เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storymidnce
10 หนังเรื่อยเปื่อยเเต่พล็อตโคตรดี
  • ขอเกริ่นก่อนส่วนตัวเราเป็นคนที่ชอบดูหนังเปื่อยๆ เรื่อยๆ ตัวหนังไม่ต้องมีจุดพีคอะไร  แต่เวลาเราดูแล้วอยากให้เรารู้สึกเติบโตไปกับตัวละคร เข้าใจสิ่งที่หนังจะสื่อ ซีนภาพสวยๆ ที่ไม่ต้องมีซับไตเติ้ลบรรยาย มีแค่สีหน้าตัวละครที่สื่อทุกอย่างไว้หมดแล้ว และที่สำคัญเน้นพล็อตเรื่อง ดังนั้นหนังที่จะเอามาแชร์ในวันนี้ ล้วนแล้วแต่โคตรเปื่อย 55555 บางเรื่องดูรอบเดียวไม่พอต้องดูอีกรอบ ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ แต่เปื่อยจนหลับไปก่อนก็มี5555  มาเริ่มกันเลย! ขอให้ตั้งสมาธิดูกันให้ดีๆ

    1.lost In Translation (2003)

             เป็นความสัมพันธ์ของ ' บ้อบ แฮริส ' นักแสดงหนุ่มขาลงที่มาถ่ายโฆษณาที่โตเกียว ได้เจอกับ ' ชาร์ลอต ' สาวที่พึ่งเรียนจบปริญญาด้านปรัชญา และติดตามสามีที่เป็นช่างภาพมาทำงานที่โตเกียว  การเจอกันแบบบังเอิญหลายรอบจากการพบกันที่บาร์ของโรงแรม ตัวหนังไม่ได้โฟกัสที่ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่สุดท้ายจะเป็นไง เเต่กลับเล่นซีนภาพที่โคตรจะเหงา และดำเนินเรื่องจากตอนเวลาที่บ๊อบอยู่กับชาร์ล็อตว่าเขาเป็นยังไงแทน ซึ่งเวลาบ๊อบอยู่กับชาร์ล็อตมันโคตรจะคอนทราสกับตอนที่เขาอยู่โรงเเรมคนเดียว 


    2.5oo Days Of Summer (2009)

             ' ซัมเมอร์ ฟิน 'เธอซึ่งไม่เชื่อในความสัมพันธ์ใดๆเลย แตกต่างกับ ' ทอม ' เขาทึ่เชื่อในความสัมพันธ์แบบคนทั่วไป ที่ต้องมีสถานะ ทอมพบกับซัมเมอร์ที่ที่ทำงาน ทำงานเกี่ยวกับพวกการเขียนการ์ดอวยพรต่างๆ เขาได้ตกหลุมรักซัมเมอร์ ตัวหนังดำเนินเรื่องปัจจุบันแฟลชแบ็คกับอนาคตในวันข้างหน้า เล่าได้ค่อนข้างดี


    3.Eternal Sunshine Of Spotless Mind (2004)

              เปิดต้นเรื่องมาด้วยแบบงงๆ ว่า ' โจเอล ' พระเอกของเรื่องมันไปทะเลทำไมวะ แล้วหนังก็จะค่อยๆอธิบาย แฟล็ชแบ็คไปมา จนแอบงง แต่แฝงไปด้วยความสัมพันธ์แบบ i hate you, i love you. ที่ต่อให้เกลียดก็ยังรัก โจเอลได้รู้ว่าแฟนสาว ' คลีเมนไทน์ ' ได้ลบความทรงจำเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเขา โจเอลโกรธมากจึงจะไปลบความทรงจำความสัมพันธ์ครั้งนี้เหมือนกัน ในเมื่อเธอไม่ต้องการผมแล้ว ผมก็ไม่ต้องการเธอเหมือนกัน (ประโยคหลังอินจัด) ในขณะที่ลบความรงจำ ตัวหนังแฟล็ชแบ็คตั้งแต่ตอนล่าสุดที่ทั้งคู่ทะเลาะกันหนักมาก ไปจนถึงครั้งเเรกที่เจอกัน แล้วสุดท้ายโจเอลจะตัดสินใจยังไง ไปดู!

    4.The Lobster (2015)

                 เรื่องนี้ขอเตือนว่าต้องตั้งสติเวลาดู ไม่ใช่ไร ไม่งั้นคุณอาจจะหลับได้ ให้ 10/10 ในความเรื่อยเปื่อยของหนัง เป็นการนำคนมาเปรียบเทียบกับสัตว์ หนังเริ่มด้วยพระเอกพึ่งเลิกกับเมียเก่า เลยตัดสินใจมาโรงเเรมหรือศูนย์อะไรซักอย่างที่มีกฎว่า คุณต้องมีคู่ภายในกี่วันๆตามที่กำหนด ไม่งั้นคุณจะกลายเป็นสัตว์ตามที่คุณเลือก แล้วจะถูกล่า ซึ่งชื่อหนังก็มาจากที่พระเอกเลือกที่จะเป็นลอบเตอร์ หนังแม่งติสมากไม่ไหวอย่าฝืน(เรื่องนี้ดูนานมากแล้วจริงๆก็จำไม่ค่อยได้ ดูซ้ำอีกรอบก็คงไม่ไหว) คงต้องไปตามดูต่อกันเอาเอง...

    5.Her (2013)

               เรื่องนี้บอกเลยว่าไม่ติดไมได้ หนังที่คอหนังเปื่อยห้ามพลาด หลายๆซีนคล้ายเรื่อง lost In Translation ถ้าชอบเรื่องนั้นบอกเลยเรื่องนี้ห้ามพลาด ' ธีโอดอร์ ' เป็นพนักงานที่คิดคำพูดจดหมายอะไรพวกนี้ ตัวหนังเป็นมุมมองที่พูดถึงอนาคตวันข้างหน้าถ้าเรามีปัญญาประดิษฐ์ที่มีความคิดอะไรเหมือนมนุษย์ มีความรู้สึก แต่แค่สัมผัสไม่ได้ ในเรื่องนี้ ธีโอดอร์ได้หลงรัก ' ซาเเมนธาร์ ' เธอเป็นปัญญาประดิษฐ์หรือคอมพิวเตอร์นี่แหละ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะลงเอยยังไง ลองไปดูห้ามพลาดจริงๆเจ้าของประโยค ' Love is kind like a form of socially acceptable insanity. ' (การตกหลุมรักคือความเสียสติอย่างหนึ่งที่สังคมยอมรับได้)

    6.Forrest Gump (1994)

               นำเเสดงนำโดยทอม แฮงค์ หลายๆคนน่าจะคุ้นชื่อกัน ผลงานที่ผ่านมาก็มีพวก the terminal,sully เข้าเรื่องเถอะ ' ฟอเรสต์ ' เด็กหนุ่มที่ดูเหมือนว่าจะอัจฉริยะ ที่แบบไม่ได้จีเนียสแบบเก่งเลย เเต่จะดูเอ๋อๆแต่แบบเก่ง ตัวหนังเล่าเรื่องชีวิตฟอเรสต์ การประสบความสำเร็จต่างๆ รวมถึงชีวิตรักของฟอเรสต์ ' แอนนี่ 'หญิงสาวที่เป็นรักแรกและดูเหมือนจะเป็นรักสุดท้ายของเขาด้วยเหมือนกัน หนังเป็นคอมเมดี้ดูได้เรื่อยๆ มาลุ้นว่าสุดท้ายแล้วแอนนี่จะลงเอยกับฟอเรสต์มั้ย

    7.Moonrise Kingdom (2012)

             ถึงแม้ตัวหลักจะเป็นเด็กแต่ได้นักเเสดงสมทบอย่าง ' บรูซ วิลลิส ' มาร่วมแสดงด้วย เป็นหนังรอมคอม ที่เนื้อเรื่องดูได้สบายๆ แอบแฝงไปความสัมพันธ์ครอบครัวให้เราได้คิด ตัวหนังพูดถึงพระเอกรุ่นเล็กของเรา ' แซม ' ที่มาเข้าค่ายที่เกาะเเห่งหนึ่งกับคณะลูกเสือ แต่อยู่ดีๆเขาก็หายไป ทุกคนในค่ายออกตามหา ในขณะเดียวกันก็มีเด็กหญิงบนเกาะหายไปเหมือนกัน ' ซูซี่ 'เป็นเด็กที่ดูโนสนโนแคร์โลก นอกจากคนที่ตัวเองรัก พวกเขามาเจอกันแล้วตัดสินใจเดินทางด้วยกันได้ยังไง เรื่องมันมีเบื้องลึกมากกว่านี้ ว่าทำไมอะไรยังไง กับความรักแบบเด็กๆแต่โคตรสุดโต่ง

    8.If I Stay (2014)

                   จำได้ว่าเรื่องนี้ดูในโรงตอนนั้น ออกมาพูดได้คำเดียวแม่งเอ้ยยย555555 นำแสดงโดย ' โคลอี้ '(แฟนเก่าบรู้คลิน) ตัวหนังดำเนินเรื่องแบบเรื่อยๆ นางเอกรถคว่ำทั้งครอบครัวตายหมด แต่เหมือนว่าจะมีตัวเองคนเดียวที่รอด แต่ก็รอดแบบโคม่าไม่ฟื้น ทำให้วิญญาณหลุดออกมาเข้าร่างไม่ได้ ตัวหนังแฟล็ชแบ็คไปมาระหว่างก่อนเกิดรถคว่ำกับตอนนอนโคม่า ความสัมพันธ์ที่ตอนเเรกดูเหมือนจะจบไปแล้ว สุดท้ายแล้วจะจบไงลองลุ้นดู เพลงประกอบเพราะดีดูจบลองไปหาฟังกันดูได้

    9.100th love with you (2017)
      
                 หนังไซไฟหน่อยๆ พระเอกย้อนเวลาได้ สร้างมาจากหนังสือลองไปหาอ่านกันได้ชื่อเดียวกับหนังเลย พระเอกที่ย้อนเวลาได้ด้วยเครื่องเล่นแผ่นเสียง  ตอนเเรกพระเอกดูเป็นคนเย็นชามาก แต่พอไปนานๆเราจะเริ่มเห็นความน่ารักของพระเอก นำเเสดงโดย ' เคนทาโร่ '(วี้ดดดดดดดด น่ารักมากตอนนี้มีภาพยนต์เรื่อง tonight at romance theater เข้าฉายเเล้วตอนนี้ฝากด้วยนะคะ555555 ) เขาจะหาทางช่วยนางเองยังไงไม่ให้ตาย เพราะไม่ว่าจะย้อนเวลากลับไปซักกี่ครั้งก็ตาม ก็ยังจบเหมือนเดิม มาดูว่าเค้าจะเปลี่ยนอะไรได้ัมั้ย จริงๆพล็อตแบบนี้ทุกคนก็น่าจะคุ้นเคย แต่พอมาเป็นหนังเอเชียเเถวบ้านเรากลับอินอย่างบอกไม่ถูก ไม่เหมือนทางฝั่งฮอลลีวู้ด ดูจบบอกเลยว่าถ้าไม่ร้องไห้คือเอาใจไปทุบน้ำพริกแทนสากได้เลยค่ะ

    10.Il mare (2000)

                    เรื่องนี้นานมากแต่ไม่่เท่า forrest gump แต่ก่อนปีเราเกิดอีก55555 นักเเสดงหญิงนำเเสดงนำโดย ' จวน จี ฮุน '(นางเอกซีรี่สุดโด่งดังจากเรื่อง 'who you came from the star') เรื่องนี้ก็เกี่ยวกับทามไลน์การข้ามเวลาโดยมีสื่อกลางคือตู้จดหมาย ที่สามารถส่งของข้ามเวลาได้ เรื่องค่อนข้างสับสนในเรื่องของทามไลน์ แต่ไม่ควรพลาดจริงๆ หากดูจบแล้วยังงง ลองไปหาสรุปดูในพันทิปเอา


         จบเเล้วกับการแชร์หนัง 10 เรื่องไม่รู้ว่าอ่านแล้วจะเข้าใจกันมั้ย555555 เพราะเราพึ่งเคยเขียนครั้งแรก แนวหนังจะออกเป็นเกี่ยวกับไทม์ไลน์การย้อนเวลาซะส่วนมากเรื่องหลังๆ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือความเรื่อยของหนัง ที่ดูจบต้องไปหาสรุปเอาอีกรอบบางเรื่อง แต่บอกเลยว่าทุกเรื่องคือภาพสวยมาก แล้วการันตีในพล็อตหนังเลยว่าดีจริงๆ ลองไปดูเถอะ...
    p.s. คอมเม้นติชมได้เลยนะคะ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in