มาดู Post-Vacation Blues อาการเฉาหลังวันหยุดยาวที่ใคร ๆ ก็เป็น

เผลอแป๊ปเดียววันหยุดยาวช่วงปีใหม่ก็กำลังจะจบลงอย่างรวดเร็ว (เวลามีความสุขอะไร ๆ ก็ผ่านไปเร็วเสมอเนอะ) ชาวมินิมอร์ที่กำลังตื่นเต้นที่จะได้กลับไปทำงานหรือกลับไปเรียน มินิมอร์ขอแสดงความยินดีด้วยที่วันหยุดได้เติมพลังให้คุณอย่างเต็มเปี่ยม ส่วนใครที่กำลังจมอยู่กับความหดหู่แห้งเหี่ยว มองไปทางไหนก็เอาแต่ถอนหายใจเฮือก ๆ อยากต่อเวลาให้วันหยุดนี้ยาวออกไปไม่มีที่สิ้นสุด วันนี้มินิมอร์จะพามารู้จักกับอาการ Post-Vacation Blues หรืออาการเศร้าสร้อยหลังจากวันหยุดพักผ่อนยาว ๆ (มีอาการแบบนี้ด้วยเหรอ ?) 


aquademy.eu

อาการ Post-Vacation Blues หรือ Post-Holiday Blues หรือ post-travel depression (PTD) (โอ๊ย ทำไมมีหลายชื่อจังนะ) แต่ทั้งหมดนี้คือกลุ่มอาการเดียวกันนั่นก็คืออาการแห่งความหดหู่เศร้ามซึมหลังการไปเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดหลาย ๆ วัน โดยอาการที่ว่านี้ก็มักจะงอแงไม่อยากไปทำงาน เอาแต่หวนนึกถึงความสุขในช่วงการเดินทางท่องเที่ยวที่ผ่านมา 


moneycamel.blogspot.com

อาการ Post-Vacation Blues นี้มีสาเหตุจากการที่เราพบความสนุกตื่นเต้นมาจนล้นปรี่ เมื่อต้องกลับมาเจอกิจวัตรประจำวันเดิม ๆ ซ้ำ ๆ จึงทำให้ระลึกได้ว่า โถ ทำไมชีวิตเราช่างน่าเบื่อเสียจริง ยิ่งเมื่อเทียบกับความสุขที่ได้รับระหว่างวันหยุดพักผ่อน (เทียบกันไม่ติดเลย ฮืออ)

ว่ากันว่ายิ่งเรามีความสุขกับวันหยุดพักผ่อนของเรามากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสเผชิญหน้ากับอาการเหล่านี้มากเท่านั้น แต่ไม่ต้องห่วงปกติอาการแบบนี้จะอยู่แค่ 2-3 วัน แต่ถ้าในรายที่เป็นหนัก (คงสนุกกับทริปหนักมากเช่นกัน) อาการโหยหาวันหยุด หดหู่กับชีวิตจริงก็จะอยู่ยาวประมาณ 2-3 อาทิตย์

แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออก (ไม่มีทางออก มีทางทุเลาก็ยังดี) มาดูวิธีเอาชนะอาการ  Post-Vacation Blues ฉบับรวบรัดกัน


perfecttraveldeals.com

1.หาทางเชื่อมโยงความสุข

เมื่อชีวิตประจำวันมันช่างเรียบง่ายเมื่อเทียบกับการเดินทางอันแสนตื่นเต้น เราก็ลองเชื่อมโยงการเดินทางของเรากับชีวิตประจำวันดู เริ่มง่าย ๆ จากการเขียนบันทึกถึงการเดินทางครั้งที่ผ่านมา (เอารูปถ่าย ตั๋วรถ ตั๋วเรือ ตั๋วเครื่องบินมาแปะด้วยก็ได้นะ) อาจจะหัดทำอาหารท้องถิ่นจากเมืองที่เราไปเที่ยวมา จะเปิดเพลงท้องถิ่นที่นั่นจากยูทูปคลอไปด้วยก็เก๋ดีไม่ใช่น้อย รวมถึงงานศิลปะต่าง ๆ อย่าง ๆ น้อยนำรูปถ่ายและบรรดาสารพัดของที่ระลึกที่ซื้อมา มาตกแต่งห้องหรือโต๊ะหนังสือให้มีกลิ่นอายของความสุขที่เราได้รับระหว่างการเดินทางมาเชื่อมกับชีวิตประจำวันดำเนินควบคู่กันไปก็ช่วยลดระดับความตื่นเต้นทีละน้อย ดีกว่าปล่อยให้ลดลงอย่างเฉียบพลัน


wsj.com

2.ฉันพร้อมสำหรับทริปหน้าแล้ว!

วิธีที่ชัดเจนที่สุดที่จะรับมือกับชีวิตประจำวันที่ดูเหมือนจะยาวออกไปไม่มีที่สิ้นสุด ก็คือการกำหนดวันหยุดพักผ่อนรอเอาไว้ในปฏิทินเสียเลย อาจจะเป็นทริปแบบไปเช้าเย็นกลับ ทริปในจังหวัดใกล้ ๆ เมื่อเรารู้สึกว่ามีความสนุกรอเราอยู่ เราก็พร้อมจะรีบใช้ชีวิตประจำวันให้ไปถึงทริปนั้นเร็ว ๆ เสียแล้วสิ (อาทิตย์หน้าเลยได้ไหม)


youthconnect.in

3.เดี๋ยวนะ! ชีวิตฉันก็ไม่ได้น่าเบื่อขนาดนั้นนี่

ทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญอย่าปล่อยให้ความน่าเบื่อทำร้ายเราอยู่ฝ่ายเดียว เราต้องลุกขึ้นมายิ้มแล้วบอกตัวเองให้ได้ว่า เฮ้ ชีวิตฉันยังมีอะไรน่าตื่นเต้นและชวนให้มีความสุขอีกตั้งเยอะ เราอาจจะทานอาหารที่ชอบ ฟังเพลงโปรดระหว่างเดินทางไปทำงาน ทำให้ตัวเองมีความสุขกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แถมด้วยการลิสต์รายการสิ่งที่ตื่นเต้นที่รอเราอยู่ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ (หรือจะลิสต์ทุกวันก็ไม่ว่ากันนะ)

 

mysticalraven.com

อย่างไรก็ตามอาการ Post-Vacation Blues อาจจะพัฒนาไปถึงขั้นซึมเศร้าได้ ถ้ารู้ตัวว่า 2-3 สัปดาห์แล้วยังไม่ดีขึ้นอย่าลืมไปปรึกษาแพทย์ แต่มินิมอร์เชื่อว่าความสุขมีรูปแบบอันหลากหลาย เราสัมผัสความสุขจากวันหยุดพักผ่อนและการเดินทางมาแล้ว ลองมองรอบ ๆ ตัวเราดู ไม่แน่ในชีวิตประจำวันอาจจะมีความสุขเล็ก ๆ รอให้เราค้นพบอยู่ก็ได้


ที่มา


ที่มา