เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
INDIGO,BLUElomtula
Stranger things

  • “แล้วมึงจะเอาไงต่อ” ไป๋รินของเหลวในขวดใส่ลงในแก้วของเพื่อนที่กำลังนั่งทำหน้าเหมือนแบกความทุกข์ของคนทั้งโลกเอาไว้ ครามไม่มีกระจิตกระใจจะตอบคำถามของไป๋ ครามไม่มีกระจิตกระใจจะตอบคำถามของใครมาเป็นเวลากว่ายี่สิบนาทีแล้ว ตั้งแต่เจ้าตัวหย่อนก้นนั่งในร้านที่พวกเพื่อนๆ ตกลงกันไว้ว่าจะมาเมาหัวทิ่มที่นี่ ที่ก่อนหน้านี้เล่นตัวนักหนาว่าจะไม่มา 
    “ไม่รู้” ครามตอบ กระดกของเหลวในมือจนเกือบสำลัก 
    “กินเสร็จมึงไปนอนกับกูก็ได้นะ” นนท์เอ่ยด้วยความหวังดี จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเห็นเพื่อนในสภาพแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
    “ไม่อ่ะ ไม่อยากปล่อยฟ้าไว้คนเดียว ยิ่งยังหาคำตอบของรูปภาพพวกนั้นไม่ได้ด้วย”
    “มึงปล่อยเขาไว้ก็ไม่เป็นไรหรอกไหม” ไป๋เริ่มบ่น “เขาไม่สนใจไยดีมึงขนาดนี้ ขนาดที่มึงบอกเขาว่ามึงไม่ได้ทำ และทั้งๆ ที่เขาเองก็ไม่มีหลักฐานอ่ะว่ามึงเป็นคนทำ เขายังไล่มึงออกมาเลย”
    “เรื่องที่เขาไม่ชอบมึงอ่ะ กูก็พอเข้าใจได้ว่ามึงไปทำตัวเหี้ยๆ ใส่คนที่เขาชอบก่อน แต่เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวนะ เขาทำแบบนี้ไม่มีเหตุผลเลยด้วยซ้ำ” เฟรมโยนถั่วเข้าปากและเริ่มพล่ามต่อ “มึงเองก็เหมือนกัน เรื่องผ้าใบก็เคลียร์แล้ว ทำไมไม่เอาตัวเองออกมาจากตรงนั้นสักทีวะ มึงชอบเขา พวกกูเข้าใจ แต่เขาก็ชัดเจนแล้วนะว่าไม่ได้ชอบมึง เผลอๆ อาจจะเกลียดขี้หน้าด้วยซ้ำมั้ง มึงฝังตัวเองอยู่ตรงนั้นมาเกือบสามปี ไม่มีเหี้ยไรคืบหน้าสักอย่าง ก็น่าจะมองเห็นได้แล้วป้ะ ว่าทางมันตัน มันไปต่อไม่ได้ ทำไมมึงยังไม่หาเส้นทางใหม่ แล้วพาตัวเองเดินไปข้างหน้าสักทีวะ”
    “สมองกูมันประมวลผลได้ว่าควรต้องทำยังไง แต่ใจกูมันไม่อยากว่ะ” ครามยิ้มหยันให้กับตัวเอง “ไม่อยากเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ไม่อยากเดินไปข้างหน้า ที่เป็นอยู่สำหรับกูตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว สุขบ้างทุกข์บ้างมันก็ธรรมดาของชีวิตป่าววะ ถ้ามันถึงวันที่กูไม่เอาแล้ว ไม่อยากจะอยู่ตรงนี้ กูก็คงจะก้าวออกไปเองแหละ แต่ตอนนี้กูยังอยากมีความสุขชิบหายก็เพราะเขา และทุกข์ชิบหายก็เพราะเขาอยู่” พยายามฝืนร่างกายที่ตอนนี้เอาแต่จะไหลฟุบลงกับโต๊ะ “พวกมึงก็ทนเก็บซากกูหน่อยได้ไหมอ่ะ อย่าใจร้ายกับกูนักเลย”
    เฟรมยกมือขึ้นลูบหน้า มองสภาพเพื่อนที่เอาแต่ปากเก่งค่อยๆ ไหลฟุบลงไปกับโต๊ะอย่างราบคาบ แบบที่ความพยายามก่อนหน้านี้ไม่สัมฤทธิ์ผล
    “เอาไงล่ะทีนี้” นนท์ถามท่ามกลางเสียงเพลง รอให้เธอบอก ของ whal & dolph ที่ถูกเล่นได้ผิดจังหวะไปหน่อย เพราะคนที่จะถูกเพลงนี้ขยี้ให้ตายดันผล๊อยหลับไปเสียก่อน ถูกที่ผิดเวลาทั้งคนทั้งเพลง จะตลกร้ายอะไรขนาดนี้
    “ให้พี่หมอเขามารับไหม” ไป๋เสนอ
    “เขาจะมาหรือไงล่ะ เป็นคนไล่มันออกมาเองนะ” เฟรมค้าน
    “งั้นก็ให้มันนอนหอกู” ไป๋สรุป
    “กูเป็นห่วงฟ้า” คนที่เพิ่งไถหน้าลงไป เงยขึ้นมาโต้เถียง นนท์จิ้มนิ้วลงบนหัวหนักๆ ของครามหนึ่งที ก่อนที่มันจะดิ่งลงบนโต๊ะเหมือนเดิม
    “ยังจะเสนอหน้าขึ้นมาเรื่องมากอีกนะ” เฟรมบ่น
    “กูจะกลับไปหาฟ้า” ครามไถหัวมาหานนท์ที่นั่งข้างกันจนเพื่อนอีกสองคนเบ้หน้า ส่วนนนท์ได้แต่กลอกตามองวงดนตรีที่กำลังเล่นกันบนเวทีและกระดกเหล้าเข้าปากไปอย่าปลงๆ
    “หมดกัน พี่ครามคนคูล”



    พวกเขาสามคนยืนเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่ปิดไฟเงียบสนิทในเวลาตีหนึ่งกว่าๆ คนที่เมาคอพับคออ่อน หลังจากอาเจียนข้างทางไปหนึ่งครั้งก็เหมือนจะเริ่มสร่างขึ้นมาบ้าง รถสปอร์ตของเฟรมจอดอยู่ด้านหน้า ความสว่างเพียงอย่างเดียวคือไฟหน้ารถและเสียงเครื่องยนต์ที่ดังแข่งกับความเงียบ ครามยืนพิงYZR-3 ของตัวเอง(ที่ไป๋เป็นคนอาสาขับมาให้ และจับครามยัดลงไปให้รถเฟรม) หลังจากกดอ๊อดหน้าบ้านไปแล้วสองครั้งแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีใครมาเปิดประตู
    “เอามันไปนอนหอใครสักคนไหม พี่หมอคงนอนไปแล้วอ่ะ” นนท์ว่า 
    และก่อนที่พวกเขาจะได้เคลื่อนย้ายมวลสารตัวเองไปตามที่คิดกันไว้ เสียง ‘เคร้ง’ ภายในบ้านก็เรียกสติที่หายไปของครามจนพวกเพื่อนๆ ที่เหลือคว้าตัวไว้ไม่ทัน


    เขาปีนเข้าไปในบ้าน แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าประตูหน้าบ้านไม่ได้ถูกล็อคเอาไว้ ดูไม่ใช่วิสัยที่ชอบระมัดระวังตัวของคุณหมอภาพฟ้าเลยสักนิด นั่นทำให้ครามรู้สึกใจไม่ดีมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เขาเปิดไฟให้สว่างทั่วบ้าน ไม่เห็นความผิดปกติอะไรจนกระทั่งเดินเข้าไปในห้องครัว
    “ฟ้า!”
    ครามพุ่งเข้าไปประคองภาพฟ้าที่พยายามจะท้าวแขนลงบนเคาน์เตอร์ราวกับสองขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะยืนแล้ว เป็นตอนนั้นเองที่ครามเห็นว่าหน้าผากของอีกฝ่ายมีเลือดไหลซึมออกมา 
    “เกิดอะไรขึ้น”
    ครามพยายามที่จะดูแผล แต่คนเป็นหมอขืนตัวออก
    “มันไปไหนแล้ว”
    “ใคร”
    “มีคนเข้ามาในบ้าน ตอนแรกนึกว่าเป็นคุณ”
    ครามหน้าซีด “ขโมยหรอฟ้า มันทำอะไรฟ้าบ้างหรือเปล่า”
    “ได้ยินแต่เสียงชัตเตอร์ เห็นแค่เงาคน พอจะถึงตัวมันก็โดนอะไรไม่รู้ฟาดใส่”
    ภาพฟ้าพยายามปรับโฟกัสสายตา เขาเห็นเคาน์เตอร์ภายในครัวชัดเจนแล้ว และเริ่มเห็นหน้าครามชัดขึ้น ไม่เคยรู้มาก่อนว่าอยู่ใกล้กันขนาดที่สามารถเห็นหน้าเขาเป็นรูปบิดเบี้ยวตามส่วนโค้งนูนในนัยน์ตาสีดำเข้มของอีกฝ่ายได้ และเพราะตกใจอยู่มั้ง ภาพฟ้าบอกตัวเอง เขาถึงได้ยอมให้ครามดูแผลที่หน้าผากอย่างง่ายดาย ตัวเองไม่ได้เจ็บสักหน่อย จะทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ไปทำไมกัน
    “เจ็บมากไหม”
    จู่ๆ ก็ดันหาเสียงตัวเองไม่เจอขึ้นมา ภาพฟ้าส่ายหน้า ก่อนจะเริ่มสังเกตบรรยากาศโดยรอบว่าภายในบ้านหลังนี้ ภายในห้องครัวตอนนี้ไม่ได้มีแค่เขากับครามสองคน เพื่อนอีกสามคนของครามยืนทำตัวเลิ่กลั่กอยู่อีกด้าน ในขณะที่เขากับครามอยู่ในลักษณะที่กึ่งกอดกึ่งพยุงกันอยู่ 
    “ปล่อย”
    ครามทำตามอย่างว่าง่ายเหมือนลูกหมาเชื่องๆ ทว่าสายตายังคงจับจ้องอยู่บนใบหน้าของเขา
    “พ..พวกผมมาส่งมันอ่ะครับพี่หมอ พอดีกดออดหน้าบ้านหลายรอบแล้ว ตอนแรกกะว่าจะกลับกัน แต่ได้ยินเสียงอะไรแตกในบ้านก่อนเลยปีนเข้ามา” ไป๋เป็นคนทำลายบรรยากาศที่เริ่มอึดอัด
    “แล้วเห็นใครวิ่งสวนออกไปบ้างไหม”
    เด็กที่เหลือส่ายหน้ากันเป็นพัลวัน 
    “ฟ้าทำแผลก่อนไหม”
    “ผมอยากไปแจ้งความก่อน” คุณหมอภาพฟ้าพยายามจะพาตัวเองออกไปข้างนอกเพื่อจัดการปัญหาแบบที่เขาคิดว่าควรจะเป็น แต่นนท์เห็นแล้วว่าเพื่อนของเขาทำท่าทำทางเหมือนสาวน้อยใจเหลือเท่านิ้วก้อย น้ำตาคลอจะร้องไห้อยู่รอมร่อเพียงเพราะเห็นใบหน้าหวานๆ ของคุณหมอภาพฟ้ามีแผล “ผมมีพี่ที่รู้จักเป็นตำรวจ จะลองโทรประสานเขาดูนะครับ พี่หมอ...เอ่อ....” เขาชี้นิ้วไปที่หน้าผากตัวเองเป็นเชิงว่า “ทำแผลก่อนเถอะครับ” และเพราะคำพูดแบบนั้นของนนท์ ครามเลยได้ทำหน้าที่เป็นพยาบาลให้คุณหมอได้อย่างเต็มที่เสียที
    “เดี๋ยวผมทำเองดีกว่า”
    “ผมทำให้ ฟ้าจะไปถนัดได้ยังไง”
    “แล้วทำเป็นหรือไง” โดนถามแบบนี้ครามเองก็ไปต่อไม่ถูก เขาไม่เคยทำแผลมาก่อน กับตัวเองตอนที่หกล้มเพราะเล่นสเก็ตบอร์ดหรือขี่มอเตอร์ไซด์ก็ยังไม่เคย ครามปล่อยให้มันหายเองอย่างไม่ได้สนใจไยดีมากนัก ดูจากร่องรอยที่ขาก็รู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่จะใส่ใจในเรื่องที่ตัวเองไม่คิดว่าต้องใส่ใจจริงๆ
    “ไปหาหมอกันไหมฟ้า” เมื่อเห็นว่าตัวเองอาจจะเป็นที่พึ่งได้ไม่ดีพอ ครามเลยเสนอทางเลือกที่ดีกว่า
    “หัวไม่ได้แตกนะ จะไปหาหมอทำไม รีบๆ ทำให้เสร็จเถอะ” ภาพฟ้าตัดบท เขาไม่อยากจะสบสายตาที่มีทั้งความลังเลและความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว
    “เจ็บไหม” แค่แตะสำลีที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยแอลกอฮอล์เช็ดแผล ครามยังไม่กล้าออกแรงเลยด้วยซ้ำ 
    “ไม่เจ็บ แล้วก็เลิกทำหน้าแบบนั้นสักที” 
    “แบบไหน”
    “แบบที่ทำอยู่ตอนนี้ไง”
    “ขอโทษ”
    “ขอโทษทำไม”
    “ก็ฟ้าไม่ชอบ”
    ภาพฟ้าถอนหายใจ เขาไม่พูดอะไรอีกต่อจากนั้น นั่งนิ่งๆ และปล่อยให้คนที่เด็กกว่าทำแผลตัวเองไปเรื่อยๆ ปล่อยให้ครามมองหน้าเขาจนพอใจ ปล่อยให้ครามใช้สายตาแบบที่แสดงออกมาว่าเป็นห่วงอย่างเต็มที่ มองเขาจนพอใจ เหตุผลเดียวก็คือ เพราะเมื่อครามทำมันจนพอใจแล้ว อีกฝ่ายจะได้เลิกทำมันเสียที




    ท้ายที่สุดเรื่องทั้งหมดก็จบลงด้วยการบันทึกรับแจ้งที่สน.บริเวณใกล้เคียง ผู้กองภาคินที่เป็นคนรู้จักของนนท์เข้ามาตรวจสอบก่อนจะมีตำรวจคนอื่นๆ เข้ามาอีกสองสามคน คุณหมอภาพฟ้าให้การณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับร้อยเวรที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ตื่นดีสักเท่าไหร่ ในขณะที่พวกเด็กๆ กำลังนั่งคุยอยู่กับพี่ที่รู้จักของนนท์อยู่ในห้องรับแขก 
    “ตามที่ดูคร่าวๆ มันไม่มีร่องรอยการงัดแงะของคนร้าย แต่ถ้าหมอเขาติดใจ พรุ่งนี้จะส่งพิสูจน์หลักฐานมาตรวจให้อีกที”
    “พี่คิน คืองี้พี่” นนท์มองหน้าครามเป็นเชิงขออนุญาตกับเรื่องที่เขากำลังจะเล่าต่อไปนี้ ครามมองภาพฟ้าที่กำลังยืนกอดอกคุยกับร้อยเวรในครัว เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการล้ำเส้นเกินไปไหม ครามลังเล
    “มีอะไรหรือเปล่า” ภาคินรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ 
    “กูขอคุยกับฟ้าก่อนได้ไหม” ครามบอกนนท์เสียงเบา
    “มันเป็นเรื่องทีไอ้ครามตัดสินใจเองไม่ได้อ่ะพี่ เดี๋ยวขอเวลาตกลงกันก่อนนะ”
    “โอเค” ภาคินไม่ซักไซ้ เขาเป็นประเภทช่างสังเกตและเก็บรายละเอียดโดยไม่ค่อยพูดมากความอยู่แล้ว “เอาไงต่อล่ะคืนนี้ เรากะแฟนจะไปนอนไหนก่อนไหม”
    ครามกระพริบตาปริบๆ ให้กับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน เขาชี้นิ้วมาที่ตัวเองสลับกับคุณหมอภาพฟ้าท่ามกลางสีหน้ากลั้นขำของพวกเพื่อนๆ ที่เหลือ ภาคินเพิ่งตระหนักได้ตอนนั้นว่าอาจมีบางอย่างผิดพลาดไปกับประโยคก่อนหน้านี้ 
    “ม..ไม่ใช่แฟนหรอกครับ” ปฏิเสธได้ไม่เต็มเสียงนัก ทั้งๆที่ควรจะพูดออกไปอย่างหนักแน่นเพื่อปกป้องภาพฟ้าแท้ๆ ครามไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเขาตอบอ้อมแอ้มแบบนั้นไปได้ไง
    “นอนที่นี่ได้ไหมครับ” เขาถาม พยายามไม่ทำให้บรรยากาศมันประดักประเดิดมากจนเกินไป
    “ได้ แค่อย่าหยิบจับอะไรมากก็พอ เผื่อมีลายนิ้วมือหรือพวกดีเอ็นเอของคนร้ายตกหล่นอยู่ตรงไหน” ภาคินแนะนำ
    “กูว่าไปนอนที่คอนโดมึงดีกว่ามั๊ย” เฟรมเสนอ
    “ฟ้าไม่รู้ว่ากูมีคอนโด”
    “เอ้า ทำไมอ่ะ”
    “ถ้าเขารู้ว่ากูมีที่ไป กูจะยังได้อยู่ที่นี่ต่ออีกไหมล่ะ คิดสิคิด”
    “เขาไม่รู้ด้วยสินะว่ามึงไม่ได้ทำงานพาร์ทไทม์งกๆ เพื่อส่งตัวเองเรียน” น้ำเสียงของไป๋เริ่มทวีคูณความหมันไส่ขึ้นเรื่อยๆ
    “ไม่รู้ด้วยสินะว่ามึงถือหุ้นอยู่กี่ใบ เล่นเทรดเซียนขนาดไหน”
    ครามถลึงตาใส่นนท์เพราะคุณหมอภาพฟ้ากำลังเดินมาทางนี้ คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่นั่งลงบนพื้นที่ว่างที่ถูกจับจองไว้ข้างครามพอดิบพอดี ภาคินขอตัวไปคุยรายละเอียดกับร้อยเวรอีกนิดหน่อย เฟรมเลยได้จังหวะ “พี่หมอครับ ผมว่าคืนนี้ไปนอนทีอื่นก่อนดีกว่าไหม รอให้เขามาเก็บหลักฐานก่อนดีกว่านะครับ”
    “พี่ยัง...”
    “บ้านผมมีคอนโดอยู่ที่หนึ่ง ซื้อไว้ปล่อยเช่าแต่ตอนนี้ไม่มีคนเช่า เลยว่าจะให้พี่หมอกับไอ้ครามไปนอนก่อน” เฟรมพยายามโน้มน้าว
    “ไม่เป็นไรหรอกครับน้องเฟรม พี่ว่านอนที่นี่ก็ได้นะ พี่ไม่อยากรบกวนเรา อีกอย่างตอนที่คุยกับตำรวจ เขาก็บอกว่ามันไม่น่าจะย้อนกลับมาอีก”
    “แต่นั่นก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐานนะครับ” ไป๋แย้ง
    “ เชื่อพวกผมนะพี่ เพื่อความปลอดภัยของทั้งตัวพี่เองกับเพื่อนผม พวกผมเป็นห่วงจริงๆ”
    ภาพฟ้านิ่งไปสักพักอย่างพยายามคิดใคร่ครวญ “นะครับพี่หมอ” ท้ายที่สุดเขาก็พ่ายแพ้ให้กับลูกตื๊อของพวกเด็กๆ “โอเคครับ งั้นพี่ขอรบกวนคืนนึงนะ”




    ขากลับหลังจากที่นนท์ส่งคุณหมอภาพฟ้าและครามที่คอนโดของครามเอง (ที่ก่อนหน้านี้เฟรมอ้างว่าเป็นคอนโดของที่บ้าน) ความสงสัยใคร่รู้ของไป๋ก็ได้ทำลายความเงียบในเวลาตีสามครึ่ง
    “ดูเหมือนมึงจะไม่ค่อยชอบพี่หมอไม่ใช่หรอวะเฟรม ทำไมวันนี้เชียร์เขากับไอ้ครามนัก”
    เฟรมที่นั่งเบาะด้านข้างคนขับหันหน้ามามองไป๋ที่ยื่นหน้ามาจากด้านหลังก่อนจะทิ้งสายตามองไปบนถนนทอดยาวด้านหน้า “ที่ว่าไม่มีอะไรคืบหน้า กูอาจจะคิดผิดก็ได้ว่ะ”
    “ช๊อตนั้นใช่ป้ะ” นนท์ที่กำลังขับรถเอ่ยถาม เฟรมพยักหน้า ส่วนคนที่พลาดช๊อตที่ว่าอย่างไป๋ได้แต่ทำหน้างง
    “โดยปกติกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้า เขาคงไม่ยกมือขึ้นลูบหัวอีกฝ่าย แล้วบอกว่าอย่าคิดมาก แผลแค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก แถมไอ้ครามยังจับมือเขาออก แนบแก้มมันลงไปบนฝ่ามือเขาพูดงุ้งงิ้งอะไรใส่ จูบฝ่ามือเขาอีก ที่สำคัญพี่หมอก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้มันทำตามใจอยู่แบบนั้น เป็นมึง มึงจะคิดไงล่ะ” เฟรมนึกย้อนเหตุการณ์ก่อนหน้าที่พวกตำรวจจะมา และพวกเขาปล่อยให้ทั้งสองคนนั่งทำแผลกันไปอย่างไม่อยากรบกวนช่วงเวลาที่คาดว่าอาจจะเป็นช่วงเวลาอันแสนมีค่าของไอ้คราม แต่เพราะเขาหิวน้ำกันมากจริงๆ และมันมีความจำเป็นที่จะต้องเดินผ่านช่วงโซฟาที่ทั้งสองคนนั่งทำแผลให้กันอยู่ เฟรมถึงกับช็อคในสิ่งที่เขาเห็น ส่วนคนที่เดินตามมากะจะช่วยถือแก้วกับขวดน้ำอย่างนนท์ ทำหน้าเหมือนจะเป็นลมล้มพับเสียให้ได้
    “กูช๊อค” ไป๋บอกเสียงยานคาง
    “พวกกูก็เหมือนกัน” ทั้งเฟรมและนนท์แทบจะพูดเป็นเสียงเดียวกัน





    “เคยมาหรอ”
    “ครับ?” ครามวางพวกเครื่องนอนลงข้างเตียงก่อนจะหันไปหาต้นเสียงที่ยืนพิงประตูมองกันอยู่
    “เห็นหยิบจับอะไรในนี้คล่องไปหมด ทั้งที่บอกว่าไม่เคยมา”
    “ก็...เดาๆ เอาอ่ะครับ” ตอบไปพลางภาวนาให้แสงสลัวภายในห้องไม่ได้ทำให้อาการเหงื่อตกของเขามองเห็นได้ง่ายจนเกินไปนัก “คอนโดมันก็..เหมือนๆ กันนี่” ฉีกยิ้มให้คนอายุมากกว่าไปหนึ่งที
    “ไปอาบน้ำซะ”
    คุณหมอภาพฟ้าแย่งหมอนจากมือเขาไปกอดไว้ “เหม็นเหล้า” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจ 
    “เดี๋ยวผมไปนอนข้างนอกก็ได้”
    “อยากไปหรอ”
    คำถามวัดความเป็นเด็กดีอีกแล้ว
    “ไม่อยากครับ อยากนอนกับฟ้า”
    เห้ เก็บหางนายหน่อยจะได้ไหม ครามอยากจะตะโกนบอกตัวเองใจจะขาด แต่ก็ต้องพยายามเก็บอาการทั้งหมดไว้
    “งั้นก็รีบไปอาบน้ำ”
    สิ้นคำ ครามแทบจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำและออกมาภายในเวลาไม่ถึงห้านาที หนึ่ง เพราะเขากลัวคุณหมอภาพฟ้าจะชิงหลับไปเสียก่อน สอง เพราะเขากลัวว่าถ้าอาบนานกว่านั้น บรรยากาศที่กำลังจะดีขึ้นระหว่างพวกเขาอาจจะจางหายไป และสาม เพราะเขากลัวว่าคุณหมอภาพฟ้าจะเปลี่ยนใจ ครามแทบจะสะดุดพรหมเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำเมื่อออกมาและเห็นว่าคนโตกว่ากำลังนั่งรอเขา รอจริงๆ แบบที่เขาไม่ได้คิดไปเอง มันชัดเจนในสายตาของภาพฟ้า 
    “มานี่สิ”
    น้ำเสียงนุ่มนวลเปล่งออกมาอย่างราบเรียบ สวนทางกับจังหวะกลองในใจของคราม เขาไม่เคยเห็นภาพฟ้าโหมดนี้มาก่อน ไม่แปลกที่จะดีใจ ภาพฟ้าโหมดที่ไม่ใจร้ายกับเขาทำครามใจเต้นเป็นลิงโลดได้เสมอ
    “ไม่เห็นจะต้องนั่งตัวเกร็งขนาดนี้เลย”
    จะไม่ให้เกร็งได้ยังไงล่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครมานั่งเช็ดผมให้แบบนี้เลยนะ ครามอดที่จะยกมือเกาแก้มแก้เก้อไม่ได้ เขาเสมองไปนอกระเบียง ค่อยๆ พรูลมหายใจออกช้าๆ ราวกับว่าไม่ต้องการให้ภาพฟ้าเห็นท่าทางของเขา ท่าทางที่มันโคตรจะเด็ก
    “ขอโทษนะ”
    ไม่ใช่ผ้าขนหนูที่เช็ดผมเขาอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นฝ่ามือเรียวของคนที่นั่งซ้อนหลังกันอยู่ ค่อยๆ สางเส้นผมที่พันกันยุ่งเหยิงของเขา 
    “ขอโทษที่เอาแต่โทษคราม ทั้งๆ ที่ตัวผมเองไม่มีหลักฐานอะไรเลย”
    ฝ่ามือของคุณหมอภาพฟ้าที่สางผมเด็กผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ถูกมือของอีกฝ่ายคว้าไปกุมเอาไว้ ครามหันหน้ามามองเขา ไม่ได้ระวังผ้าเช็ดตัวผืนที่คาดเอวอยู่มากนัก ใบหน้าคมคายกับผมที่แห้งหมาดๆ กับสร้อยคอสีเงินเรียบๆ ธรรมดาที่สะท้อนแสงไฟสลัวๆ ภายในห้อง
    “เราจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันเป็นใครและต้องการอะไร วันนี้ฟ้าเจ็บตัว แล้ววันข้างหน้าฟ้าจะต้องเจอกับอะไรขนาดไหน” ความกังวลฉายชัดในนัยน์ตาสีดำสนิทที่สะท้อนใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเขา “ ถ้าไม่รีบหยุดเรื่องนี้ ผมต้องเป็นบ้าแน่ๆ”
    “ไม่มีใครเป็นบ้าเพราะปัญหาของคนอื่นหรอก”
    “ผมเป็นคนอื่นสำหรับฟ้าก็จริง แต่ฟ้าไม่ใช่คนอื่นสำหรับผมนะ”
    ภาพฟ้าไม่ชินกับคำพูดที่ตรงไปตรงมาของเด็กตรงหน้าเลยสักนิด
    “จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็เคยได้รับมาแล้ว” สิ้นประโยคของเขา เด็กขี้เป็นห่วงตรงหน้าก็แทบจะหันมานั่งขัดสมาธิประจันหน้ากันตรงๆ เลยทีเดียว
    “ตอนแรกผมคิดว่าอาจจะมีใครแกล้งเล่นๆ หรือไม่ก็คุณที่พยายามจะแกล้งกวนประสาท เลยไม่ได้ใส่ใจ มันถูกส่งมาเรื่อยๆ และผมเองก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่อยๆ จนกระทั่งที่มันมีรูปที่เหมือนยืนถ่ายจากในห้องนอนของผม ซึ่งผมคิดว่านี่มันล้ำเส้นเกินไปแล้ว มัน..ก็ต้องสงสัยคนในบ้านไว้ก่อนเพราะว่าเขามีสิทธิ์เข้าออกบ้านได้ตามใจชอบ ผมเลยตัดสินว่าเป็นคุณด้วยอารมณ์และความคิดส่วนตัว”
    “ปกติส่งมาแบบไหน”
    “ก็กล่องพัสดุบ้าง เอามาวางไว้บนโต๊ะทำงานเฉยๆ บ้าง เสียบอยู่ที่กระจกหน้ารถบ้าง ส่วนใหญ่เป็นรูปแอบถ่าย ถ่ายตอนผมอยู่ข้างนอก บนรถ หลังๆ มาเริ่มถ่ายจากนอกบ้าน จนกระทั่งในบ้าน”
    “จริงๆ ฟ้าคิดว่าเป็นผมมาตลอดใช่มั๊ย”
    คนโตกว่าเม้มริมฝีปากเข้าหากัน และครามรู้สึกว่าท่าทางแบบนั้นมันช่างน่ารักเสียเหลือเกิน 
    “ขอโทษนะ”


    โห...
    ใจมันย้วยไปเลยว่ะ…


    เขาแทบจะหุบยิ้มไว้ไม่ไหว เหมือนความใจร้ายที่เคยเจอมาก่อนหน้านี้เป็นเพียงภาพจำลองที่ไม่มีอยู่จริง 
    “วันนี้ฟ้าขอโทษผมมาหลายครั้งแล้ว”
    “อืม อยากให้รับรู้ไว้จริงๆ”
    นัยน์ตาเป็นประกายสั่นระริกของคราม เป็นคำตอบให้กับภาพฟ้าอย่างชัดเจน เขาทนสายตาที่มองมาไม่ไหวเลยไล่คนเด็กกว่าไปแต่งตัวให้เรียบร้อย เพื่อที่เราจะได้ชัทดาวน์ตัวเองและเริ่มต้นวันใหม่ที่จะมาถึงที่สน. เริ่มจัดการสงครามประสาทที่เขาละเลยอย่างจริงๆ จังๆ เสียที



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in