เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I READ YOU A LOTilysm
Review | More Happy Than Not

  • More happy than not by Adam Silvera






                    เรื่องนี้เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาของเทอม 2 ที่เราสบประมาทไว้ตั้งแต่วันแรกว่า—ไม่ชอบแน่นอน ด้วยสไตล์ภาษาที่อเมริกันจ๋า และบรรยากาศที่โคตรอเมริกั๊นอเมริกัน มันช่างขั้วตรงข้ามกับทาสนิยายบริติชอย่างเรา แต่ปรากฏว่าอ่านไปอ่านมา ชอบเฉย! ก็เลยมารีวิวให้เพราะว่าง(..) เปล่า เพราะอยากเก็บความรู้สึกหลังอ่านมันจบใหม่ๆต่างหาก!


    เรื่องย่อ

                    Aaron เด็กหนุ่มวัย 16ปี สูญเสียพ่อแท้ๆไปจากการฆ่าตัวตาย เขาใช้ชีวิตอยู่กับการทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัว และมีความฝันที่จะเป็นนักเขียนการ์ตูน ทุกๆวัน Aaron จะไปพบกลุ่มเพื่อนที่ Community Service (เป็นสถานที่ในโครงการบริการชุมชนที่อำนวยความสะดวกให้เด็กวัยรุ่นที่ค่อนข้างยากจน) และ Genevieve แฟนสาวของเขา จนกระทั่งเขาได้รู้จักกับ Thomas และตกหลุมรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น ตอนนั้นเองที่ Aaron เริ่มมองหา Leteo Institute สถาบันที่มีความสามารถในการลบความทรงจำที่ลูกค้าไม่ต้องการ เพื่อมอบโอกาสที่สองให้พวกเขา และ Aaron ก็เชื่อว่าหนทางนั้นจะทำให้เขากลับมารักผู้หญิงได้

     

    ตัวละคร

    “หดหู่ ตลกร้าย เปี่ยมล้ำด้วยอารมณ์และการกระทำที่คาดเดาไม่ได้”

     

                    ตั้งแต่เปิดอ่านหน้าแรก จะรู้สึกได้เลยว่าตัวละครในเรื่องนี้หม่นๆเศร้าๆ อาจเพราะว่าปัญหาต่างๆที่ตัวละครเผชิญอยู่ โดยเฉพาะ Aaron ที่ไม่รู้คนเขียนโกรธแค้นมาจากไหน โยนความเจ็บปวดทั้งปวงใส่อย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าจะการตายของพ่อ ปัญหาเงินๆทองๆในครอบครัว ความสัมพันธ์ที่ดิ่งลงเหวกับกลุ่มเพื่อน การพบว่าตนเองเป็นเกย์ (ซึ่งสำหรับวัยรุ่นอเมริกันส่วนมากนั้นจะถูกกลั่นแกล้งรังแกและถูกครอบครัวต่อต้าน) เรื่อยไปจนถึงความรักชวนปวดหัวระหว่างเขา Genevieve Thomas และตัวละครลับ

                    ดังนั้นตัวเอกของเราจึงรับศึกหนักมาก ทว่าเรื่องก็ไม่ได้น่าเบื่อหรือดราม่าน้ำตาแตก กลับกัน Aaron มีภาษาและมุมมองที่มีอารมณ์ขัน มีมิติ มีความนึกคิดเป็นของตัวเอง มากเสียจนบางครั้งก็อยากจะเขย่าและตะโกนว่า แกเป็นบ้าอะไร! และบางครั้งก็อยากจะร้องไห้และกอด Aaron ไว้แน่นๆ เพราะตัวละครนี้มีอารมณ์ เหตุผล การกระทำ พลิกล็อกหักมุมมั่วไปหมด แต่อีกนัยหนึ่งก็ซับซ้อนและสะท้อนความเป็นมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม

                    จุดที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นประเด็นหลักของเรื่อง—ชีวิตของ LGBT หรือกลุ่มรักร่วมเพศ เพราะ Aaron เป็นตัวละครที่ไม่ได้ถูกยัดเยียดความชอบผู้ชายให้อย่างผิวเผิน แต่ผู้เขียนปลูกชุดความคิดแบบ LGBT ให้ Aaron อย่างลึกซึ้ง และแม้จะรู้แก่ใจว่าปัญหานี้พบได้ทั่วไปในชีวิตจริง เนื้อเรื่องก็ยังไม่เชย ไม่เคยเก่า รู้สึกเหมือนใหม่เสมอเมื่อได้เห็น 1)ปัญหาการไม่ยอมรับเพศที่ 3 ในเรื่อง 2)วิธีการแก้ปัญหาต่างๆที่ตัวละครเลือกใช้

                    ประโยคนึงที่ทำให้เราน้ำตาไหลคือการที่ Aaron เอ่ยกับแม่ว่าขอไปลบความทรงจำว่าตนเองชอบผู้ชายออก

                    “What’s wrong” Said mom.

                    “Me”

                    “What are you asking of me?”

                    “To make me right”

                    เรารู้สึกว่าประโยคนี้โคตรพังเลย—คนที่เป็นเกย์รู้สึกแบบนี้เองเหรอ รู้สึกแปลกแยก แตกต่าง รู้สึกถูกดูแคลน รู้สึกเหมือนทำอะไรผิด จึงชื่นชมในตัวละคร Aaron ที่เขามีพลังในการถ่ายทอดสารเหล่านี้ไปถึงผู้อ่าน

                    อ้อ ขอพูดถึงอีกสองตัวละครที่ชอบ Genevieve เป็นผู้หญิงที่ดีเหลือเกิน /ปาดน้ำตา เธอทำให้เราเห็นว่าแค่ความรักไม่พอ แต่ต้องอาศัยหัวใจที่กว้างขวางอีกด้วย ให้ไปขนาดนั้น ยังไม่ได้รับความรักตอบกลับมาเลย ส่วน Thomas เองก็เป็นตัวละครที่ Independent และน่าสนใจ จนตอนนี้ก็ยังเป็นตัวละครที่เป็นปริศนาสำหรับเรา

                    พูดถึงแล้ว ชีวิตจริงเราก็เต็มไปด้วยตัวละครปริศนา ที่ไม่อาจล่วงรู้ความคิดในใจได้เลย

     

    เนื้อเรื่อง

    “มีความ Plot twist มีความหนักหนาสาหัสจนเว่อร์วัง แต่ก็ยอมรับว่าอ่านเพลินวางไม่ลง”

                    ประมาณ 40 หน้าแรกนี่คือความทรมานอย่างแท้จริง กว่าแต่ละหน้าจะผ่านไปได้ โคตรน่าเบื่อเลย เป็นเรื่องประเภท hard going at the beginning คือเกริ่นมั่วๆจับใจความไม่ค่อยได้ แต่ถ้าอดทนอ่านมาจนถึงกลางๆเรื่องล่ะก็…ความฟิน ความหักมุม ความคาดไม่ถึงและปมซับซ้อนที่ผู้แต่งผูกไว้แต่เนิ่นๆจะมามีบทบาทในที่สุด ยอมรับเลยว่าอ่านสนุกมาก แม้หลังๆจะให้ความรู้สึก ‘อะไรมันจะขนาดน้านนนนนน’ เรื่อยๆไปจนจบ คือนึกถึงพวกแนว Tragedy อะ ตัวเอกต้องเผชิญปัญหาไม่จบไม่สิ้นกว่ามันจะคลี่คลาย แล้วก็ไม่ได้เป็นไปอย่างง่ายดาย แต่มาปุบปับรวบรัดเอาตอนสุดท้าย ซึ่งเราก็ไม่ค่อยอินกับตอนจบที่เหมือน ‘เฮ้ย กูใส่แนวคิดคอนเซ็ปต์เรื่องไม่ทันแล้ว อัดๆแม่งไปเล้ย!’

                    สรุปก็คือเนื้อหาดี แต่ตอนจบเล่นง่ายไปหน่อย จากที่เราอินมาทั้งเรื่องเลยเหมือนมาแป้กๆเอาฉากสุดท้าย ส่วนแนวคิดเกี่ยวกับความสุขนั้น…อืม เราคิดว่ามัน Universal นะ ไม่ใช่ LGBT ก็อ่านและอินได้พอกัน บางครั้งการแกล้งทำเหมือนความทรงจำหรือเหตุการณ์เลวร้ายไม่ exist ก็ให้ความสุขเราได้แค่ชั่วคราว สุขที่แท้จริงเริ่มจากใจเรา เริ่มจากการยอมรับตัวเอง เริ่มจากการมองเห็นสิ่งดีๆในชีวิต และเริ่มจากการไม่ยอมแพ้

                    ชีวิตก็แค่นี้ มาทำให้มันมีความสุขมากกว่าไม่มีจะดีกว่า เพราะเราคงเลี่ยงความทุกข์ ความเจ็บปวด ความผิดหวัง ไม่ได้เสมอไป แม้จะลบความทรงจำอีกกี่ร้อยพันครั้งก็ตาม

                    ส่วนฉากที่ประทับใจ…คิดว่าเป็นทุกๆฉากที่ Aaron อยู่กับ Thomas ซึ่งมันไม่ใช่แค่ความรักวัยรุ่นฉาบฉวย แต่ยังมีความฝัน มีมิตรภาพ มีความบริสุทธิ์ใจปะปนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็ดีแล้ว เราคิดว่าเรื่องนี้มีแง่คิดลึกซึ้งกว่าความรักเยอะแยะไป

     

    ความรู้สึกส่วนตัว

                    มี Love-hate relationship กับหนังสือเรื่อง More happy than not ทำให้เราหัวเราะกรามค้างและน้ำตารื้นได้ ทำให้เราอ้าปากเหวอเพราะหักมุมแล้วหักมุมอีกก็ได้ แต่กลับรู้สึกว่าประเด็นความสุขที่เรื่องพยายามสอน ไม่ได้สอดคล้องกับการให้น้ำหนักในเรื่องเลย เหมือนว่าเรื่องจะไปเน้นประเด็น LGBT ตลอดเวลา จนฉากจบมาสรุปได้แบบแปะๆผักชีโรยหน้าอย่างอธิบายไม่ถูก พัฒนาการตัวละครเดี๋ยวพุ่งสูงเดี๋ยวดิ่งลงอะไรแบบนั้น ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็เป็นเรื่องที่อ่านสนุก เนื้อหาลึกๆดี ไม่เสียใจที่อักษรสั่งให้อ่านเรื่องนี้ แล้วก็ดีใจที่โลกนี้ไม่มี Leteo Institute มาคอยกำจัดความทรงจำแย่ๆให้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น เราจะรู้ได้ยังไงว่าความสุขหรือความทุกข์ของเรามีน้ำหนักมากกว่า?

                    ถ้าเป็นแบบนั้น ความสุขที่เรามีทุกวันนี้ มันถูกสร้างขึ้นเพราะเครื่องจักรด้วยหรือเปล่า?


    - ilysm.

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
taetae_2000 (@moontown)
ขอโทษนะคะ แต่เราอยากรู้จังเลยว่าสมารถซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ที่ไหนบ้าง เราหาแล้วแต่ไม่เจอเลยค่ะ ;---; อยากอ่านมากๆเลย
ilysm (@ilysm)
@moontown ฮือออ เราเองก็หาไม่เจอค่ะ พอดีได้มาเพราะทางคณะเอามาขาย ลองซื้อจาก Book depository ดูนะคะ ไม่เสียค่าส่งด้วย รอประมาณ 4 อาทิตย์ https://www.bookdepository.com/search?searchTerm=more%20happy%20than%20not&search=Find+book