เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryTan Thanita
ทำความรู้จักกับฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ !!!
  • ไข้หวัดใหญ่ สามารถป้องกันได้ไม่ยากด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งหลายคนบางทีอาจเข้าใจผิดว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฉีดเพียงแค่ครั้งเดียวก็มีภูมิคุ้มกันไปตลอด(ดังวัคซีนประเภทอื่นๆ) แต่ว่าจริงๆแล้ว วัคซีนไข้หวัดใหญ่ จะต้องฉีดทุกปีเพราะสายพันธุ์ของไวรัสจะเปลี่ยนไปในแต่ละปี ตอนนี้นักวิจัยกำลังพัฒนาวัคซีนที่ครอบคลุมเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ แต่ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ จึงจำต้องฉีดวัคซีนในทุกๆปี

     

    ทำความรู้จัก วัคซีนไข้หวัดใหญ่

    วัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกประเภท จะทำขึ้นเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3-4 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่หน่วยงานด้านการเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่ระดับโลกแนะนำว่า เป็นสายพันธุ์ที่จะมีการระบาดเยอะที่สุดในปีนั้นๆโดยสร้างมาจากเชื้อไวรัสที่ตายแล้ว ส่วนมากจะฉีดที่กล้ามเนื้อต้นแขน แต่ว่าในเด็กแรกคลอดแล้วก็เด็กเล็กจะฉีดที่ต้นขา ส่วนการฉีดเข้าใต้ชั้นผิวหนังสามารถทำได้ในผู้ที่มีอายุ 18-64 ปี

     

    นอกเหนือจากนั้น ยังมีวิธีการให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่อีกแนวทางหนึ่ง คือ พ่นทางจมูก โดยวัคซีนรูปแบบนี้สร้างขึ้นจากเชื้อไวรัสที่มีชีวิต แต่ว่าถูกทำให้อ่อนแอลง ซึ่งจะต้องใช้ในคนที่แข็งแรงเท่านั้น โดยอยู่ในช่วงระหว่าง 2-49 ปี และไม่ตั้งครรภ์ ศูนย์ควบคุมและก็ป้องกันโรคหรือซีดีซีแนะนำว่า เด็กอายุ 2-8 ปี ควรจะใช้แนวทางพ่นวัคซีนทางจมูก เพราะเหตุว่ามีคุณภาพดียิ่งกว่า แต่ถ้าหากไม่มีก็ใช้แบบฉีดตามปกติได้

     

    ทั้งนี้ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป ชี้แนะว่าควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในจำนวนสูงขึ้นมากยิ่งกว่าปกติ เหตุเพราะมีการวิจัยที่ตีพิมพ์ในนิตยสารการแพทย์นิวอิงแลนด์ (The New England Journal of Medicine) ปี ค.ศ.2014 ว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่ในจำนวนสูงสามารถป้องกันไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุได้ดีมากยิ่งกว่าโดยไม่เพิ่มผลข้างเคียง

    แต่วัคซีนไข้หวัดใหญ่มิได้มีคุณภาพป้องกันเชื้อไวรัสได้ 100% คนที่ได้วัคซีนยังได้โอกาสป่วยหวัดใหญ่ได้แต่มีโอกาสเกิดภาวะเข้าแทรกจากไข้หวัดใหญ่น้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน

     

    ควรจะไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือเปล่า?

    ผู้ที่อยู่ในช่วงตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปีละครั้ง ตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค โดยยิ่งไปกว่านั้นฝูงคนต่อแต่นี้ไป ควรอย่างมากที่จะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปีเหตุเพราะมีการเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่รวมไปถึงคนที่ดำเนินการกับ ผู้ที่มีการเสี่ยงสูงพวกนี้ด้วย ดังเช่นว่า 

    • ครอบครัวที่มีเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือน (เพราะเหตุว่าเด็กไม่สามารถที่จะฉีดวัคซีนได้ ก็เลยเสี่ยงติดเชื้อ)
    • คนที่มีโรคหัวใจหรือโรคปอดเรื้อรัง เบาหวาน โรคไต โรคเลือด หรือมีภูมิต้านทานต่ำ
    • หญิงมีครรภ์
    • ผู้ที่อาศัยในบ้านพักผู้ป่วยหรือสถานพักฟื้นผู้สูงอายุ
    • บุคคลาแขนด้านการแพทย์
    • ผู้ที่อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป

     

    ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่

    • ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่พบได้บ่อยที่สุดคือ อาการปวดรอบๆที่ฉีดวัคซีน บางคนอาจมีไข้ต่ำๆแล้วก็เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเนื้อตัว แต่ว่ามีบางกรณีซึ่งกำเนิดได้น้อยมากเป็น ผู้ได้รับวัคซีนจะมีลักษณะแพ้วัคซีนอย่างหนัก ซึ่งจะปรากฏด้านใน 2-3 นาที ถึง 2-3 ชั่วโมงข้างหลังฉีด โดยอาจมีอาการหายใจไม่สะดวก เสียงแหบหรือหายใจมีเสียงดัง ลมพิษ ซีดเผือดหมดแรง หัวใจเต้นเร็ว หรือเวียนหัว แม้มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งควรจะรีบพบแพทย์โดยเร็ว

    ส่วนวัคซีนที่ให้ทางจมูกนั้นจะมีเชื้อไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนฤทธิ์อยู่ ซึ่งผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่พ่นจมูกที่เจอในผู้ใหญ่ เป็น

    • ไอ
    • ปวดศีรษะ
    • น้ำมูกไหล
    • เจ็บคอ

    ผลข้างเคียงที่เจอในเด็ก เป็น

    • ไข้
    • ปวดหัว
    • เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวกล้ามเนื้อ
    • น้ำมูกไหล
    • คลื่นไส้
    • หายใจแรงมีเสียงวี๊ดๆ

    คนใดที่ไม่สมควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่?

    กลุ่มชนต่อแต่นี้ไปได้รับข้อแนะนำว่าไม่ควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

    • คนที่เคยมีลักษณะอาการแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่รุนแรงมาก่อน
    • ผู้ที่เคยเป็นกรุ๊ปอาการกิลแลง-บาร์เร
    • ผู้ที่ยังมีภาวะที่ทำให้มีไข้อยู่ (นอกจากหวัดทั่วๆไป)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in