เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
มองในมุมคนว่างpinion
เรื่องเล่าในถุงขนม : ครัวซองต์
  • ผลจากการมานั่งชิลล์ในร้านคาเฟ่บ่อยๆ เป็นเหตุให้ได้มาเจอขนมที่ชื่อว่า ครัวซองต์ ช่วงนี้ถ้าพูดถึงครัวซองต์คงไม่มีใครส่ายหน้าและบอกว่าไม่รู้จักอย่างแน่นอนเพราะเป็นขนมที่ร้านคาเฟ่หลายร้านพร้อมใจกันนำเสนอกันเลยทีเดียว
    ก่อนหน้าที่จะมีนโยบายห้ามนั่งทานอาหารในร้าน เรายังคงไปนั่งผ่อนคลายที่ร้านคาเฟ่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เหมือนเดิมแต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกว่าร้านคาเฟ่เดี๋ยวนี้มีบางอย่างที่เหมืนกันนั่นก็คือ ครัวซองต์ ตอนแรกที่เห็นขนมชิ้นนี้เรารู้สึกว่ารูปลักษณ์มันดูหรูหราดีนะ ชิ้นใหญ่ เนื้อขนมเป็นสีทองมองดูท่าทางจะกรอบอร่อย แต่ทว่าใจมันไม่กล้าพอที่จะซื้อมาลองกินจริงๆเพราะราคาของเจ้าครัวซองต์นี่ไม่สบายกระเป๋าเลยนะ แอบคิดอยู่ในใจว่าขนมชิ้นเดียวราคาเกือบร้อย (บางที่ขาย 100+ก็มี) จะมีใครซื้อกินบ่อยๆ มันมีราคาแพงกว่าเค้กเสียอีก เราก็ปล่อยผ่านครัวซองต์มาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ไม่ว่าจะปล่อยผ่านมันไปนานแค่เราก็ยังเห็นครัวซองต์อยู่ในร้านคาเฟ่เหมือนเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำเพราะช่วงหลังๆ เริ่มมีครัวซองต์ที่สอดไส้ต่างๆ มาวางขายให้เห็นอีกด้วย และความอยากรู้อยากลองมันก็มีค่ามากกว่าเงินในกระเป๋าเสมอทำให้วันนั้นเป็นครั้งแรกที่ได้รู้จักกับรสชาติของครัวซองต์

    ครัวซองต์เจ้าเสน่ห์

    "อร่อย"
    คำนี้คำเดียวคงบอกความประทับใจที่ได้กินครัวซองต์ครั้งแรกได้อย่างดีที่สุด ตอนนั้นเราเลือกครัวซองต์รสเนยซึ่งเป็นครัวซองต์ที่ราคาถูกที่สุดในร้านมาลองกินก่อนแต่แค่กินคำแรกก็รู้สึกชอบขึ้นมาทันที ขนมปังธรรมดาที่ดูเหมือนไม่มีอะไร มีแค่แป้งกับเนยแต่พอกินแล้วทำให้อยากกินต่อ มีคำที่หนึ่งก็มีคำที่สองและก็อีกหลายๆคำตามมาจนหมด สำหรับตัวเราเองเรารู้สึกว่าครัวซองต์เป็นขนมที่มีเสน่ห์แบบเรียบง่าย เนยที่อยู่ในชั้นขนมปังให้กลิ่นหอมและรสชาติมันที่กำลังพอดี ไม่มีความเยิ้ม หรือกินไปนานแล้วรู้สึกเลี่ยนขึ้นมา พอมีรสเนยที่อร่อยผสมกับความกรอบของตัวแป้งจึงทำให้ทุกอย่างที่เป็นครัวซองต์คือความอร่อยอย่างลงตัว แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักไปช่วงหนึ่งเพราะนโยบายห้ามนั่งทานอาหารในร้าน เราไม่ได้กินครัวซองต์อยู่นานเพราะจะให้ไปร้านคาเฟ่เพื่อซื้อขนมชิ้นเดียวแล้วกลับบ้านมันก็ดูจะลงทุนมากไปเหมือนกัน เราเกรงใจคนพาไปด้วยและก็คิดว่าอีกไม่นานเดี๋ยวก็คงได้ไปกินครัวซองต์เหมือนเดิม แต่พอเอาเข้าจริงก็นานเลยนะ ช่วงแรกๆเราแอบเหงาอยู่เหมือนกันที่เสาร์-อาทิตย์ต้องนอนอยู่บ้านเหมือนเดิมและก็วนอยู่กับการซื้อขนมเล็กๆน้อยๆมากินที่บ้านอยู่พักหนึ่ง ถ้าวันไหนอยากกินครัวซองต์ขึ้นมาจริงๆก็ซื้อในเซเว่นกินไปก่อน ประมาณว่ากินให้หายคิดถึง 
    จนวันหนึ่งเราไปเจอร้านเบเกอรี่เปิดใหม่ในเฟสบุ๊กและเห็นว่าร้านของเขามีครัวซองต์ขายด้วย ทำครัวซองต์ออกมาได้น่ากินมากแถมมีหลายหน้าให้เลือกอีก ดูจากในรูปเรามั่นใจเลยว่าอร่อยแน่นอน ถ้าใครสงสัยว่าเรารู้ได้ไง เราดูจากเนื้อขนมนี่แหละ เพราะครัวซองต์ที่อร่อยต้องมีเนื้อสีเหลืองทอง ขนาดพองโตแสดงความกรอบที่อยู่ข้างใน และถ้าหั่นออกมาต้องเนื้อด้านในต้องโพรงเหมือนรังผึ้งและถ้าดูดีๆจะเห็นว่าชั้นแป้งที่มีลักษณะโพรงจะมีเนยอยู่ทั่วทุกชั้นซึ่งต้องบอกเลยว่ากล้องของทางร้านค่อนข้างดีเลยนะ ถ่ายรูปออกมาเห็นขนมชัดเจน เราเลยตั้งใจจะไปซื้อครัวซองต์ที่ร้านนี้นี่แหละเพราะว่าเดินทางไปง่าย ขี่รถสัก 10 นาทีก็ถึงร้านแล้ว สำหรับเรื่องรสชาติเราขอสรุปไว้ต่อจากนี้เลยว่ามีรสชาติอร่อยตรงปกทุกหน้า ราคาถูกกว่าไปกินในร้านคาเฟ่อีกด้วย ครัวซองต์ที่เราชอบซื้ออยู่บ่อยๆ จะมีอยู่ 3 แบบ ก็คือ ครัวซองต์รสเนย บางคนอาจจะบอกว่ามันจืดไปแต่เราชอบนะ ชอบมากกว่าตัวอื่นๆอีก รองลงมาก็เป็นครัวซองต์อัลมอนด์ ตัวนี้จะสอดไส้ครีมคัสตาร์ดอัลมอนด์ไว้ด้านในและโรยหน้าด้วยเมล็ดอัลมอนด์และน้ำตาลไอซิง และสุดท้ายก็คือ เพนอูช็อกโกแลต ตัวนี้ไม่มีลักษณะเหมือนอย่างครัวซองต์ทั่วไปเพราะจะมีลักษณะเป็นโรลม้วน มีไส้ดาร์กช็อกโกแลตอยู่ข้างใน ถ้าใครอยากลองกินครัวซองต์รสเข้มก็แนะนำให้ลองกินอันนี้ดู
    สำหรับตอนนี้ถ้าให้ถามกับตัวเองว่าคุ้มราคาไหมก็ตอบได้ทันทีเลยว่า คุ้มมาก! บางคนอาจจะยังคิดอยู่ว่าแค่กินแล้วรู้สึกอร่อยก็เรียกว่าคุ้มราคาแล้วหรอ? อันที่จริงมันก็คุ้มค่ากับความรู้สึกประทับใจเวลาที่ได้กินของอร่อยนะ แต่โดยส่วนตัวเราไม่ได้คิดว่าครัวซองต์แพงเพราะความอร่อยที่แปลกใหม่หรือรูปลักษณ์ที่ดูหรูหราหรอก เราคิดว่ามันเป็นเพราะวัตถุดิบและวิธีทำที่ต้องใช้ความพิถีพิถันอย่างมากจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมครัวซองต์ถึงมีราคาแพงกว่าขนมอื่นๆ 
    บทส่งท้าย
    แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น ร้านคาเฟ่ต่างๆก็สามารถเปิดให้เข้านั่งทานในร้านได้แต่เรารู้สึกว่าการใช้ชีวิตของตัวเองก็เปลี่ยนไปแล้วเหมือนกัน เราไม่ได้ออกไปนั่งที่ร้านคาเฟ่บ่อยๆเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังคงซื้อครัวซองต์มากินอยู่เหมือนเดิม อาจเป็นเพราะความเคยชินหรือความรู้สึกที่ไม่อยากออกไปไหนทำให้ช่วงนี้เราชอบอยู่บ้านขึ้นมา แต่สำหรับใครที่ออกเดินทางไปผ่อนคลายแล้วหรือรักในการทานอาหารก็ขอฝากครัวซองต์ให้เป็นขนมแนะนำที่ทุกคนเปิดใจไปสัมผัสกันสักครั้งครัวซองต์ไม่ได้มีเสน่ห์น่าหลงใหลแค่เพียงรสชาติแต่ยังมีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจอีกด้วย เราได้มีเวลาอ่านประวัติของครัวซองต์มาสักพักก็รู้สึกอยากแบ่งปันให้กับคนที่ชื่นชอบครัวซองต์ได้อ่านด้วย หากใครสนใจก็สามารถมาอ่านกันต่อได้ที่ 'ครัวซองต์' ความอร่อยประจำร้านคาเฟ่

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องเล่าของคนว่างๆ คนนี้ แล้วจะกลับมาเล่าใหม่อีกครั้ง

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in