ปี 2016 นี้ สำนักพิมพ์ Penguin มีการ redesign ใหม่ โดยเพิ่มเฉดสีของปกให้หลากหลาย มีการใช้สีใหม่ๆ อย่าง สีฟ้าเข้ม สีฟ้าอ่อน สีเขียวอมเหลืองตุ่นๆ และสีดำ เพื่อรองรับประเภทของงานเขียนที่มีมากขึ้น และกำหนดสีเพื่อใช้ในการแบ่งประเภทของงานเขียนจากประเทศต่างๆ ด้วย เช่น สีเขียวโอลีฟสำหรับงานจากเยอรมนี สีแดงสำหรับงานจากรัสเซีย สีส้มสำหรับจากเขียนในอังกฤษ

การใช้พื้นสีบนปกเป็นเอกลักษณ์ของ Penguin ในช่วงแรกเขาแบ่งสีเพื่อการแบ่งหมวดหนังสือไว้สามหมวดใหญ่ๆ คือ สีน้ำเงินเป็นหนังสือเกี่ยวกับบุคคลและชีวประวัติ สีเขียวเป็นนิยายสืบสวน และสีส้มเป็นนิยาย แต่การใช้พื้นสีเรียบๆ นี้ ไม่ได้เพื่อความเท่เรียบเก๋เพียงอย่างเดียว เพราะในช่วงต้น Penguin ต้องการลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้หนังสือราคาถูกและเข้าถึงคนในทุกชนชั้น สุดท้ายจึงเข็นหนังสือออกมาได้ในราคาเท่ากับบุหรี่หนึ่งซอง (ประมาณ 6 เพนนี) 

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงอีกอย่างคือการลดทอน โดยลดทอนหน้าปกให้เหลือเพียงพื้นสีและแถบขาวตรงกลาง โดย Jim Stoddart อาร์ตไดเรกเตอร์ของ Penguin กล่าวว่า เขาอยากลดสิ่งรบกวนอื่นๆ ออกไปให้มากที่สุด เพื่อให้พื้นที่กับชื่อหนังสือและชื่อผู้เขียน ในส่วนขนาดของหนังสือเขาหันกลับมาใช้ขนาดสุดคลาสสิกยุค 40s แบบ A format (111mm x 181mm) ซึ่งเป็นขนาดใกล้เคียงกับ golden section ที่สุด 

พูดถึง Jim Stoddart เขาเป็นอาร์ตไดเรกเตอร์ให้กับ Penguin มาตั้งแต่ปี 2001 นอกจากปกนิยายสีส้มๆ ที่เราคุ้นตาแล้ว Penguin ก็ยังมีหนังสืออีกหลายสไตล์จากฝีมือของเขา ที่โดดเด่นน่าศึกษาก็คือการใช้ grid line และการวางฟอร์แมตในหนังสือแต่ละเซ็ตของ Penguin ที่แตกต่างกันทั้งเนื้อหาและกลุ่มเป้าหมาย และลงรายละเอียดในฟอร์แมตถี่ยิบ ทั้งการกำหนดตัวหนังสือในแต่ละบรรทัด รวมไปถึงเลขราคา ความห่างของตัวอักษร หรือแม้กระทั่งขนาดของบาร์โค้ด การออกแบบของ Jim Stoddart เน้นที่การวางแผน และการใช้งาน มากกว่าจะเน้นเรื่องความหวือหวาภายนอก จึงทำให้หนังสือของ Penguin ที่มีมากมาย ดูมีความเรียบร้อย ชัดเจน โดดเด่น เมื่ออยู่บนแผง

การ redesign ของ Penguin เป็นการเปลี่ยนเพื่อเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและคงสถานะในใจแฟนหนังสือที่ผลัดเปลี่ยนไปตามยุคสมัย ของดียังไงก็เป็นของดี แต่การที่ผู้คนจะรู้ว่าอะไรเป็นของดีนั้น บางทีก็ต้องการคำแนะนำ และอะไรจะแนะนำหนังสือเล่มหนึ่งได้ดีเท่าปกหนังสือ สำหรับทุกท่านที่กระเป๋าแห้งจากงานสัปดาห์หนังสือฯ ไม่มีสตางค์ไปเดินช้อปปิ้งที่ไหน ผมแนะนำให้ลองมานั่งดูปกหนังสือเล่มที่คุณซื้อมาให้นานขึ้น ละเอียดขึ้น แม้จะเป็นเพียงกระดาษแผ่นเดียว แต่กระดาษแผ่นนั้นมีบุคลิกและแนวคิดที่น่าสนใจอยู่เบื้องหลังมากมายก่อนที่จะมาถึงมือคุณ