เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The Wizard Next Doorpiyarak_s
Day 25 : Beast
  •  คำพูดที่ออกมาจากปากของเบอร์แทรมนั้นร้ายกาจสำหรับคนฟัง โดยเฉพาะโจนาห์ แอดดิงตัน


    แม้จะไม่มีสำเนียงเย้ยหยันหรือแสดงความรู้สึกว่าอีกฝ่ายต่ำต้อย แต่รัสเซลล์รู้ว่านั่นเป็นคำพูดที่เสียดแทงและกระทบกระเทือนใจของคนที่ถูกพาดพิงถึงอย่างรุนแรง เพราะดวงตาของแอดดิงตันวาวโรจน์ด้วยความโกรธราวกับอัศวินที่ถูกตบหน้าเพื่อหยามเกียรติและถูกเรียกร้องให้ออกมาต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของตนเอง 


    นายตำรวจหนุ่มรู้ว่า เบอร์แทรมมีความรู้ด้านเวทมนตร์คาถาและไสยศาสตร์ และยิ่งไปกว่านั้นคือ คนที่ใช้นามสกุลเคลลีย์ แต่เขาไม่เคยคาดคิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าระบุถึงขนาดว่า สิ่งที่แอดดิงตันทำเป็นเพียงสิ่งที่ทำสำเร็จได้เพียงครึ่ง ๆ กลาง ๆ และน้ำเสียงเยือกเย็นแต่หนักแน่นนั้นบอกชัดเจนว่า เขารู้จริง 


    “แกเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงรู้เรื่องนี้” 


    มือที่ถือมีดของชายที่เพิ่งฆ่าคนอย่างเลือดเย็นสั่นระริก น้ำเสียงที่ดูเหมือนตั้งใจจะตะโกนออกมาสุดเสียงกลับแหบพร่าและแผ่วหาย ดวงตาที่แสดงความมั่นอกมั่นใจก่อนหน้านี้แปรเปลี่ยนเป็นลังเล สีหน้าของเขาแสดงออกทั้งความประหลาดใจและหวาดหวั่นอย่างที่รัสเซลล์ไม่เคยเห็นมาก่อน แม้กระทั่งยามที่อีกฝ่ายถูกจับและถูกสอบสวนในที่ทำการตำรวจนครบาล


    “ผมควรจะเป็นคนถามคุณมากกว่าว่า ถึงขนาดนี้แล้ว คุณยังไม่รู้อีกเหรอว่า ทำไมผมถึงรู้ว่าสิ่งที่คุณทำมันไม่ครบถ้วนสมบูรณ์อย่างที่มันควรจะเป็น” 


    “เคลลีย์...” 


    “ในที่สุด คุณก็เข้าใจ” 


    แม้จะมองไม่เห็นหน้าของคนที่ยืนขวางระหว่างเขากับแอดดิงตัน แต่รัสเซลล์รู้สึกได้ว่าเบอร์แทรมกำลังยิ้ม มีเสียงหัวเราะเบา ๆ เจือปนอยู่ในประโยคนั้น และนั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกว่าชายหนุ่มตรงหน้าเริ่มกลายเป็นอีกคนที่เขาไม่รู้จักอีกต่อไป 


    สายลมยามค่ำคืนในฤดูใบไม้ร่วงไม่สามารถทำให้เขาหนาวยะเยือกได้เท่ากับความเปลี่ยนแปลงของคนตรงหน้า


    เขาไม่คิดว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้าของร้านหนังสือเก่าเสแสร้งทำตัวเป็นคนอ่อนโยน นุ่มนวล ไร้พิษสงเพื่อเป็นหน้ากากบังอีกโฉมหน้าหนึ่งที่ซ่อนเอาไว้เหมือนหมาป่าที่ห่มหนังแกะ แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับอีกฝ่าย เหมือนกับความมืดของเงาที่ติดตามตัวอยู่อย่างสลัดไม่ออกไม่ว่าจะพยายามใช้ชีวิตในแสงสว่างมากเพียงใดก็หนีไม่พ้นกำลังฉวยโอกาสนี้คืบคลานเข้าทาบทับตัวตนที่แท้จริงของเบอร์แทรมเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามได้รับรู้ว่ากำลังรับมืออยู่กับสิ่งใดมากว่า 


    รัสเซลล์ยอมรับว่า เขาไม่สบายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เป็นห่วงคนที่กำลังพยายามปกป้องเขามากกว่า ทว่าเขาคิดไม่ออกเลยว่า คนธรรมดาอย่างเขาจะช่วยเหลืออีกฝ่ายได้อย่างไร นอกจากเฝ้ามองความเป็นไปที่เกิดขึ้นโดยไม่ทำตัวให้เป็นภาระ


    “คุณฆ่าคนเพื่อทดลองปลุกวิญญาณและควบคุมวิญญาณเหล่านั้น นั่นไม่ใช่วิถีทางของเรา และไม่มีวันทำให้คุณมีอำนาจยิ่งใหญ่ไปกว่าเคลลีย์อย่างที่คุณอาจจะคิดอยู่ในเวลานี้” 


    “มันจะไม่เหมือนได้ยังไง ในเมื่อสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการควบคุมวิญญาณให้ทำในสิ่งที่เราต้องการเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่น้อยคนจะสามารถทำได้” 


    แอดดิงตันพยายามกล่าวเสียงแข็ง ทว่าเสียงของเขากลับสั่นพร่า


    ดูเหมือนว่าคำพูดของเบอร์แทรมตีถูกอัตตาในตัวของเขาเข้าอย่างจัง และเบอร์แทรมก็ไม่ปล่อยให้เขาได้ตั้งตัว


    “ตระกูลเคลลีย์ถูกกล่าวถึงด้วยความหวาดกลัวมาตลอดว่าเป็นตระกูลที่เกี่ยวพันกับศาสตร์มืดและศาสตร์นอกรีตก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเราไม่เคยทำคือการฆ่าคนเพื่อควบคุมวิญญาณของพวกเขา และไม่ว่าใครก็ตามที่ละเมิดกฎสำคัญที่สุดในข้อนี้ พวกเขาจะต้องชดใช้และได้รับการตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ ซึ่งผมไม่คิดว่าคุณจะรู้ความจริงในเรื่องนี้” 


    เบอร์แทรม เคลลีย์สืบเท้าไปข้างหน้า และแอดดิงตันที่มีอาวุธอยู่ในมือเป็นฝ่ายที่ล่าถอย


    “คุณไม่เคยรู้เรื่องนี้สินะ โจนาห์” 


    เสียงที่เปล่งออกมาจากปากของชายหนุ่มในเวลานี้ฟังราวกับเสียงที่มาจากโลกอื่น แม้เรียบ นิ่ง แต่คนฟังสัมผัสได้ถึงการคุกคามอย่างเลือดเย็น


    “ไปให้พ้น! อย่าเข้ามา!” 


    รัสเซลล์ไม่มีทางรู้เลยว่าสีหน้าของเบอร์แทรมในเวลานั้นเป็นอย่างไร หรือแอดดิงตันมองเห็นสิ่งใดจากตัวตนของฝ่ายที่ก้าวเข้าหาเขาอย่างช้า ๆ แต่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้ง เสียงร้องตะโกนห้ามไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใกล้นั้นแสดงความหวาดกลัวถึงขีดสุด ราวกับว่าคนที่เดินตรงไปหาตนเองเป็นสัตว์ร้ายหรือบางสิ่งบางอย่างที่มีอำนาจเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาจะรับมือได้ 


    “พวกแก! ไอ้พวกวิญญาณทั้งหลาย อย่าให้มันเข้ามาใกล้ฉัน!!!” 


    คลื่นพลังบางอย่างก่อตัวขึ้น เป็นบางอย่างที่นายตำรวจหนุ่มไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนนัก แต่เขารู้สึกได้ว่ามันมีอยู่ พลังงานนั้นก่อตัวขึ้นรอบร่างของโจนาห์ แอดดิงตันที่ในเวลานี้เริ่มเผยอริมฝีปากออกเป็นรอยยิ้มได้แล้ว และจังหวะการก้าวเท้าของเบอร์แทรมก็หยุดลง 


    เพียงอึดใจ พลังงานที่เต็มไปด้วยความรุนแรงเหล่านั้นก็กรูเข้าหาชายหนุ่มที่ยืนปักหลังนิ่งอยู่ตรงข้ามกับผู้บุกรุกอย่างไม่สะทกสะท้าน และเพียงชั่วเสียงดีดนิ้วมือครั้งเดียวเท่านั้น พลังงานที่ปั่นป่วนกลุ่มดังกล่าวกลับหยุดชะงัก 


    รัสเซลล์ได้ยินเสียงของเบอร์แทรมกล่าวอะไรบางอย่างด้วยภาษาที่เขาไม่เข้าใจ เสียงของเบอร์แทรมแผ่วต่ำราวกับกำลังสื่อสารกับสิ่งที่อยู่เหนือความรับรู้และเข้าใจของมนุษย์ธรรมดา


    “พวกคุณหมดพันธะกับเขาและเป็นอิสระแล้ว” 


    สิ้นคำ บรรยากาศแห่งความอึดอัด กดดัน และเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานที่ส่งอิทธิพลผ่านมายังเขาด้วยก็สลายหายไป แต่ทว่ากลุ่มของพลังวิญญาณที่ถูกเก็บเกี่ยวและรวบรวมไว้ใช้งานโดยปราศจากความเต็มใจเหล่านั้นยังไม่หายไปไหน 


    “ถ้าเพียงแต่คุณจะศึกษาให้ถ่องแท้กว่านี้สักหน่อย คุณจะรู้ว่าเคลลีย์อย่างเราสามารถปลดปล่อยวิญญาณที่ถูกพันธนากรเอาไว้ได้” เบอร์แทรมเอ่ย “สำหรับผมแล้ว นี่ต่างหากคือความสามารถที่สำคัญที่สุดที่ไม่มีใครอื่นที่สามารถเทียบได้ ไม่ใช่ความสามารถในการควบคุมและกักขังวิญญาณของคนอื่นอย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจกัน” 


    เขาหยุดพูดชั่วอึดใจ ก่อนที่จะระบายลมหายใจยาวออกมา และยื่นแขนสองข้างออกไปข้างหน้า สายควันสีขาวเหมือนเกลียวหมอกก่อตัวขึ้นรอบแขนของเขาและเคลื่อนที่ไปยังปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง


    “มิเชลล์ ผมมอบเขาให้คุณตามสัญญาของเรา และพวกคุณที่ได้รับการปลดปล่อย ตอนนี้เขาเป็นของพวกคุณแล้ว”


    ดวงตาของแอดดิงตันเบิกกว้าง มีดในมือของเขาหล่นลงกับพื้น สองเท้าค่อย ๆ ก้าวถอยหลังไป แต่แล้วก็เสียหลักเมื่อสะดุดเข้ากับร่างไร้วิญญาณของตำรวจที่ตนเองฆ่าจนล้มหงายหลักลง 


    เสียงกรีดร้องของฆาตกรศาสตร์มืดดังก้องไปทั่วพร้อมกับเสียงของรถตำรวจและรถพยาบาลที่ใกล้เข้ามา


    อย่างไรก็ตาม รัสเซลล์ไม่ทันเห็นได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับโจนาห์ แอดดิงตันบ้าง เพราะในเวลานั้น ความสนใจหนึ่งเดียวของเขาอยู่ที่ชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง และถลาเข้าไปรับร่างของเบอร์แทรม เคลลีย์ที่ทรุดลงเอาไว้ในอ้อมแขน



    To be continued >>> Day 26 : Love/Heartbreak


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
bullettransth (@bullettransth)
ม่ายยยย ฮือออ การปลดปล่อยของวิญญาณผู้หญิงคนนั้นถึงกับต้องแลกด้วยอะไรของคุณพ่อมดหรือเปล่า ไม่เอานะ เราไม่อยากเศร้า T^T
piyarak_s (@piyarak_s)
@bullettransth ต้องมีการแลกเปลี่ยนนิดนึง แต่ไม่เศร้าน้าาา
dalnimxstar (@dalnimxstar)
มันคงไม่ผิดที่ทุกคนล้วนมีเหตุผลและที่มาที่ไปเพื่อรองรับพฤติกรรมของตัวเอง แต่เมื่อไหร่ที่พฤติกรรมของคุณสร้างความเดือดร้อนและเบียดเบียนคนอื่น สุดท้ายก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาเนอะ คูมเบอร์แทรมเท่มากกกก ตอนอ่านนี่ในใจมีแต่ประโยค 'จัดการมันเลยค่ะคุณพี่' อยู่ตลอดเลย 555555 พักผ่อนน้าา คูมตำรวจดูแลให้ดี ๆ เลยย
piyarak_s (@piyarak_s)
@dalnimxstar 5555555 กองเชียร์คุณพ่อมดอยู่ตรงนี้นี่เอง
smile515903 (@smile515903)
อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความเปราะบางของแอดดิงตันเลยค่ะ
แอบสงสารเขาอยู่เล็กๆ นะคะ

แต่ว่า! คุณเบอร์แทรมแสนจะเท่! สุดคูล!
ถึงบรรยายกาศจะแอบเย็นๆ ไปบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกว่าเท่มากๆ อยู่ดี
และคงเป็นเพราะว่าใช้พลังมากเกินไป ในตอนท้ายถึงได้สลบไปแบบนั้น ฝากคุณตำรวจดูแลหน่อยนะคะ /อย่าลืมผ้าห่มวิเศษ ;)
piyarak_s (@piyarak_s)
@smile515903 แอดดิงตันน่าเห็นใจอยู่ค่ะ แต่ผิดก็ต้องว่าไปตามผิดเนอะ

ส่วนเบอร์แทรมไม่เป็นไรอยู่แล้ว คนดูแลพร้อมเสมอ :)