実は
Fandom : Cherished Sins : Origin Story
Original Publisher : Click
Author : W. Wunderkammer
Note : เนื้อเรื่องในส่วนของ Origin Story
สีแดงตัดกับสีเขียว และผมกำลังมองเห็นสีขาวนุ่มนิ่มโปรยลงมาจากท้องฟ้า มันคืออะไรกัน!?
ในที่สุดก็นึกออก มันคือกระจุกขนแกะที่ถูกตัดเก็บไว้ในกระสอบป่านปลิวว่อน กระสอบป่านเก็บขนแกะที่ดีที่สุดของปีล้มระเนระนาด ผมค่อย ๆ ก้มมองลง ไม่ใกล้ไม่ไกลมีแกะเปื้อนเลือดตัวหนึ่งนอนตายจนขนของมันสกปรก ในสมองมีแต่ความสับสนงุนงงกับคำถามวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมองอีกทีมือทั้งสองข้างของตนเองก็เปรอะเปื้อนไปด้วยสีแดงของเลือดแกะเสียแล้ว คำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ
แล้วผมจะไปเก็บพืชพันธุ์ธัญญาหารที่ดีที่สุดมาได้อย่างไรล่ะ
มือคู่นี้มันน่าขยะแขยงเหลือเกิน ทำไมน้องชายของผมถึงฆ่าแกะของตัวเองแบบนี้ แล้วเขาไปไหนถึงไม่เห็นตัว ทำของแปดเปื้อนเช่นนี้จะนำไปถวายพระเจ้าได้อย่างไร พระองค์จะต้องไม่พอพระทัยอย่างแน่นอน
ผมพยายามตามหาตัวเขา แต่หาจนพระอาทิตย์ตกดินก็ไม่เจอจึงกลับมาที่ซากแกะตัวนั้น ดูเหมือนว่าผมจะต้องเก็บกวาดฝังศพมันให้เองซะแล้วสิ
ขณะที่ผมขุดหน้าดินเหมือนที่ขุดเพื่อหว่านเมล็ดปลูกพืชผลกลับได้ยินคำถามหนึ่งจนอยากกัดฟันกรอดด้วยความโมโห “อาเบลน้องชายเจ้าอยู่ที่ไหน”
แท้ที่จริงแล้วทุกอย่างมันเป็นเพราะท่าน ท่านยังกล้าถามคำถามนี้กับอีกหรือ ทุกอย่างมันเป็นเพราะท่าน
ทว่าถังน้ำซึ่งยกมาเตรียมหิ้วกลับบ้านสะท้อนใบหน้าซึ่งว่างเปล่าไม่สะท้อนอารมณ์ใด ๆ ออกมาทั้งสิ้นราวกับถูกพรากความรู้สึกทั้งหมดออกไปเมื่อนานแสนนานมาจนลืมหมดสิ้นทุกสิ่งอย่าง เส้นผมสีดำสนิทและดวงตาสีเดียวกันนั้นไร้ซึ่งสีสันใดๆ เจือปน เหมือนกับเป็นความมืดมิดที่ลวงหลอกให้ร่วงหล่นเข้าไปและไม่สามารถหาทางกลับออกมาได้
ผมนึกออกแล้ว วันก่อนท่าน ◼◼◼
ทว่าพอผมรู้ตัวอีกที เสื้อสีขาวของท่านก็สกปรกไปเสียแล้ว ข้างกันนั้นคือหีบทองคำวิจิตรงดงาม วินาทีนั้น [ตาชั่งแห่งบาป] ได้ถูกสร้างขึ้น
ไม่เป็นไรนะ มันต้องมีสักวิธี ผมทำได้เพียงพูดว่าไม่เป็นไรนะ แต่เรื่องราวครั้งนี้เปรียบเสมือนสัญญาณเตือนที่ผมไม่ทันได้รู้สึกตัวก็พลั้งพลาดตกลงในหลุมกับดักไปซะแล้ว
“เจ้าทำอะไรลงไป! ฟังให้ดี โลหิตของน้องชายเจ้าร้องขึ้นจากแผ่นดินมาถึงเรา บัดนี้เจ้าถูกสาปแช่งและขับออกจากแผ่นดินซึ่งรองรับโลหิตของน้องชายของเจ้าเพราะน้ำมือของเจ้า เมื่อเจ้าไถพรวนดิน มันจะไม่ให้ผลผลิตแก่เจ้าอีกต่อไป เจ้าจะเป็นคนร่อนเร่พเนจรไปในโลก”
เขาเอ่ยอย่างกราดเกรี้ยว มันช่างเสแสร้งสิ้นดี แต่ว่ามันก็น่าเจ็บปวดด้วยเช่นกัน เพราะอะไรกัน!?
นี่ไม่ใช่ความผิดของผม! ไม่ใช่ความผิดของผม!
ผมคุกเข่าลงต่อหน้าแกะตัวนั้น รู้สึกราวกับหัวใจทั้งดวงถูกควักออกไป ทั้งที่มันไม่เคยมีมาตั้งแต่ต้นนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับทุ่งหญ้าและแกะของน้องชายผมกัน ไม่เห็นจะเข้าใจเลย
ถึงอย่างนั้นผมก็ยังยื่นมือออกไปกอดแกะตัวนั้นด้วยความอาลัยอาวรณ์ ใบหน้าที่ถูกพรากความรู้สึกคงกำลังบิดเบี้ยวจนตนเองยังรู้สึก ผมมองเห็นเฉดสีน้ำเงินพลิ้วลงมาระข้างแก้มช่วยเตือนสติทำให้ผมคิดขึ้นมาได้ว่าฝาแฝดของท่าน ◼◼◼ ตัดสินใจสร้างหนทางหวนคืนเพื่อลบล้าง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันช่างน่ากลัว คนของเขาเอาแต่พูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ผิดกับก่อนหน้านี้ว่ามันเป็นความผิดของผม เป็นผมที่ถือมีดหั่นแกะตัวนั้นออกเป็นสองส่วน เป็นผมที่กักขังแกะตัวนั้นเอาไว้ เอ่ยถึงเรื่องบ้าบอว่าผมกำลังนำความวินาศลงมาแปดเปื้อนโลกนี้ ก่อนที่เขาจะทำเครื่องหมายลงบนตัวผมแล้วขับไล่ออกไปร่อนเร่พเนจรไปทั่วโลก
ผมแลกเปลี่ยนออกไปแล้ว เหรียญตรานั้นได้แตกเป็นสองซีก
ผมถอยหลังกลับไปไม่ได้อีกแล้วจึงได้กลืนของขวัญชิ้นนั้นลงไป
เอ่ยกระซิบกับเธอว่า “หลังจากนี้ถ้าออกเดินทางไปด้วยกันสองคนก็ดีใช่ไหม...ที่รัก”
แต่ว่าผมกลับไม่ตายแม้แต่ความตายก็ไม่ได้รับอนุญาตเสียแล้ว
ร่อนเร่พเนจรไปสุดหล้าฟ้าเขียว มองเห็นความรุ่งโรจน์เสื่อมโทรม มองเห็นความดีงามและความชั่วร้ายเลวทราม ผมได้พบเงาของท่านจึงได้รู้ว่า แม้กระทั่งท่าน ◼◼◼ ก็จากไปแล้วแล้วผมที่อยู่ต่อไปนั่นมีประโยชน์อะไร ผมกำลังลืมไปแล้วว่าทำไมผมถึงตายไม่ได้
ปลายนิ้วมือที่จับจอบขุดดิน หว่านเมล็ดก็ไม่งอกเงยอีกต่อไป หยิบสิ่วขึ้นมาแกะสลักตัวอักษรลงไปทีละคำบนหน้าผา “นี่ ได้โปรดมอบดอกไม้ดอกนั้นให้ผมที ดอกไม้ที่เธอเรียกว่า
แม้มือจะสั่นเทาแค่ไหนผมก็ยังจำได้ดีถ้าวันนั้น...
ทำไมผมถึงยังมีชีวิตอยู่กัน
ทุกวันก็ยังคงกระทำเช่นเดิมซ้ำซากถึงจะคิดว่าจะต้องกระทำสิ่งที่เขาต้องการตลอดด้วย วันนี้ก็ยังคงเดินทางต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างในที่สุดความอดทนก็ระเบิดออกมาเพียงเพราะรู้มากจนเกินไป สัตตะกรรมลำดับสุดท้ายถือกำเนิดอย่างสมบูรณ์ ตอนนั้นความจริงพูดกับผม
“คุณพ่อเชื่อไหมว่ามีผู้คนหลากเผ่าพันธุ์ถูกดลใจให้เขียนบอกเล่าเรื่องราวแบบเดียวกัน รู้สึกไหมว่าเรื่องราวของชนชั้นมีมาช้านาน ทำไมไม่ตั้งคำถามให้ผู้คนคิดว่าทำไม เพราะอะไร มีแต่คำว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างและผู้ทำลายเท่านั้น พวกเราต้องยอมรับในโชคชะตาหรือเปล่า การอ้างถึงพระเจ้าคล้ายกับต้องปฏิบัติไม่ว่าถูกหรือผิด หรือขัดต่อสามัญสำนึก...นั่นต่างอะไรกับการถูกบีบบังคับจากสิ่งที่ไม่มีสิทธิปฏิเสธ”
ที่รัก...ผมทำผิดไปหรือเปล่า
แม่ร้องไห้ถามผมว่าผมทำอะไรลงไป ผมเองก็ไม่เข้าใจแต่ว่าผมจะไม่มีวันปล่อยมือที่กุมมือของเธอไปอีกแล้ว แต่ลาเมคกลับหยิ่งผยองเหลือเกิน พอผมหันไปมองพ่อกลับเห็นเขาร้องไห้ ผมไม่เข้าใจทั้งที่พวกเขาเชื่อเองแท้ ๆ ว่าแกะตัวนั้นกลับมาแล้ว ผมอยากบอกความจริงให้เขารู้เหลือเกินว่าโง่เง่าดีแท้
แกะตัวนั้นนะ มันไม่มีวันกลับมาได้อีกแล้ว
และที่ถือกำเนิดขึ้นมานั้นเป็นความซื่อสัตย์ อย่าอวดอ้างถึงบทลงทัณฑ์เจ็ดสิบเจ็ดเท่าเลย
จริงสินะ ผมจำได้ว่าตัวเองมีบางอย่างที่ต้องทำ เพราะเธอกำลังเจ็บปวด หากอยากช่วยเธอมีแต่ต้องให้ผมเข้าใกล้เพราะมีเพียงผมเท่านั้นที่รู้วิธี มีเพียงผมเท่านั้นที่เก็บรักษา
ทำไมล่ะ
ทั้งๆ ที่ผมรู้วิธีทำให้พระเจ้ากลายเป็นมนุษย์ธรรมดา
TALK ::
เกิดความนึกคิดในการดีดส่วนหนึ่งของ
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ค่ะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in