เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I'll try...overreachpeach.
ผลข้างเคียง | side effects
  • กี่ครั้งแล้วที่เรามองท้องฟ้า มองตึกสูง ๆ แล้วจินตนาการว่าถ้าตกลงมาจะเจ็บมากไหม
    กี่ครั้งแล้วที่เราบอกตัวเองว่า เฮ่ ยู ยูคิดมาก คิดมากถึงมากที่สุด
    กี่ครั้งแล้วที่เราพยายามคิดถึงแต่เรื่องดี ๆ มองโลกในแง่ดี อยู่กับคนที่ให้พลังบวก
    กี่ครั้งแล้วที่เราพยายามเข้าหาเพื่อน ออกไปข้างนอก ไปเจอสังคม
    กี่ครั้งแล้วที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเรามี suicidal thought ผุดมาอยู่เรื่อย ๆ 
    กี่ครั้งแล้วที่เราเริ่มบทสนาดี ๆ พูดถึงเรื่องดี ๆ แล้วจบด้วยการขอโทษคน ๆ นั้น
    กี่ครั้งแล้วที่เราถอนหายใจกับตัวเอง นี่ยูห่วยแตกมากเลยนะ ชีวิตโคตรไม่มีฟังก์ชันอะไรเลย
    กี่ครั้งแล้วที่เราเหนื่อย เหนื่อยที่จะพูด เหนื่อยที่จะฟัง เหนื่อยที่จะตอบคำถาม 



    "Don't you know how much I've tried"
    เราตะโกนบอกคนรอบข้างอยู่ในใจ



    วันนี้เป็นวันที่ต้องไปรับ transcript ที่มหาลัย ซึ่งเดาว่าเป็นอะไรที่ทุกคนตื่นเต้น ดีใจ วันนี้ที่รอคอย เรียนจบซักที แต่สำหรับเรา it's another day, hold on มากกก ไม่มีความตื่นเต้นอะไรเลย เราตั้งปลุกเช้าแต่สุดท้ายเราก็นอนโง่ ๆ เพื่อรอเพื่อนอีกคน เราหงุดหงิด แต่เอาเหอะ วันนี้มันต้องโอเค 
    ด้วยบรรยากาศที่ไม่อยากเข้าคณะ ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากวุ่นวายกับใคร ไม่อยากแบกหน้าเจื่อน ๆ ที่ทั้งง่วงแล้วก็โทรมไปพบปะผู้คน จากที่ตั้งใจว่าจะแมเนจทุกอย่างให้เสร็จก่อนเที่ยง กลายเป็นว่าทุกอย่างเสร็จตอนบ่ายสามกว่า สี่โมงเย็นก็คือเพิ่งได้กินข้าวมื้อแรก ก่อนหน้านี้เพื่อนเลี้ยงลาเต้ไปแก้วหนึ่ง มันก็พอจะแฮปปี้อยู่บ้าง (พยายามมองโลกในแง่ดีสุด) แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าไม่เห็นต้องมาเลี้ยงเลย ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย ทุกอย่างเป็นลูปที่ทำให้เราเหนื่อย เราไม่พอใจกับตัวเองที่จะอะไรหนักหนาวะกับเรื่องอะไรก็ไม่รู้ เราเก็บมาคิดหมด มันเหนื่อยมาก สุดท้ายเราก็จบวันด้วยการส่งแชทไปหาเพื่อนเพื่อบอกว่าขอโทษถ้าทำให้รู้สึกไม่ดี



    เราไม่ต้องการให้ใครมาเข้าใจเพราะรู้ว่ายังไงความรู้สึกมันก็เอาอะไรมาวัดไม่ได้เพราะถ้าทุกคนเข้าใจความรู้สึกของกันและกันได้จริง ๆ ป่านนี้หัวคงระเบิดไปแล้ว ใครมันจะไปเข้าใจวะ จริงไหม
    เราได้แต่บอกตัวเองว่าทั้งหมดมันก็แค่ความคิด ความคิดที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง เราจินตนาการมันขึ้นมา เราพาตัวเองไปตรงที่แย่ ๆ จุดที่มีแต่ความคิดแย่ ๆ เอง ทั้งหมดมันก็แค่ความคิดเราเอง แต่จะบอกว่าความคิดเรานี่ทำเราเหนื่อยมาก มาก ๆ เราเหนื่อยทุกวันทั้งที่เราแทบไม่ได้ทำอะไรเลย เรากินข้าววันละมื้อ เราพะอืดพะอมมาก สองสามวันมานี้เราเข้าห้องน้ำไปล้วงคอเพื่อให้อาเจียน แต่มันไม่เวิร์ค
    เราหงุดหงิดแม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เพื่อนทำให้ ทุกครั้งที่หยิบยามากินก็คิดตลอดว่า ถ้ากินหมดนี่จะตายไหม บิกินไปเรื่อย ๆ ยาก็เม็ดเล็กอยู่แล้ว จากแต่ก่อนที่กินยาเม็ดไม่เป็นเลย แพนิคยาเม็ดและร้องไห้งอแง ขอยาน้ำกับหมอตอนปอดอักเสบสมัยมัธยม ตอนนี้เรียกว่า Professional ด้านยาไปเลย เก่งไง ไม่ใช่ว่าเราเพิ่งมีความคิดนี้นะแต่เราเสิร์ชมาตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เราเสิร์ชว่ากินตัวไหนแล้วไปจริง ต้องกินเยอะขนาดไหน ใช้เวลานานแค่ไหน เราเสิร์ชมาหมดแล้ว มี reference มี case study ไว้ในมือถือ บวกกับความรู้ในวิชาเจนเอดที่ได้เอมา มันก็พอจะรู้บ้างว่าอะไรยังไง คนเรามันจะจริงจัง geek อะไรขนาดนี้วะ ตกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือเราโมโหง่ายมาก เราหงุดหงิดกับทุกอย่างรอบตัว เรารู้สึกไม่อยากอยู่ใกล้ใครเพราะกลัวทำให้คน ๆ นั้นรู้สึกอึดอัด รู้สึกแย่ รู้สึก awkward ไปกับเราด้วย แล้วทุกครั้งก็จะมีคำพูดแบบว่า มึงเป็นอะไร เป็นอะไรอีกอะ ทำไมไม่พูด มึงมากับพวกกูรึเปล่าวะ ทำไมไม่ไปกินกับพวกกู ทำไมนัดแล้วเท ทำไมไม่รีบมา ทำไม ทำไม และทำไม



    เราเบื่อ ทุกอย่าง 
    เราขอโทษสำหรับทุกอย่าง 
    เราขอเวลาจูนตัวเอง เราขอพักยาว ๆ นอนยาว ๆ ไม่ต้องทำอะไรซักพัก 
    เราไม่อยากเป็นแบบนี้ เราไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ (มันเป็นแบบไหนอีกอะ... มีคนพูดแบบนี้กับเราจริง ๆ)  
    เราอยากอยู่คนเดียว เราเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น 



    "ไม่ต้องใส่ใจมากนะมึง ไม่ได้เป็นอะไร ชิวว"
    เราส่งแมสเสจไปให้เพื่อน...



    "สู้ ๆ นะมึง"



    นี่ยังสู้ไม่พออีกเหรอ ตลกร้ายอะแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
    เราหวังว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องที่บ้าน เรื่องเพื่อน เรื่องอนาคต เรื่องตัวเอง 
    เราจะผ่านมันไปได้ เราพยายามมากที่จะเชื่อใจตัวเอง เชื่อคำพูดหมอ เชื่อว่ากินยาแล้วจะโอเค
    เรากำลังพยายามอยู่ นี่ก็แค่สองวีคเอง ผลข้างเคียงจากยาที่กิน หมอคนก่อนบอกแค่ หนูจะปากแห้งหน่อยนะ แต่หมอคนล่าสุดไม่ได้บอกอะไรเลย มีแค่ความคิดที่ทำให้เราเหมือนจะอยากเฟดตัวเองออกไปจากตรงนี้เต็มทน นี่รึเปล่าผลข้างเคียงที่หมอไม่อยากบอก



    "Hold on"
    เราบอกตัวเองรอบที่ล้าน 


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in