เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกการอ่านmenalin
King's Cage (Red Queen #3)
  • "As you enter, you pray to leave.
    As you leave, you pray never to return"
    (p. 217)


    King's Cage (Red Queen #3)

    ผู้เขียน: Victoria Aveyard
    Harperteen, Feb. 2017

              เว้นว่างจากการโพสต์ไปนาน เพราะนอกจากช่วงนี้งานจะงอกงามดั่งดอกเห็ดฤดูฝนแล้ว ยังใช้เวลาอ่าน King's Cage เล่มนี้อยู่ด้วย และในที่สุดก็อ่านจนจบในช่วงวันหยุดสงกรานต์ อ้อ ขอบอกไว้ก่อนว่าเล่มนี้เป็นเล่มที่ 3 ในชุดซีรี่ส์ Red Queen หรือ ราชินีสีแดงในชื่อภาษาไทย (แพรวสำนักพิมพ์) ถ้าใครยังไม่เคยอ่านเล่ม 1 และเล่ม 2 (Glass Sword - รุ่งอรุณสีเลือด) ก็เลี่ยง ๆ บล็อกนี้ไปก่อนแล้วกัน กลัวจะสปอยล์ในส่วนที่ยังไม่อยากรู้

              ตอนจบของ Glass Sword นั้นทิ้งท้ายไว้ได้คาใจและชวนระทึกมาก Mare ยอมเสียสละให้ Maven จับตัวไป เพื่อช่วย Cal และสมาชิกในทีมค้นหา New Blood ให้หนีรอดไปได้ เรื่องราวใน King's Cage ก็ดำเนินต่อจากนั้น Mare ตกเป็นนักโทษในกำมือของชายที่ทั้ง (เคย) รักทั้งเกลียด ในสายตาของเธอเขากลายเป็น monster ชั่วร้ายที่ไม่มีวันกลับตัว Mare ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ เป็นเครื่องมือในการทำสงคราม เธอจำต้องแสดงตนว่าได้สำนึกผิดและยินยอมร่วมมือกับพวก Silver และกล่าวโจมตี Scarlet Guard ช่วงเวลาที่ถูกจับเป็นตัวประกันท่ามกลางศัตรู Mare ต้องถูกทรมานและไม่สามารถใช้พลังได้เลย เธอจำต้องร่วมแสดงละครไปกับเขาอย่างไม่อาจเลี่ยง

              แต่ก็ในช่วงเวลานี้เองที่เธอได้เข้าใกล้ Maven อีกครั้ง แม้ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอจะแน่ชัด แต่ก็คงไม่มากพอ และทุกสิ่งทุกอย่างดำเนินมาถึงจุดที่มิอาจถอยหลังได้อีกแล้ว แม้ Mare ได้รับรู้ถึงสิ่งเลวร้ายที่ Elara ทำกับลูกชายของตัวเอง แต่ก็ไม่ช่วยให้เธอเกลียดเขาน้อยลง เธอยังต้องการฆ่าเขาอยู่ดี ส่วน Maven เองก็มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าและมุ่งมั่นจะเดินหน้าต่อ ส่วน Cal ก็ตั้งใจแน่วแน่ที่จะช่วย Mare กลับคืนมาให้ได้ สงครามครั้งใหญ่ระหว่างเลือดสีเงิน และสีแดงกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า...

              เราว่าเราค่อนข้างผิดหวังกับ King's Cage นิดหน่อย เรื่องมันออกจะเริ่มยืด ๆ ช่วงเวลาที่ Mare โดนจับเป็นตัวประกันมันมีบางช่วงบางตอนที่รู้สึกว่าตัดออกไปได้ น่าจะทำให้เรื่องกระชับและเร็วมากขึ้น บทบรรยายเยอะมาก ยิ่งอ่านเป็นภาษาอังกฤษยิ่งง่วง ฮาาา เลยช่วงกลางเล่มไปถึงเริ่มกลับมามีอะไรให้ลุ้นให้ตื่นเต้นอีกครั้ง ฉากสู้รบระทึกมาก สนุกดี ส่วนที่ฟินก็คือผ่านมาถึงเล่ม 3 แล้วบทรักหวาน ๆ ก็มีมาให้ฟินกันเยอะหน่อย (แต่ก็ยังไม่สาแก่ใจอิฮั้นเท่าใดนัก) ภาคนี้มีตัวละครใหม่ ๆ โผล่มาสมทบเพิ่ม ล้วนแต่มีบทบาทสำคัญ คิดว่าเรื่องราวน่าจะเริ่มขมวดปมเข้าใกล้จุดแตกหัก Mare เองก็โตขึ้น หลังจากผ่านเหตุการณ์เลวร้ายและสูญเสียมามาก เธอก็เริ่มรู้จักคิด เห็นคุณค่าของเวลาและคนรอบตัว และเปิดใจตัวเองมากกว่าเมื่อก่อน

              (อ่านไปก็แอบลุ้นแอบมีความหวังกับ ​Maven คือเชียร์นางอะ อยากให้มี surprise พลิกล็อกกันน่าดูถล่มทลาย แต่ดู ๆ แล้วเหมือนความหวังจะริบหรี่อย่างไรพิกล จนถึงตอนนี้ก็ยังแอบหวังนะ พ่อ little monster ของเค้า อย่างไรก็ยังมีเล่ม 4 อยู่อะเนาะ #ลมลมแล้งแล้งไปไหม #ทีมแม่ยกMaven)

              การถูกกดขี่ข่มเหง ปิดกั้นและริดรอนสิทธืเสรีภาพคือชนวนของปัญหา ความทุกข์จากการสูญเสียญาติมิตรไปกับสงครามตลอดช่วงเวลาอันยาวนานดำเนินมาถึงจุดที่ไม่อาจทน เมื่อกลุ่มคนที่เคยตกเป็นเบี้ยล่างค้นพบผู้มีความสามารถเทียบเคียงกับกลุ่มชนชั้นปกครอง หรืออาจจะเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ แสงแห่งความหวังจึงเริ่มเรืองรองขึ้นในหมู่ผู้คน Mare คือ New Blood คนแรกที่เผยตัวต่อสาธารณะ เธอถึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ในครั้งนี้ แต่สงครามไม่เคยนำมาซึ่งสันติที่แท้จริง ความชอบธรรมจะเกิดขึ้นก็เมื่อฝั่งของตัวได้รับชัยชนะ และความหวังก็มาพร้อมกับความกลัว พลังพิเศษพวกนั้นก็ไม่ต่างจากพวก Silver แล้วจะไม่ให้พวกเลือดสีแดงที่ไร้ซึ่งพลังใดกลัวได้อย่างไร อะไรจะรับประกันว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย? แม้จะหวั่นเกรงแต่ก็ยังต้องพึ่งพาอาศัยกัน Mare, New Blood, Scarlet Guard พร้อมด้วยพันธมิตรใหม่จะร่วมมือกันไปได้ถึงจุดไหนของเส้นทางแสนอันตรายนี้

              ต้องรอลุ้นว่าเรื่องราวถัดจากนี้ในเล่ม 4 ซึ่งจะเป็นเล่มจบของซีรี่ส์ชุดนี้ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ก็ยังเดาไม่ออกว่าสงครามนี้จะนำพาตัวละครแต่ละตัวไปพบกับจุดจบ/จุดลงเอยแบบไหน ชื่อเล่มยังไม่มีประกาศออกมา แต่กำหนดวางขายน่าจะ 2018 ปีหน้าโน่นเลย อ่านแล้วก็ค้างเติ่งไปค่ะ กว่าจะถึงเวลานั้นคงต้องหยิบเล่มก่อนหน้ามาอ่านทวนใหม่อีกรอบ T^T

    โพสต์ที่เกี่ยวข้อง:
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in