เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เวียงชัย...ไปตางปู๊นBenchiro
รพช. ... โรงเพาะชำ(ความเหงา) 2
  • ช่วงเย็นหลังจากกลับจากประชุมที่เชียงใหม่ พี่พจก็พาพวกเรากับพี่ๆทันตาฯ พี่แคท พี่บาย นั่งท้ายสองแถวไปไหว้พระที่วัดร่องขุ่นแล้วต่อด้วยขี่จักรยานเล่นที่ไร่บุญรอดครับ แถมก่อนหมดวันยังพาพวกเราไปนั่งชิวๆพูดคุยกันที่ร้านบะหมี่เกี๊ยว-ข้าวหมูแดงเจ้าอร่อยในตัวเมือง แต่อย่างว่าก็มันอร่อยจริงหนิครับเลยซัดกันนัวเนียคนละ 2 ชามบวกๆ เช็คบิลมาทีก็ 600 กว่าบาท 5555 เดาว่าในใจพี่พจคงด่าพวกผมเช็ดไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังใจดีควักเงินเลี้ยงพวกผมด้วยมาดนางงามรักเด็กสุดๆ หลังจากอิ่มแปล้พุงปลิ้นกันไปตามๆกัน พวกเราก็นั่งพูดคุยถามไถ่กันพอประมาณหลังจากนั้นพี่พจก็ซิ่งสองแถวบรรทุกพวกผมกลับอินทนิลเป็นอันจบวันครับ


                                               รูปกรุ๊ปช็อตที่ช่างกระจัดกระจาย 555 ที่ไร่บุญรอดครับ

    ค่ำคืนแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช้าวันต่อมาพวกผมถูกจัดให้ไปสังเกตการทำงานของพี่ๆหมอฯและพี่ทันตาฯในห้องฟัน ทำให้รู้ว่าแผนกทันตกรรมของโรงพยาบาลนี้ มีทันตแพทย์อยู่ 4 คนครับ มีพี่หมอน้อยเป็นหัวหน้า พี่หมอวนัช พี่หมอต่าย และพี่หมอพจ (ทพญ.พจนาพงษ์พานิช) อาจารย์พี่เลี้ยงและหัวหน้าแก๊งตลอด 1 สัปดาห์ของพวกเรานั่นเอง การขลุกอยู่ในห้องฟันตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ภาพพี่หมอนั่งทำฟันทั้งวันไม่ค่อยได้ลุกไปไหนทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ชีวิตที่เป็นงาน routine เข้าขั้นน่าเบื่อ ไร้ความท้าทายแบบนี้ เราจะอยู่กับมันได้ทั้งชีวิตมั๊ยเนี่ย...ตกเย็นตามสเต็บพี่พจก็เรียกพวกเรามาพูดคุยในห้องพักแพทย์ครับอารมณ์ประมาณให้มาอัพเดทว่าวันนี้ได้เรียนรู้อะไรบ้าง ผมก็เลยถือโอกาสถามพี่พจถึงประเด็นที่แอบค้างคาในใจมาทั้งวันซะเลย ว่าในมุมมองของพี่พจแล้วเนี่ย ความท้าทายสูงสุดของชีวิตข้าราชการทันตแพทย์คืออะไร โดยเฉพาะทันตแพทย์ที่ลงทำงานชุมชนอย่างตัวพี่พจเองแล้วด้วย

    พี่พจนั่งนึกคำตอบแค่เพียงไม่นานแต่ก็ตอบออกมาได้กินใจทีเดียวเลยครับ ว่าหลายครั้งความเป็นงานมันไม่จำเป็นต้องเต็มไปด้วยความท้าทายชีวิตก็ได้ เพียงแค่มันหล่อเลี้ยงเราให้สามารถอยากทำงานแบบเดิมๆทุกๆวันแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แถมพี่พจยังยกตัวอย่างให้พวกเราเห็นชัดด้วยว่า งานข้าราชการที่ต้องทำตามนโยบายของกระทรวงฯ และ สสจ.(สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด) เนี่ยมันเป็นงาน "ยาไส้" ต้องทำตามเขา เพราะเขาจ่ายเงินเดือนให้เรา แต่เสน่ห์ของงานชุมชนที่แท้จริง คืองาน"ยาใจ" เป็นงานที่ไม่มีใครสั่ง แต่เราสัมผัสได้จากการลงชุมชนว่าในชุมชนยังมีปัญหาอะไรบ้างที่คนข้างบนยังมองไม่เห็นหรือยังไม่ถูกแก้ไข สิ่งพวกนี้แหละที่มันบันดาลใจให้ยังอยากทำงานอยู่ตลอด เพราะยิ่งทำส่วนนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งยาหัวใจของเรามากขึ้นเป็นเท่าตัว

    เอาจริงผมเองก็ไม่ได้คิดว่าจะเจอคำตอบที่พิสดารไปจากที่คาดเอาไว้เท่าไหร่นัก เพราะหมอฟันอย่างเราความท้าทายเอาให้มากที่สุดก็คงเป็นการได้รักษาคนไข้เคสยากๆ หรือไม่ถ้าทำงานข้าราชการก็คงเป็นการได้ขยับเขยื้อนในตำแหน่งหน้าที่อะไรเทือกนั้น แต่คำตอบของพี่พจนอกจากทำให้ผมต้องชะงักความคิดแล้วลงมือโควทคำพูดใส่สมุดแล้ว ยังทำให้ผมรู้สึกด้วยว่าไอกรอบคิดมุมมองของเราที่มีอยู่มันช่างคับแคบเสียจริงๆ ถึงแม้ผมในตอนนี้ยังไม่อาจเข้าใจความหมายในคำตอบของพี่พจได้ทั้งหมดแต่ก็พอจะรู้แล้วหละครับว่า ในดินแดน รพช. โรงเพาะชำความเหงาแห่งนี้ มันมีอะไรบ้างอย่างที่หล่อเลี้ยงหัวใจของคนที่นี่ให้ยังคงเต้นและพองโตท้าทนความเวิ้งว่างห่างไกลและไอระอุของความเหงาได้อยู่จริงๆ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in