กองคณะสำรวจแผ่นดินสหรัฐฯ
กำลังพักผ่อนอยู่ริมน้ำ บ้างกำลังนั่งพัก บ้างกำลังพูดคุย
แต่ทันใดนั้นลูกธนูก็ปักเข้าใส่จนตัวละครหนึ่งตายไป ตามมาด้วยลูกธนูดอกอื่นๆ
การพุ่งโจมตีของกลุ่มคนพื้นเมือง และความโกลาหลอีกมากมาย
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นฉากที่ถ่ายอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการตัดต่อ
นี่คือ 10 นาทีแรกของ The Revenant หนังที่ว่าด้วย Hugh
Glass (รับบทโดย Leonardo DiCaprio) นายพรานนำทางคณะสำรวจที่ภายหลังได้รับบาดเจ็บและถูกเพื่อนร่วมทีมทิ้งไว้กลางป่าอย่างโดดเดี่ยว
ดูแค่ฉากแรกก็ฟันธงเลยว่าให้ออสการ์ถ่ายภาพยอดเยี่ยมตัวที่สามแก่คุณพี่ Emmanuel Lubezki ไปเถอะ! (ก่อนหน้านั้นเขาได้จากเรื่อง Gravity (2013) และ Birdman (2014)
The Revenant ได้รับการสรรเสริญเป็นเสียงเดียวกันเพราะมันเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง
หนังถ่ายทำเกือบหนึ่งปีในสภาพอากาศหนาวสุดขั้ว ถ่ายสถานที่จริง ไม่มีการใช้ซีจี
บ้าไปกว่านั้นคือถ่ายแสงธรรมชาติล้วนๆ โดย Lubezki ให้เหตุผลว่าเขาต้องการถ่ายทอดภาพออกมาให้สมจริงที่สุด
ราวกับผู้ชมได้เดินทางไปกับ Glass ด้วย
คำว่า ‘เดินทาง’
นี่แหละที่เป็นคีย์เวิร์ดของหนังเรื่องนี้
แม้ว่าฉากเปิดเรื่องจะเต็มไปด้วยความดุดัน แต่เราต้องขอเตือนว่าหนัง 156 นาทีเรื่องนี้เต็มไปด้วยความเชื่องช้าและภาพภูมิทัศน์ป่าเขาลำเนาไพรเช่นกัน
เพราะแท้จริงแล้ว The Revenant ไม่ใช่หนังแอคชั่นฆ่าล้างบาง
แต่มันเป็นหนังที่เน้นสำรวจสภาพจิตใจของ Glass ทั้งเรื่องการสูญเสีย
เจตจำนงของการมีชีวิตอยู่ และความโกรธแค้น
โดยภาพธรรมชาติทั้งหลายคือสิ่งสะท้อนภายในของเขานั่นเอง
ดังนั้นการแสดงของ DiCaprio จึงเป็นลักษณะเก็บกด ไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่ดูเหมือนกักเก็บอะไรไว้มากมาย (ต่างจาก The Wolf of Wall Street ที่เป็นแนวแสดงออกเยอะแบบไฮเปอร์สุดๆ) ซึ่งก็สอดรับกันดีกับดนตรีประกอบแบบมินิมอลของ RyuichiSakamoto ที่มาแบบน้อยๆ บางๆ ไม่เร้าอารมณ์
แต่ใช่ว่า The
Revenant จะเป็นหนังที่สมบูรณ์แบบ หนังยาวเกินไปและเมื่อดูจนจบแล้วผลลัพธ์สุดท้ายไม่ค่อยคุ้มค่ากับที่ลงแรงไปนัก
เปรียบเทียบได้ว่าเป็นทริปแสนแพงที่ระหว่างทางก็สวยงามดูดี
ทว่าพาไปไม่ถึงจุดหมายที่ควรจะเป็น
แต่หากถามว่าน่าจดจำไหม
ก็ต้องตอบว่าแน่นอน
ตัวอย่างภาพยนตร์
“ผมว่า นี่คือหนังที่โหดหินที่สุด เท่าที่พวกเราทั้งหมดเคยทำกันมา”
Leonardo DiCaprio ออกปากว่า The Revenant เป็นงานที่ยากที่สุดในชีวิตการแสดงของเขา เพราะตัวเขาซึ่งเป็นมังสวิรัติต้องกินตับวัวไบซันสดเข้าไปจริงๆ นอนในซากสัตว์จริงๆ และต้องฝึกพูดภาษาอินเดียนแดงถึง 2 เผ่า เรียนวิธีการยิงปืนโบราณและวิธีรักษาแผลแบบโบราณ ส่วนสตันท์แมนก็ไม่น้อยหน้าต้องถูกจับเปลือยกายลากไปบนพื้นหิมะ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บองศาติดลบในระยะเวลาร่วม 8 เดือน กว่าจะออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ได้ สมกับที่กวาดรางวัลไปมากมายจริงๆ
จากคอลัมน์ Top Shelf (Movie) โดย คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง
giraffe Magazine 31—One Life Stand Issue
