เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[APH / Hetalia] My Dear, Sunflowerfullofjoybb
[APH] Sunflower : RusAme
  • Title: Sunflower

    Song: Shannon Purser - Sunflower (From Netflix's Sierra Burgess is a Loser)

    Rate: PG (??)

    Pairing: Rusame (Russia x USA)

    Ps. มีฟิคบรรยายต่อ

    -------------------------------------------------------------------


    Rose girls in glass vases

    Perfect bodies, perfect faces

    They all belong in magazines


     อเมริกา

    คนอย่างนาย ไม่ว่าใครก็ยอมถวายตัวให้

                          อำนาจ                                  

                                                             เงินตรา

                                                                                            ชื่อเสียง

            นายมีมันหมดเลยล่ะ




    Those girls the boys are chasing

    Winning all the games they're playing

    They're always in a different league


                                                                                    ผู้หญิงสวยๆ ผู้ชายดีๆ เหล่าผีเสื้อกลางคืน


                                          แต่ว่านะ ผมน่ะ

    เฮ้อ

    --ลืมที่ผมจะพูดไปเถอะ



    Stretching toward the sky like I don't care

    Wishing you could see me standing there


    ยืนอยู่ตรงนั้น

    เอื้อมมือคว้า

    ความฝันอันเปล่งประกาย


    ความฝันยามนอนไม่หลับจมลงไป

                                       ลงไป

                                                         ลงไป


                      ลงไป


                                                ลงไป

          ลงไป





                                                               ลงไป


                     ไปจากเมืองแห่งนี้


    But I'm a sunflower, a little funny

    If I were a rose, maybe you'd want me

    If I could, I'd change overnight

    I'd turn into something you would like


    ผมเป็นแค่ดอกทานตะวัน กำลังรอดวงอาทิตย์ของผมอยู่

    ผมหวังว่าผมจะเปลี่ยนตัวเองได้ ทุกคืน

    ก่อนนอน



    แต่ผมก็ยังคงไล่ตามเปลวเพลิงที่แสนห่างไกลนั่นอยู่ดี

    แย่จังเนอะ


    But I'm a sunflower, a little funny

    If I were a rose, maybe you'd pick me


    ความอบอุ่นของนายดึงผมดิ่งลง

                                                             ดิ่งลง

                       ดิ่งลง


                                             ดิ่งลง



                                                                              ดิ่งลง


                              ผมดิ้นรนอย่างกับตัวตลก

    แต่ผมก็ยังยิ้ม


    But I know you don't have a clue

    This sunflower's waiting for you

    Waiting for you

    อเมริกา

    นายเป็นฮีโร่

    เป็นวีรบุรุษของผม


    แค่อยากบอกให้รู้ไว้ ดอกทานตะวันนี้กำลังทะยานสูง

    ฝ่าฤดูใบไม้ร่วง


    ฝ่าฟันมันมาทั้งหมดเลยล่ะ


    But I'm a sunflower, a little funny

    And if I were her, maybe you'd pick me

    But I know you don't have a clue

    This sunflower's waiting for you


    จะสองปี


    หรือตลอดไป

    ผมไม่รู้หรอก


    Waiting for you


    อาจเป็นวันพรุ่งนี้

    ของพรุ่งนี้

    ของพรุ่งนี้



    จนผมถูกถอนรากถอนโคน :) ?





  •  ถึงจะเป็นจิตวิญญาณแห่งรัสเซียมาทั้งชีวิตผมก็หลับไม่ลงหรอกหากถูกพระอาทิตย์เที่ยงคืนจ่อหน้าแบบนี้

    ผมอยู่ในอพาร์ทเม้นต์เล็กๆ ในตัวเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

    แสงขาวถูกกรองผ่านผ้าม่านโปร่งแสงเข้าสู่ห้องขนาดปานกลางที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีเรียบง่าย ผนังสีขาวโพลนแขวนกรอบรูปแอ็บสแตร็กประดับจากอิเกีย เฟอร์นิเจอร์ถูกจัดวางอย่างเรียบง่าย ไร้การตกแต่งใดนอกจากห้องครัวที่ถูกต่อเติมให้กว้างกว่าปกติ กินพื้นที่ส่วนมากของห้อง เพราะชายหนุ่มรัสเซียน่ะต้องทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง และผมก็ไม่ได้ใช้ห้องนี้สำหรับอะไรที่มากกว่ากินแล้วก็นอน

    ห้องนี้มันไร้ความหมายพอๆ กับสีขาวของมันที่มีให้เห็นอยู่ทั่วรัสเซีย

    มันกลวงเปล่า ผมไม่เคยเอาอะไรมาวางประดับ ผมไม่คิดว่ามันจำเป็นในเมื่อมันไม่มีอะไรสำคัญกับผมเลย นอกจากรูปถ่ายครอบครัวเพียงใบเดียวที่ผมพกตัิดตัวตลอดเวลา

    จนกระทั่งจิตวิญญาณแห่งสหรัฐอเมริกามาเคาะประตูห้องเมื่อวานซืน สะโหลสะเหลจนแทบล้มทับผม ไม่พูดอะไรแล้วถือวิสาสะเดิมดุ่มๆ ไปนอนบนเตียงผมเสียอย่างนั้น


    สีสันแห่งชีวิตในห้องมีเพียงสีเหลืองสดของดอกทานตะวันที่กำลังเบ่งบานอยู่ในขวดวอดก้า


    --ขวดรียูส ผมไม่คิดว่าดอกทานตะวันจะชอบวอดก้านะ แต่จะว่าไปก็น่าลอง?

    อเมริกาเป็นคนหามาให้ผมเมื่อวาน เขาบอกว่า "ฉันให้ ตอบแทนที่ยอมให้พักด้วย ไม่ได้สำคัญอะไรเลย"

    ผมยิ้มน้อยๆ และบอกขอบคุณไปทั้งที่ภายในมันพองฟูจนแทบระเบิด แค่เขาจำได้ว่าผมชอบดอกทานตะวันผมก็ดีใจแทบบ้าแล้ว

    ผมเผลอคิดเข้าข้างตัวเองว่า


    อเมริกาอาจจะมาหาผมเพราะอยากมาก็ได้


    ...จริงสิ อเมริกายังไม่ได้บอกผมเลยว่าเขามาด้วยสาเหตุอะไร

    ผมไม่กล้าการันตีความคิดหัวสูงนั่นหรอก เขาคงมาเพื่อหาเรื่องจะแกล้งผม...เหมือนหลายๆ ครั้ง

    หรือเพราะบอสของผมกับเขามีมีทติ้งส่วนตัวกันก็ไม่รู้

    ผมกำคอขวดวอดก้ายกขึ้นดื่ม เท้าแขนกับขอบหน้าต่างที่เปิดอ้ารับลมหนาวเพราะผมไม่สามารถคิดอะไรที่ดีไปกว่าการดื่มเครื่องดื่มประจำชาติพร้อมกับชมทิวทัศน์ของรัสเซียแผ่นดินเกิดได้แล้ว ผมรู้สึกถึงแรงกระตุกเบาๆ จากด้านหลัง อเมริกาห่อตัวเองด้วยผ้าห่มผืนหนาเดินมาสะกิดผมด้วยตาครึ่งปิดครึ่งเปิด ผมสีแซนดี้บลอนด์ยุ่งเหยิงจนน่าขำ อ้อ คราบน้ำลายตรงคางนั่นเหมือนเด็กทารกชะมัด

     "เปิดหน้าต่างทำไม?" เขาถามสีหน้ากึ่งหาเรื่องกึ่งรำคาญ...และกึ่งงัวเงีย

    "รับลม สนใจมานั่งจิบวอดก้าด้วยกันมั้ย?" ผมยกขวดชวน

    "ไม่ล่ะ ขอผ่าน เพิ่งมารู้นี่แหละว่าติดลบสามสิบหกองศาในหน่วยเซลเซียสมันหนาวขนาดนี้" อเมริกาเคลื่อนตัวไปนั่งขดตัวบนโซฟาจนกลายเป็นก้อนกลม

    "ไม่ถึงลบสี่สิบเขาไม่เรียกว่าหนาวหรอก อเมริกา" ผมยิ้มขำ

    "จริงเหรอ?"

    "เขาว่ากันว่า"

    "ว่าแล้วเชียว" อเมริกาทำสีหน้าเหม็นเบื่อและผมหัวเราะเบาๆ ก่อนกระดกวอดก้าเข้าปากอีกครั้ง

    แล้วความเงียบก็โรยตัวลง ผมไม่ได้เดือดร้อนกับมันเท่าไหร่ ถือเป็นโอกาสถามเรื่องที่ค้างคา

    "นายมาที่นี่ทำไม ยังไม่ได้บอกผมเลย"

    "โอ ก็" เขาเริ่ม ไม่ยอมสบตาผมและสำรวจความนุ่มละเอียดของพรมขนเฟอร์สีขาวแทน "พรมนุ่มดีนะ ซื้อที่ไหนเหรอ?"

    ทำเปลี่ยนเรื่อง ผมคิด และผมไม่ได้เกรงใจเจ้าประเทศคู่อรินี่เท่าไหร่เลยตอบกลับไป "ในฐานะเจ้าบ้าน ช่วยตอบผมมาด้วยก่อนผมจะจับนายส่งทางการ ถึงเป็นจิตวิญญาณแห่งประเทศก็ต้องการสิทธิส่วนบุคคลนะ"

    "*พวกคอมมิวนิสต์..." อเมริกาเบ้ปาก

    "ครับ เป็นประเทศมหาอำนาจด้วย"

    "ต้องตอบเหรอ?"

    "ไม่งั้นก็ถูกจับแพ็คลังกลับประเทศ"

    "ช่วยให้ที่พึ่งพิงในฐานะ 'เพื่อน' ไม่ได้เหรอ?" อเมริกายิ้มเจ้าเล่ห์ เหลือบตามองผมที่ยืนอยู่อีกครึ่งฟากของห้อง

    ให้ตาย เจ้าประเทศวายร้ายนี่ทำผมเกือบเสียหลัก

    "หน้านายแดงแหน่ะ" เขายิ้มเยาะ

    ผมเผลอหันหน้าหนีโดนอัตโนมัติ และได้ยินเสียงหัวเราะของอเมริกา--ไม่ใช่เสียงหัวเราะแปดหลอดแบบที่เคยได้ยินที่การประชุมนานาชาติ แต่เป็นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำเคล้าคลอไปกับไอหิมะที่ลอยอ้อยอิ่งในห้องนี้ ผมกลืนน้ำลาย นี่ผมเกิด


    รู้สึกอะไรขึ้นมา? 


    ผมกระดกวอดก้าแก้เก้อ ยังไง แค่วอดก้าขวดเดียวทำผมเมาไม่ได้อยู่แล้ว ทว่าผมกลับรู้ถึงความร้อนผะผ่าวที่ซาบซึมไปทั่วแผงอกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น


    อะไร? มันคืออะไร?


    ผมรู้สึกแบบนี้ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ ประชุมนานาชาติครั้งที่แล้วเหรอ? ประชุมจีแปดเหรอ? ตอนที่บอสผมนัดพบบอสเขาเหรอ? ไม่ว่าจะความเป็นไปได้ไหนๆ ก็ล้วนมีอเมริกาอยู่ด้วยทั้งนั้น

    ผมคิดว่าผมอาจตกหลุมรักอเมริกา

    ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจ้าประเทศวัยกระเตาะนอกสายตานั่นเติบโตขึ้นทันผม แผ่รอยยิ้มกว้างของฮีโร่ผู้มั่นใจไปทั่วโลก ผมเคยคิดว่ามันน่ารำคาญ (อันที่จริงตอนนี้ก็คิดอยู่) แต่มันเริ่มดึงดูดผมเข้าไป...ใกล้ขึ้น... ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

    คงเรียกได้ว่า คู่ตรงข้ามมักดึงดูดกัน ล่ะมั้ง?


    ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่กันแน่ แต่ดอกทานตะวันได้เข้ามายึดครองห้องที่ไร้ความหมายมาแรมปีของผมแล้ว


    "ตอบผมมาได้แล้วว่ามาที่นี่ทำไม"

    "ฉัน--" อเมริกาซุกใบหน้าลงกับผ้านวม

    "พูดดีๆ สิ นายเป็นเด็กห้าขวบรึไง?"

    "เมื่อกี้ฉันซ้อม!"

    "ทีทำตัวเป็นฮีโร่ชอบสอดเรื่องชาวบ้านล่ะไม่เคยซ้อม"

    อเมริกาไม่มีทางชนะคำพูดนั่นได้แน่ เขาโพล่งออกมา "ฉันทะเลาะกับตาลุงบ้านั่น!"

    มันฟังดูราวกับว่าจะเป็นใครก็ได้ เพราะไม่ว่าใครก็มีเรื่องกับอเมริกาเต็มไปหมด ทว่า ผมกลับแน่ใจว่า 'ตาลุงบ้านั่น' คือจิตวิญญาณแห่งประเทศอังกฤษอย่างไม่ต้องสงสัย


    ก็สองคนนั้นคบกันอยู่นี่นา


    ไม่ใช่ว่าผมต่อต้านความสัมพันธ์ร่วมเพศเพียงเพราะนโยบายกับกฎหมายประเทศผมมันเพี้ยนๆ หรอก แต่...คุณก็รู้--แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อยากฟังให้ชัดจากปากของอเมริกา--อยากให้มันเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ไม่มีความรู้สึกใดเข้ามาข้องเกี่ยว

    "นายมีเรื่องกับคนไปทั่ว ผมจะไปรู้เหรอว่าตาลุงนั่นเป็นใคร" ผมยิ้ม--คนรัสเซียยิ้มยาก และนี่เป็นยิ้มที่ยากที่สุดในชีวิต

    "ตาลุงหัวโบราณอังกฤษไง งี่เง่าชะมัด" แล้วเขาก็เริ่มบ่น

    แล้วก็บ่น

    แล้วก็บ่น

    จนลืมความหนาวไปเลยล่ะ

    ผมหาวัตถุดิบในตู้เย็นมาทำเบอร์เกอร์ให้เขากินกล้อมแกล้ม แน่นอน สไตล์รัสเซียแผ่นดินเกิด กับเมล็ดทานตะวันอีกนิดหน่อย...แล้วก็วอดก้าอีกนิดหน่อย

    พอเริ่มเมา อเมริกาก็เริ่มร้องไห้เป็นเด็กๆ แล้วก็กรนคร่อกไปเสียอย่างนั้น ลำบากผมต้องอุ้มกลับไปนอนที่เตียง

    ผมยังไม่ได้คำตอบว่า ทำไมถึงเลือกมาที่บ้านผมแทนที่จะเป็นบ้านแคนาดาหรือญี่ปุ่น ทำไมต้องข้ามน้ำข้ามทะเลมาหาผม?

    แต่มันไม่สำคัญอีกแล้ว


    ในเมื่ออีกไม่นาน ดอกทานตะวันในขวดวอดก้าก็จะร่วงโรยแล้ว


    --------------------



  • Monologue with the Author

    สวัสดีจ้าาา แนะนำตัวก่อน นามปากกา nene_yeet แต่เรียกเราว่าทีน่าก็ได้

    เป็นฟิคเรื่องแรกเลยที่เขียนลงมินิมอร์ poem อันนั้น จริงๆ เขียนเป็นอิ้งก่อนแล้วค่อยมาแปล มันจะแปลกๆ แต่ถ้าอยากอ่านต้นฉบับก็เดี๋ยวดูก่อน :0

    ชอบเพลง sunflower มากกก (แต่ไม่เคยดูซีรี่ย์เขาหรอก) แล้วมันมาตรงกับคาร์ของอีวานพอดี ไม่ได้ตั้งใจจะหน่วงเลย ธีมเพลงมันพาไป 555555

    จริงๆ แล้ว เราก็อย่าเปลี่ยนตัวเองเพื่อแค่คนที่ตัวเองชอบเลยนะ รักตัวเองให้มากๆ มันต้องมีคนที่ชอบดอกทานตะวันอย่างรัสเซียจังอยู่แล้วแหละคร่ะ! 

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in