เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ห้องหนังมืดFon Kansiri
Train to Busan, Dawn of the dead ความตาย การคืนชีพ และ วันพิพากษา
  • หากพูดถึงหนังซอมบี้ก็ต้องพูด จอร์จ เอ โรเมโร ผู้บุกเบิกและสร้างหนังซอมบี้ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคืนสยองในป่าช้า nightof the living dead ปี 1968, โดนซอมบี้ล้อมห้างdawn of the dead ปี 1978, ฝึกซอมบี้ในห้องแล็ป day of the dead ปี 1985 ฯลฯ หนังของเขา เกิดเป็นกระแส ขนาดส่งผลต่อ มิวสิควิดีโอทริลเลอร์ ของ ไมเคิล แจ๊คสัน เป็นแรงบันดาลใจและรากฐานในแก่หนังซอมบี้ในยุคต่อๆมาจนจอร์จ ได้ฉายา “Grand father of the Zombie”


    ซอมบี้คือ “สิ่งที่ฟื้นจากความตาย” ปรากฏตัวในหลายวัฒนธรรม ร่างที่ไร้วิญญาณฝืนธรรมชาติมีแต่สสารเดินเลื่อนลอยทำร้ายผู้คนจนดูเหมือนการมีอยู่ของซอมบี้เป็นการท้าทายต่อพระเจ้า เหมือนสังคมสมัยใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์เศรษฐกิจ จนหลงลืมซึ่งวิญญาณเนื้อแท้ของมนุษย์ ซอมบี้จึงเป็นเหมือนคำเตือน เป็นความวิตกกังวลของสังคมเป็นการเมือง เป็นภัยธรรมชาติ เป็นภาพแทนของความอมตะ แต่กลวงเปล่าภายใน ที่คนทำหนังใช้สื่อแก่คนดู

    Dawn of the dead ปี 2004 ฉบับรีเมคจากปี 1978 กำกับโดยแซ็ก สไนเดอร์ เล่าเรื่องของ    เอน่า (ซาร่า พอลลี) พยาบาลผู้มีชีวิตสงบสุข แต่วันรุ่งขึ้นเธอกลับตื่นมาพบฝันร้ายเหนือจริงเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่เปลี่ยนคนกลายเป็นซอมบี้เธอสูญเสียแฟนความสงบในชีวิตและทุกอย่างที่สร้างขึ้นต้องหนีตายจากศพกระหายเลือดเข้าไปในห้างสรรพสินค้าย่านชานเมือง ที่นั่นเธอได้พบกับผู้ร่วมชะตากรรมทั้งนายตำรวจ หญิงตั้งครรภ์ พนักงานขายของ หนุ่มเสเพลเกิดเป็นการต่อสู้เอาชีวิตรอดทั้งจากซอมบี้และมนุษย์ด้วยกันเอง โดยเรื่องนี้ซอมบี้พัฒนารูปแบบการไล่ล่าจากภัยที่ค่อยๆคุกคามเป็นการวิ่งจู่โจมเป้าหมายอย่างรวดเร็ว

    Dawn of the dead ของสไนเดอร์ และ Dawn of the dead ของโรเมโร มีการเล่าฉากตัวละครติดอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่ภายในมีข้าวของเครื่องใช้ ล่อตาล่อใจมากมาย ทำให้ตัวละครลืมสถานการณ์ภัยพิบัติภายนอกแล้วเพลินเพลินกับของสิ่งของในห้าง จนไม่ได้เตรียมตัวรับมือซอมบี้ที่บุกเข้ามาสะท้อนจิกกัดสังคมวัตถุนิยมได้อย่างเจ็บแสบ

    ยังมีการตีความซอมบี้อีกมุมในภาพยนตร์ Train to Busan เล่าถึง ชายหนุ่ม ซอซอกวู (กง-ยู)ผู้จัดการกองทุนที่ทำงานโดยไม่คิดถึงส่วนรวมไม่มีแม้แต่เวลาให้ครอบครัว วันหนึ่งเขาพาลูกสาว ซูอา (คิม ซูอัน)นั่งรถไฟจาก โซลไปปูซาน เพื่อไปหาอดีตภรรยา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เชื้อโรคประหลาดแพร่ไปทั่วเมืองเปลี่ยนแต่ละคนเป็นซอมบี้กระหายเลือด แล้วการติดเชื้อก็เริ่มในรถไฟขบวนนี้เช่นกันซอซอกวูและลูกสาว ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด และเดินทางให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย


    หากใครเคยอ่าน ตำนานวันสิ้นโลก ในคัมภีร์ศาสนาคริสต์ Train to busan อาจเป็นภาพซ้อนชั้นเยี่ยมในรูปแบบของซอมบี้โลกาวินาศ(Zombie apocalypse)
    ตามตำนาน เมื่อถึงวันพิพากษาหรือวันสิ้นโลก พระเจ้าจะปลดปล่อย 4 จตุอาชาลงมาทีละคน โดย จตุราชาคนแรกขี่ม้าสีขาว นามว่า โรคระบาด นำพาการติดเชื้อ การแพร่กระจายความเจ็บปวดป่วยไข้ มาสู่มนุษย์ (คือ เชื้อซอมบี้ในหนัง ซอมบี้ตัวแรกในรถกัดคนแพร่เชื้อไปเรื่อยๆ จากตู้รถไฟหนึ่งไปอีกตู้หนึ่ง) เมื่อมนุษย์ไม่สามารถทนทานได้ จตุอาชาคนที่ 2 คือ สงคราม ผู้ขี่ม้าสีแดงจะปรากฏตัวขึ้น บีบคั้นมนุษย์ที่ทุกข์ทรมานให้แก่งแย่ง เข่นฆ่า ขัดแย้งกันเอง (เกิดการทะเลาะเบาะแว้งในหมู่คนที่รอดจากการติดเชื้อ ขับไล่คนที่ถูกสงสัยว่าติดเชื้อออกจากลุ่ม) เมื่อสงครามเกิดขึ้นทุกแห่งหน จตุอาชาคนที่3 นามว่า ความอดยาก จะขี่ม้าสีดำ นำความแร้นแค้น ขาดแคลนมาทุกย่อมหญ้า (ภายในเมือง ไร้ปัจจัยสี่ บ้านเมืองถูกทำลาย)และจบลงด้วยจตุอาชาผู้ขี่ม้าสีหม่นคนสุดท้าย คือความตาย (เมื่อไม่รอดพ้นจากซอมบี้ บางคนโดนรุมกัดกิน บางคนติดเชื้อเสียชีวิตแล้วกลายเป็นศพเดินได้ รอวันเน่าเปื่อยถูกทำลาย)
           Train to Busan ใช้ซอมบี้สื่อถึงจุดจบของโลกและหายนะครั้งใหญ่ได้อย่างมีศิลปะ ในฐานะผู้ชมเราได้เห็นสิ่งที่ตัวละครเอกเห็น หวาดหวั่นและมีความหวัง เติบโตและแตกสลายไปพร้อมกับตัวละคร ผู้กำกับ ยอน ซังโฮ เล่าการพัฒนาของตัวละครเอก จากชายผู้เห็นแก่ตัวไปสู่พ่อที่เสียสละเพื่อคนอื่น และขณะเดียวกันก็เล่าพัฒนาการของตัวละครประกอบอีกคนจากพนักงานรถไฟที่เสียสละใส่ใจคนรอบตัว กลายเป็นคนที่ผลักใส่คนอื่นไปสู่ความตายเพียงเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง 


    Dawn of the dead และ Train to Busan ใช้ซอมบี้สัญลักษณ์ที่ทรงพลังสะท้อนให้เห็นว่ามนุษย์เราสามารถถลำลึกและผงาดขึ้นมาได้ขนาดไหนในสภาวะวิกฤตความเจ็บปวดของเราต่อปัญหาในสังคมก็ไม่ต่างจากความเจ็บปวดของคนที่อยู่ในโลกที่เชื้อซอมบี้ระบาด
    โลกทุนนิยมโลกแห่งการโกงกิน โลกของการคอรัปชั่น เป็นโลกที่ซับซ้อน ขมขื่น และว้าวุ่นแต่ในขณะเดียวกัน เราก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าโลกมีความรายละเอียดที่บริสุทธิ์และแสนวิเศษโดยธรรมชาติได้สร้างสรรค์ชีวิตได้สวยงามน่าประหลาด 

    ท่ามกลางปัญหาและความขมขื่นมากมายยังมีความรักที่เยียวยาและมีความเสียสละอยู่ในโลกใบนี้ เหมือนตอนหนึ่งใน Dawn of the dead และ Train to Busan  ที่แม้แต่ในวันสิ้นสุดของโลก มนุษย์ยังเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์และยังได้ชื่นชมความงามของพระอาทิตย์ตกดิน 


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in