รู้ใช่ปะว่าในแต่ละวันท้องฟ้าจะไม่เหมือนกันเลย

วันนี้มีสีฟ้าสบายตา ไม่มีเมฆมาปกคลุมให้ดูรกสมอง
เมื่อวานอาจดูหม่นหมอง เพราะมืดครึ้มคล้ายฝนจะตก
และพรุ่งนี้อาจจะดูสดใส เนื่องจากมีแสงอาทิตย์มาเป็นจิตรกรระบายสีส้มอ่อนๆให้ดูสวยพอเป็นพิธี

แต่เราว่าความสวยหรือไม่สวยของท้องฟ้าในแต่ละวัน มันขึ้นอยู่กับอารมณ์ ความรู้สึกของคนเรามากกว่า

ถ้าเรามีความสุข ท้องฟ้าวันนั้นก็จะสวยเป็นพิเศษ แม้ว่าจะมืดฝนพายุจะถล่มก็ตาม

แต่..

ถ้าวันไหนมีความทุกข์ ท้องฟ้าก็จะกลายเป็นสีดำไปทันที ต่อให้วันนัั้นมันมีสีพาสเทลระบายอยู่ทั่วท้องฟ้าไปหมด

ดังนั้น

หากใครกำลังมีความทุกข์ พบเจอปัญหาโลกแตกที่ยังหาทางแก้ไม่ได้ มองทางไหนก็ไม่เห็นทางออก(อาจจะเห็นแต่ทางเข้า)

เราอยากให้คุณลองพักสายตา(รวมถึงสมอง) ไปนั่งมองท้องฟ้าดูสักพักนะ ลองจ้องมันดูดีๆ ปล่อยสมองให้ว่างเปล่า ไล่ความคิดให้ไหลผ่านไปเรื่อยๆเหมือนที่เมฆเคลื่อนผ่านภูเขาอย่างเอื่อยช้า

ปล่อยปัญหาให้มันหยุดนิ่งสักพัก
ปล่อยให้เรื่องที่ต้องคิดหยุดค้างสะงัด ไม่ต้องเคลื่อนไหวในสมอง
ปล่อยให้มันเคลื่อนผ่านเลยไปเหมือนที่มวลหมู่เมฆบางแทรกผ่านภูเขายักษ์

เราไม่ได้บอกให้คุณทิ้งปัญหาแล้วหนีไป หรือปล่อยทิ้งให้หายไปเอง
แต่เราอยากให้คุณหยุดคิดถึงมันสักพัก ปล่อยวางให้มันอยู่ตรงนั้นไปก่อน
แล้วคุณจะพบว่าบางทีพอเราถอยห่างออกมา เราอาจจะเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่าเราควรแก้ปัญหามันตรงจุดใด จุดเริ่มต้นของปมมันอยู่ตรงไหน แล้วจะใช้วิธีใดในการแก้ปัญหา

มันก็เหมือนกับท้องฟ้าในแต่ละวันที่คุณเห็นนั้นแหละ
วันนี้อาจจะมีพายุซัดกระหน่ำ ฝนตกทั้งวัน มืดดำทั้งคืน ไม่มีแสงของดวงดาวดวงใดให้ลอดผ่านโชว์อวดความงามได้

แต่จงอย่าเพิ่งหมดหวัง แล้วรีบบอกว่าท้องฟ้าแม่งโครตหดหู่และน่ากลัวอย่างนั้น
ลองรอดูมันอีกพัก ให้เวลามันอีกสักหน่อย เพราะไม่นานฝนก็หยุดตก พายุหมดกำลังอ่อน ดวงอาทิตย์ค่อยๆเคลือบคลานเผยแสงแดดวันใหม่เพื่อไล่ความมืดให้กลับบ้าน
แล้วไม่นานท้องฟ้าสีครามที่งดงามจะกลับมาเยือนเหมือนเดิม

จงยืนดูท้องฟ้าในแต่ละวันให้ดี
วันนี้อาจจะคิดว่าสวยที่สุดแล้ว พรุ่งนี้อาจจะสวยมากกว่าวันนี้ก็ได้นะ
อย่าเพิ่งด่วนตัดสินอะไรเร็วเกินไป เพียงเพราะเราไม่เคยเห็นมาก่อน
เพราะพรุ่งนี้ท้องฟ้าอาจจะกลายเป็นสีชมพูก็ได้...ใครจะไปรู้ :)

สู้ๆ

๒๖ ก.พ. ๖๑