวลาไม่นาน

ยังมีอีก...

อายุของธุรกิจสั้นเกินไป ตายง่ายเกินไป ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น Pokémon GO ช่วงแรกมีคนเล่นมากมายหลายล้านคน พอเวลาผ่าน แทบไม่มีคนสนใจ 

เม็ดเงินหลายพันล้านที่ต่างช่วยกัน อัดฉีด หมุนเวียน ในวงการ Startup ยังไม่ออกดอกออกผลที่ยอดเยี่ยมจริงๆออกมาได้ 

วงการนี้จะเรียกว่า UNICORN 

Unicorn คือ สุดยอด หายาก 

ในเมืองนอกก็จะมี เช่น Facebook ,Uber ,Alibaba ,Ameson ,Google

ใครกันนะ? จะเป็น Unicorn ให้พวกเราปลื้มใจ คนๆนั้นจะเป็นใคร? ที่สามารถเป็นตาหน้าของเมืองไทย 

สักวันอยากจะเห็นคนไทยประสบความสำเร็จอย่าง Mark zuckerberg หรือ Jack ma 

วงการ Startup เมืองไทย
มันจะเป็นจริงได้ไหม หรือ เป็นเพียงแค่เมืองมายา?