สวัสดีจ้าาาาา อย่าเพิ่งด่ากันนาจาาาาา มาอัพบล็อกแล้วจ้าาาาา คราวนี้จะมาเล่าถึงการทดลองเป็นเด็กฝึกงานต่อนะฮะ
.
.
.
.
.
.
ขอเล่าย้อนกลับไปวันพฤหัส (เมื่อวานนั่นแหละ) ก่อนนะ เพราะเป็นวันที่ outing ที่สุดล่ะตั้งแต่ฝึกมา 2 อาทิตย์ เริ่มต้นด้วยที่ว่า เรากับเพื่อนอีกคนที่ฝึกงานด้วยกันได้รับมอบหมายให้ไปร่วม "สัมนา" ในหัวข้อ "การฟ้องหมิ่นประมาทเพื่อปิดปากประชาชน" ซึ่งมีอาจารย์ในคณะเรามาบรรยายด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนกับมาฟัง lecture นอกสถานที่ยังไงอย่างงั้น
มาประเดิมด้วยความโง่อย่างเเรกกันก่อนเลย คืองานที่ว่าข้างต้นเนี่ยต้องไปที่โรงแรมนึงแถวๆ MRT ห้วยขวาง โดยทั่วไปคือเราจะนั่ง MRT ไปทำงานอยู่แล้ว ก็คือแบบโอเค เราก็แค่นั่ง MRT ไป ลงห้วยขวางไรงี้ แล้วก็ไปโรงแรมไง จบปิ้ง....ยังอิสัส !! กูโง่กว่านั้น คือต้องบอกกว่าปกติแล้วเนี่ยเป็นคนที่จะไปไหนก็ตามต้องทำการเซอร์เวย์ก่อนไรงี้ แต่วันนั้นคิดไรอยู่ไมม่รู้ไง เสือกไม่เปิดแผนที่เลยจ้าา ไอ้บ้าเอ้ย!!! อีกอย่างคือว่า พอลง MRT มาปึ๊ป ก็รีบไง สายแล้วไง เราก็ด้วยความรีบและลนมากๆๆๆ ก็เลยแบบมีความคิดที่ว่า 'Taxi ต้องพากูไปได้ ! กูเลยโบกเลยจ้า เริ่มจากคันแรก
"พี่ๆ ไปโรงแรม dnglfdgkgklgklsdg ครับ "
"อ้อน้อง พี่ไม่รู้จักทางอ่ะครับ พี่มาจากมหาชัย"
เชี่ยยยยย นี่กูรอตั้งนาน โบกมาตั้งหลายคัน ตากนด้วยเพื่อรอให้พี่แท็กซี่บอกแค่ว่าพี่มาจากมหาัย หรออออ แค่นี้หรอออออ ..... หึ แต่ไม่จ้า เราจะไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ก็ยืนโบกแม่งอีกคันอ่ะ
"พี่ๆ ไปโรงแรม lkgkgjsdjgklsdg ครับ"
"อ่า......ครับ" ........เห้ยๆๆ รอดตายแล้ว
"น้องครับ........มันโรงแรมตรงนี้ไม่ใช่หรอ" แล้วก็ชี้ไปทางข้างหลัง......แล้วเราก็หันมองไปด้วยความเงิบ
อิเชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย แม่งคือมันอยู่ข้างหลังกูเว้ยยยยยย!!!!! ข้างหลังกูจริงๆ โง่ไปอี้กกกก!!! ซึ่งจังหวะนั้นคือแบบหน้าแตกมากกกกกก แล้วที่ทำได้คือหันไปบอกว่า
"อ้อพอดีผมเพิ่งขึ้นมาจากต่างจังหวัดครับ ไม่รู้ทาง " แล้วก็ยิ้มๆไป......เอาจริงคือเกิดและโตในกรุงเทพมาตลอด 21 ปี แต่ด้วยความที่หน้าบ้านๆไง เลยเนียนๆไป พี่แท็กก็ยิ้มๆแล้วก็จากไป
ด้วยความที่เอาวะ กูว่าหน้าแตกไปแล้ว ก็สามารถไปต่อด้วยความ strong เดินดุ่มไปไปที่โรงแรมแล้วก็ฟังสัมนาไปด้วยความอายๆทีี่มาสายแล้วได้ไปนั่งหน้า 55555555555555555555 (แต่ไปทันก่อนที่งานจะเริ่มนะ)
.
.
.
.
.
ขออนุญาติอาจารย์ปกป้องด้วยนะฮะ
อาหารอร่อยดีนะ แต่กาแฟนี่ไม่ไหว
งานสัมนาในที่นี้อย่างที่บอกไปในหัวข้อข้างต้นว่ามันคือกรณีที่ "การฟ้องหมิ่นประมาทเพื่อปิดปากประชาชน" ซึ่งการฟ้องหมิ่นประมาทเนี่ยสามารถไปดูได้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 ซึ่งองค์ประกอบความผิดเนี่ยจริงๆแล้วก็คือการใส่ความต่อบุคคลที่สามและทำให้บุคคลนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงนั่นเอง และนอกจากนี้หมิ่นประมาทในทางแพ่งจะอยู่ในมาตรา 423 ด้วย ซึ่งในกรณีของกฎหมายแพ่งจะเป็นกรณีที่ทำให้เราสามารถฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทนได้ในทางแพ่ง ซึ่งกรณีนี้เนี่ยเป็นกฎหมายในเรื่องหมิ่นประมาทของประเทศไทย นี่ก็เป็นการเกริ่นเรื่องไรแบบนี้ก่อน ต่อมาก็มีการเปรียบเทียบกฎหมายหมิ่นประมาทในฝรั่งเศส คืองี้ในประเทศฝรั่งเศสเนี่ยก็เป็นประเทศที่แบบจะให้มุมมองว่า ไม่มีการฟ้องหมิ่นประมาทในทางอาญายกเว้นเหตุจาก เชื้อชาติ เผ่าพันธ์ุ ศาสนา เพศ ความพิการ ส่วนถ้าเสียหายปกติธรรมดา หรือหมิ่นประมาทเป็นธรรมดา ก็จะฟ้องในทางแพ่งอย่างเดียว
ส่วนในประเทศอังกฤษก็เช่นเดียวกัน แต่เพียงว่าโทษทางอาญาที่จะลลงโทษนั้นคือกรณ๊ทำให้สังคมแตกแยก (Breach of peace) ประมานณี้ๆ
ส่วนกรณีการฟ้องคดีเพื่อปิดปากมีส่วนร่วมในกิจการสาธารณะ (SLAPP) คือไอเนี่ยมันย่อมากจาก Strategic Law suits Against Public Participation คือการดำเนินคดีเพื่อยับยั้งการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีหรือ การโต้เถียงโดยมีจุดหมายเพื่อต่อสู้กับบุคคลที่พูดหรือแสดงความเห็นในเรื่องสาธารณะ คือเช่นกรณีที่มีองค์กร NGO ไปทำการโพสต์ข้อความลงเฟสเพื่อแฉบริษัทนึงที่กำลังกระทำผิดอยู่ ซึ่ง SLAPP นี้แหละคือเครื่องมือที่จะเป็นการป้องกันคดีเพื่อฟ้องปิดปากองค์กร NGO เรื่อง Anti-SLAPP Law ที่ต้องการให้ NGO เนี่ยสามรถมาแฉไอบริษัท่กระทำความผิดต่อไปได้ เอาง่ายๆคือเปิดโปงความผิดของบริษัทดังกล่าวไม่ให้โดนฟ้องไรงี้ ซึ่งองค์ประกอบของ SLAPP นี่เสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเมื่อรวมกับประโยชน์สาธารณะนั้น ต้องรวมกันและมากกว่าสิทธิในชื่อเสียงเกียรติยศ ดังนั้นจึงมีคำถามที่ทิ้งท้ายว่า "ทำได้ในไทยรึป่าว ???"
อายยย ก่อนน่า สวิงง ฟอม เดอะ เชนดาเลียฮี ฟอมเดอะเชนดาเลียฮี ..... มันร้องี้จริงๆนะ 55555
พอจากนั้นแล้วพอเสร็จจากการสัมนา แล้วนั้นเราก้ไปกินบุฟเฟต่ที่โรงแรมกับเพื่อนอีกคน แล้วทีนี้ก็เจอเพื่อนคณะเดียวกันที่แบบ...เอาตรงๆนะก็ไม่ได้สนิทอ่ะ คือแบบร้อยวันพันปีนี่ไม่เคยทักกูเล้ยยย พอมางานนี้ทักกันเฉยๆๆ 555555555
แล้วที่นี้พอกลับมาทำงานที่เฟิร์มต่อ ซึ่งทำงานเคสประกันภัย ขอเล่าคร่าวๆล่ะกันเนาะ คือเรื่องนี้มันีอยู่ว่ามีผู้เอาประกันภัยคนนึงมันไปหลอกเคลมประกันที่ทำไว้เว้ยคือ แบบไปหลอกโดนหมากัดหูซ้าย หลอกว่าโดนหมากัดที่ปีกจมูกขวา โดนไม้ทิ่มขณะตัดไม้.......อีบ้าาาาา นี่มึงจะหลอกเคลมด้วยเหตุผลปัญญาอ่อนแบบนี้หรอ จะแหกตากูหรอ หึ หึ หึ.....ทำไม่ได้หรอก !!!! พอสักพักยังทำไม่เสร็จเลย แล้วที่นี้คือแบบพี่ partner บอกว่าเนี่ยพร้อมนะ ตามพี่มาเลย เด่วไปสน.กัน.....อ่าวล่ะวานที่ค้างล่ะ ไม่ถงไม่ถามกูสักกกกกคำำำ เออลุย!!!!!
ระหว่างนั่งรถของพี่ partner นี้แหละระหว่างทางพี่เขาก็ให้ความรู้และสอนในหลายๆสิ่งที่เราได้รู้ก่อน แม้กระทั่งการยื่นนามบัตรอย่างสุภาพพี่เขาก็ยังสอนเราเลย คือให้จับสองมือแล้วส่งให้เขาเพราะว่าเป็นมารยาทที่สุภาพ.....หูยยยยย ความรู้ใหม่ว่ะเห้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พอไปถึงก็ไปดูทักษะการเจรจาคุยกับตำรวจไรงี้ เราก็ฟังข้อเท็จจริงและทักษะการคุยกับพนักงานสอบสวนด้วยไรงี้
พอขากลับจากทำงานพี่เขาก็ตั้งใจจะไปส่งน้องแบบอกเป็นมั่นเป็เหมาะว่าเออด่วพี่ไปส่งได้นะ บ้านพี่อยู่แถวๆเลียบทางด่วนรามอินทรา แต่เปล่าเลยจ้าาา บ้านอยู่มีนบุรีจ้าาาา อยู่ใกล้ๆซาฟารีเวิร์ล ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ ไกลไปอี้กกกก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจ ลงตรงผ่านฟ้าท่าเรือและก็นั่งและก็เรือไปลงราชเทวี ฝ่าฝนไปไรไปปึ๊ป โผลาพารากอนเลย หาไรกินสัักแปปและกลับ 5555555555
ระยะเวลาผ่านมาก็สองอาทิตย์แล้วนะที่เรามาได้เป็นเด็กฝึกงานกฎหมาย ได้เรียนรู้งานมากขึ้น ได้รู้อะไรใหม่ๆมากขึ้น ซึ่งยังมีอีกหลายๆประเด็นที่จะเล่าให้ฟังในบล็อกต่อๆไป ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะครับบบบบ และอย่าลืม........................... . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
*********************** ให้ทุกวันเป็นวันของกฎหมาย 555555555555
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in