ธุรกิจ 'ตัดเก็บ' รอยสัก จากอเมริกา ที่จะทำให้รอยสักบนผิวกายย้ายไปอยู่ในความทรงจำ

    รอยสักนับเป็นศิลปะอันทรงพลังอย่างหนึ่ง นอกจากผู้สักจะต้องมั่นใจในลวดลายที่จะตราตรึงไปตลอดชีวิต รอยสักยังเป็นเหมือนไดอารี่บันทึกความทรงจำของผู้สักไว้อย่างแนบแน่น และหากเจ้าของรอยสักต้องลาลับก็แปลว่าความทรงจำนั้นย่อมหายลับไปด้วย แต่จะดีแค่ไหน ถ้าเราเก็บรอยสักของคนที่รักไว้ได้ตลอดไป ธุรกิจนี้มีคำตอบ! 


ในวันที่เราตายจากไป สิ่งใดจะเป็นตัวแทนของเราได้ดีที่สุด?
ยุคสมัยนี้การมีรอยสักอาจไม่ใช่เรื่องแปลกหรือน่าส่ายหัวอีกแล้ว แถมยังกลายเป็น ‘ศิลปะบนเรือนร่าง’ ที่แสดงออกถึงความแน่วแน่ในรสนิยมและความอดทน เพราะอย่างที่รู้กันดีว่ารอยสักนั้นจะติดตรึงตัวเราไปอีกนาน นานจนอาจเรียกได้ว่า ‘ตลอดชีวิต’ 
นั่นคือจุดเริ่มต้นไอเดียของบริการสุดแปลกแห่งหนึ่งในสหรัฐนาม Save My Ink ที่อยากแปลงรอยสักคนตายใส่กรอบไว้ให้ครอบครัวเก็บเป็นความทรงจำสุดละมุน เพราะคงเป็นเรื่องน่าเสียดายหากเราต้องเผาความทรงจำดีๆ เหล่านี้ไปพร้อมกับร่างที่ล่วงลับ 
โดย Charles Hamm ผู้ก่อตั้งสารภาพว่าตัวเขาเองใช้เวลากว่า 150 ชั่วโมง บวกกับเงินอีก 4 แสนบาทเพื่อสร้างรอยสักบนแผ่นหลัง และคงน่าเศร้าหากรอยสักอันทรงคุณค่านี้ต้องมลายหายไปกับกองเพลิง
ด้วยความรู้ในเรื่องธุรกิจ ผสานกับความหลงใหลรอยสัก Charles Hamm จึงลงมือก่อตั้งสตาร์ทอัพ บริการเก็บรอยสักของผู้วายชนม์ โดยเริ่มต้นจ้างพนักงานคนแรกคือแม่และผู้ช่วยของแม่อีกคน

ตัวอย่างการเก็บรอยสักอย่างมืออาชีพเพื่อเป็นที่ระลึกถึงผู้เสียชีวิต

การทำงานของ Save My Ink จะเริ่มขึ้นภายใน 18 ชั่วโมงหลังเจ้าของรอยสักเสียชีวิต โดยทีมงานจะจัดการเฉือนผิวหนังที่มีรอยสักมาแช่น้ำยาที่มีคุณสมบัติพิเศษช่วยคงสภาพรอยสักบนผิวหนังให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด จากนั้นจึงนำแผ่นผิวหนังที่มีรอยสักใส่กรอบรูปและส่งมอบให้ครอบครัวต่อไป 

ตัวอย่างรอยสักสุดเท่ที่ถูกตัดเก็บไว้ในกรอบรูปอย่างเรียบร้อย 
บริการดังกล่าวไม่ได้มีประโยชน์เพียงทำให้ญาติหรือคนสนิทของเจ้าของรอยสักได้ระลึกถึงผู้จากไปเท่านั้น แต่ Save My Ink เชื่อว่าทุกรอยสักมีเรื่องราวอันทรงคุณค่าซึ่งควรเก็บรักษา อย่างลูกค้ารายหนึ่งสักชื่อของลูกชายไว้กับตัว แต่ไม่นานกลับประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตกะทันหัน ภรรยาของผู้ตายจึงจัดเก็บรอยสักใส่กรอบไว้เพื่อยืนยันความรักที่พ่อมีต่อลูกว่ามากมายเพียงใด  
ธุรกิจนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะได้รับความสนใจจากคนรักรอยสักทั่วไป ยังโดนใจบรรดาศิลปินผู้นิยมการสักอีกต่างหาก โดยปัจจุบัน Save My Ink กำลังวางแผนขยายกิจการจากสหรัฐฯ สู่อีกหลายประเทศ ด้วยราคาบริการจัดเก็บรอยสักราว 4,000 บาทต่อชิ้น ซึ่งนับว่าไม่แพงเลยสำหรับการกักเก็บความทรงจำให้คงอยู่อีกนานแสนนาน 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ savemyink

บทความนี้คือส่วนหนึ่งของคอลัมน์ Brandish ในนิตยสาร giraffe ฉบับที่ 33 ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ Readgiraffe