เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Ode to BTSjahgi
ตกผลึกอัลบั้ม Map of the Soul: 7
  • การเดินทางภายในจิตใจ เฉกเช่นเดียวกับการเดินทางไปยังที่แห่งใหม่ ระหว่างทางเราต่างได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น





    อัลบั้มใหม่บังทัน "Map of the Soul: 7" ก็ได้ปล่อยมาให้ได้ชมกันแล้วเมื่อวานนี้
    (21 กพ 63)  หลังจากฟังทั้งอัลบั้ม ดูเอ็มวี อ่านเนื้อเพลงแล้วก็เลยอยากพูดถึงอัลบั้มนี้ในมุมมองของเราค่ะ จะสรุปสิ่งที่คิด และความรู้สึกที่มีต่ออัลบั้มนี้เอาไว้  (ตอนแรกพิมพ์ในทวิต แต่พิมพ์ในนี้น่าจะกลับมาอ่านง่ายกว่า55555)


    Map of the Soul ?

    ส่วนตัวแล้วชอบ era นี้มาก พอ ๆ กับ hyyh เลย ชื่ออัลบั้ม "Map of the Soul" มาจากหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีจิตวิทยามนุษย์ที่คุณ Carl Jung เขาคิดขึ้นมา เรียบเรียงใหม่โดยคุณ Murray Stein 
    พอหยิบมาเป็นแมททีเรียลอิงกับคอนเซป "Identity Crisis ในฐานะไอดอลของบังทัน" แล้วคือทำให้คอนเซปมันปังมากกกกก 55555 ยิ่งตอน persona ออก ก็กำลังเรียนอะไรประมาณนี้พอดี อินมาก

    คำสำคัญ ๆ ก็จะมี Persona, Ego, Shadow
    อ้างอิงตาม Jung คือ จิตใจคนเรามันมีด้านที่เรารับรู้ (conscious) กับไม่รับรู้ (unconscious)
    Persona กับ Ego คือด้านที่เรารับรู้ได้ค่ะ ส่วน Shadow คือส่วนที่อยู่ในจิตใต้สำนึก พยายามปฏิเสธมันไรงี้
    ตอนเด็กเราจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ego ขึ้นมา อาจจะเกิดจากการเรียนรู้ สภาพแวดล้อม ปลูกฝังเรา ทำให้เราต้องกด shadow บางอย่างไว้  แล้วก็สร้าง persona ให้คนอื่นเห็น (และยอมรับเรา)

    แล้วทีนี้จิตใจเราก็เข้าสู่กระบวนการพยายามตามหาความเป็นหนึ่งเดียว เหมือนแบบค้นหาตัวเอง หา identity ตัวเองซะหน่อย
    โดยเป็นการเดินทางเข้าไปใน inner world  ซึ่งขั้นตอนแรกก็จะเจอ shadow (ส่วนที่กดไว้โดย ego) ค่ะ

    คำว่า map มันก็แผนที่เนอะ เหมือนเวลาเดินทางไปไหน เราก็จะมีแผนที่ไม่ให้หลงทาง "แผนที่"ของใจก็เหมือนโชว์ให้เห็นความซับซ้อนของใจเรา ที่ช่วยให้เราไม่รู้สึก Lost อะไรประมาณนั้น555555


    SEVEN (7)


    มาค่ะ บั้มล่าสุด "7" ก็คือความเป็นบังทันนั่นเอง ไอดอล7คน ที่ผ่านชีวิตไอดอลมา7 ปี จิตใจของคน 7 คน สตอรี่ที่สะท้อนผ่านโซโล่7เพลง เรียกได้ว่ามีความหมายมาก แง เป็นอัลบั้มที่บังทันได้อยู่กับตัวเอง มองย้อนไปที่ตัวเอง และครุ่นคิดกับ "ความเป็นตัวเอง" ตลอดระยะเวลาที่ได้มาเข้ามาเป็นไอดอล
    เพิ่มเติมคือนอกจากเดินทางย้อนเข้ามาในจิตใจแล้ว เพลงก็ยังรีเวิร์สกลับไปเพลงแรก ๆ ของตัวเองด้วย Boy with Luv / Boy in Luv   ON/ N.O  หรือเอาบีทเพลงเก่า ๆ มาปรับใหม่ )

    ดูการจัดเรียงเพลงในบั้ม(ที่ผ่านการคิดมาแล้ว ไม่ใช่แรนด้อมวางขำๆ) ก็คือเข้ากับคอนเซป และทฤษฎีของ Jung

    สำหรับบังทันก็คือ เริ่มมองเห็นจากภายนอก "Intro: Persona" ก็คือด้านที่เขาแสดงออกให้เราเห็น ด้านที่เป็นไอดอล มันก็จะค่อนข้าง positive เพลงก็จะเป็นเพลงออกแนวให้แฟน ๆ  แล้วค่อยเดินทางเข้าไปข้างในไปเจอ shadow ทีนี้เราก็เริ่มเห็นอะไรที่มันดาร์คขึ้น เห็นความกลัว ความเจ็บปวด ที่ยิ่งเป็นไอดอลยิ่งต้องเก็บซ่อน แล้วก็มาถึง bulletproof the eternal ที่บอกว่ายังไงเราก็คือบังทัน (bulletproof) และจะเป็นตลอดไป;-; ปิดท้ายด้วย ego (ส่วนแห่งการรับรู้) รวมๆแล้วมันเหมือน process ของการเรียนรู้ตัวเอง เราเริ่มมองเห็นด้านมืดจริง มันมีอยู่จริง และเป็นส่วนนึงของเรานะ แต่ก็โอเค เราก็ยังเชื่อมันในสิ่งที่ตัวเองเป็น สิ่งที่ตัวเองเลือก เลยเป็นเหมือนการเดินทางข้างในใจที่จะทำให้เราเข้าใจอะไรมากขึ้น 

    สังเกตว่า ON อยู่ตรงกลาง ๆ เพลย์ลิสต์เลย เหมือนเป็น Self ที่เขาบอกว่าจะเป็นเหมือนนิวเคลียสของแผนผังจิตใจ 


    First Listen & First look at the lyrics

    เริ่มที่ไตเติ้ล ส่วนตัวชอบไตเติ้ลนี้นะ ON  มันเหมาะเป็นไตเติ้ลแล้วแหละ ถ้าดูทำนอง เนื้อเพลง ตรงคอนเซป 7 กว่า  ฟังครั้งแรกก็ชอบเลยนะ แง (แล้วจริง ๆ ก็เป็นคนชอบเพลงเยอะๆ หนักๆ อยู่แล้ว ) เอเนอจี้ไม่ต้องพูดถึง ถ้าเป็นไลฟ์เพิร์ฟต้องปังมากแน่ ๆ

    Interlude: Shadow ก็ชอบ ฟังครั้งแรกอ่านเนื้อเพลงแล้วใจเจ็บมาก แต่ก็ดีที่พูดสิ่งที่รู้สึกออกมาให้เห็น ;-; กอดๆๆ

    Black swan สารภาพว่าฟังแรก ๆ ยังเฉย ๆ ต้องอ่านเนื้อเพลง แล้วฟังไปเรื่อย ๆ ก็คือกลายเป็นอิน!!! เหมาะกับเป็นเพลงที่พูดถึง shadow มากค่ะ (เลยน่าจะไม่ได้มาเป็นไตเติ้ล) แบบ "no song affects me anymore" อะ เนื้อเพลงเศร้ามากเลยนะ ยิ่งกับคนที่เป็นศิลปิน หมดแพชชันกับสิ่งนี้คงน่ากลัวที่สุด และเป็น first death จริง ๆ

    Filter ป๊าดมาก อยากเป็นลม จีมินคือ เล่นหูเล่นตามาก ๆ กลิ่นอายแบบละตินยั่ว ๆ  แต่ยังคงคอนเซป ID อยากให้ชั้นเป็นแบบไหนชั้นก็จะเป็นให้ ก็เข้ากับพิป้ากเลยค่ะ

    My time เหมาะกับจองกุกมาก ๆๆ เคยคิดเสมอว่าน้องเหมือนเป็นเด็กละก็โตเลย ไม่ได้ผ่านการใช้ชีวิตแบบคนอื่น ฟังได้เรื่อย

    Louder than bombs ดีย์ คาดหวังตั้งแต่รู้ว่านุ้งทรอยมีส่วนร่วม พอได้ฟังจริงก็คือไม่ผิดหวัง เพลงเศร้าแบบที่ชอบ  ชอบการเล่น Louder than bombs, i break / Louder than bombs, I say/ Louder than bombs, I sing เหมือนในกลอน555 ฟังละอยากกอดเทอเหลือเกิน

    Ugh! อุ้กกกกกกก แงง ปังมาก อีกเพลงที่คาดหวังไว้ แร็ปไลน์ไม่ทำให้ผอดหวังจริง ๆ ค่ะ แล้วเป็นการแร็ปดิสแบบชั้นสูงอีกแล้ว เห็นเลยว่าโตขึ้นจริง ๆ นะ ชอบที่เป็นการด่าพวกเฮทเตอร์ที่สร้างเฮทสปีชผ่านคำพูด (นังชาวเน็ตตัวร้าย) แล้วตอนจบเป็นเสียงปืน เปรียบเหมือนคำพูดคนอะเนาะ

    Zero o'clock หวานปนขมมากๆ แต่จริง ๆ เป็นทุกเพลงนะ มันเศร้าแต่มันจะมีแสงความหวัง555555 หลายคนน่าจะอินได้ เนื้อเพลง relatable แต่ไม่คิดเลยว่าน้องจะคิดงี้ด้วย ;-; ใครๆก็รู้สึกลอสได้จริงๆนะ ถึงชีวิตจะดูเริ่ดแค่ไหน ตอนแรกสงสัยว่าทำไมใช้ zero ซึ่ง ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ 555555

    Inner child มู้ดเพลงเริ่มมาสดใสแล้ว อันนี้ก็คือความเจ้าแท เจ้าแทจริง ๆ ชอบที่เป็นการคุยกับตัวเองตอนเด็ก ชื่อเพลงก็คือส่วนนึงในจิตใจของเราที่ยังเป็นเด็ก เหมือนเราได้พูดคุยกับส่วนนั้น

    Friends น่ะหรอคะ อยากจะร้องไห้ 95z ไอคู่หู ความน่ารักเต็มไปหมด เห็นมิตรภาพไม่ใช่แค่ในฐานะวงเดียวกัน แต่คือแบบ เพื่อน เลยจริง ๆ ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะเนาะ 

    Moon เหมาะกับพี่จินนนนน แงงง เปรียบแฟนคลับเป็น โลก แต่อยากพูดว่า "the world doesn't deserve you" เลยนะเอาจริง คนดี

    Respect ยอมรับเลยว่าจับคู่ยูนิตลงตัวมาก นี่ก็อีกคู่ที่อยุด้วยกันมานาน ชอบเนื้อเพลง แบบ เล่นกับคำว่า respect ได้เยอะมาก เป็นแร็ปสนุก ๆ ฟังเพลิน

    We are bulletproof: the eternal ผิดคาด ตอนแรกก็เตรียมโยกละ แต่มาเป็นเพลงช้า แต่ก็คือ น้ามตาาาค่า ตั้งแต่ตอนเดบิวต์ที่บอกว่าจะเป็นเกาะกันกระสุนให้กับวัยรุ่นที่ต้องเจอการกดขี่ เปรี้ยวซ่าเหลือเกิน ชั้นไม่กลัวหรอกนะ พวกชั้นน่ะบูลเลทพรูฟ ตอนนี้ก็คือยังเป็นเกราะให้อยู่นะ ก้าวข้ามหลาย ๆ อย่างมาได้แล้วด้วยล่ะ ;-;

    Outro: Ego จบแบบสดใสสสส 55555555 ก็คือเหมาะกับคุณความหวังจริง วันที่ปล่อยแบบมีเอ็มวีก็ชอบ ดีเทลเยอะดี ชอบที่มีการขับรถ ดูป้ายบอกทาง เหมือนเป็น "การเดินทาง"  เล่นกับอันนี้อีกแล้ว 
    เนื้อเพลงก็นั่นแหละสุดท้ายก็คือชั้นจะเป็นช้าน และมั่นใจในสิ่งที่ชั้นเลือก!

    แต่ละเพลงก็จะเห็นการบอกเล่าคอนเซป ความเป็นตัวเอง ของแต่ละคน ที่ผ่านการเดินทางมาด้วยกัน 7 ปี แต่ก็ไม่ใช่แค่จากภายนอก ยังมีการทำความเข้าใจตัวเองที่อยู่ภายในด้วย
    ถึงบั้มนี้จะเจาะจงว่าเป็นการพูดถึงความเป็นบังทัน แต่จริง ๆ เราก็ยังรีเลทได้อยู่นะ อย่าลืมไปฟังกันเยอะ ๆ ค่ะ โปรโมท!!!!

    แล้วก็มาแลกเปลี่ยนความเห็นและความรู้สึกกันได้เลยนะคะ ชอบเพลงไหนที่สุด บลา ๆๆๆ
    + ข้อมูลถ้าผิดพลาดต้องขออภัยด้วยค่ะ 5555




    -----
    อ้างอิง
    http://journalpsyche.org/jungian-model-psyche/
    https://scottjeffrey.com/individuation-process/
    https://highexistence.com/carl-jung-shadow-guide-unconscious/


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
vxl_o (@vxl_o)
ขอบคุณที่สรุปข้อมูลให้นะคะ?