เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
AreVthere. Diamant et Astro อัญมณีดาวอังคาร ภาค เบต้า Arachan

เนื้อเรื่องเกิดขึ้นในอนาคตอันห่างไกล ในยุคที่เรียกว่าโซลัน ช่วงที่โลกได้รับการฟื้นฟูจากกลุ่มมนุษย์ต่างดาวที่เรียกตนเองว่า ชาวดิซ ซึ่งเดินทางเข้ามาในระบบสุริยะเพื่อเก็บเกี่ยวพลังงานจากดวงอาทิตย์ แล้วมาตั้งรกรากรวบรวมชาวโลกที่เหลือ สร้างเมือง ส่งครอบครัวชาวดิซมาปกครอง ใช้ชื่อว่า เจท เป็นผู้นำสูงสุดของดาว เปลี่ยนชื่อโลก เป็นชื่อใหม่ว่า โซลัน. มีการแปลงพันธุกรรมชาวดิซให้เหมากับการอยู่อาศัยและสืบเผ่าพันธุ์กับชนะื้นเมือง เกิดเป็นมนุษย์ลูกครึ่ง ผู้มีดวงตาสีชมพู เป็นประชากรส่วนใหญ่ของดาว ยุคที่ดวงจันทร์คือที่อยู่ของชนชั้นสูง เศรษฐี และผู้นำประเทศหนีสภาพอากาศเลวร้ายไปอยู่ และตั้งเป็นสหพันธรัฐ แบ่งแยกตัวเองเป็นสองฝั่ง ลูนมืด และลูนสว่าง เรียกตนเองว่า ลูน่าซิสเตม โดยมีการเลือกประธานาธิบดีวาระดำรงตำแหน่งห้าปีเป็นผู้ปกครองสูงสุด ยุคที่ดาวอังคารถูกแบ่งแยกตัดขาดจากโลก โดยมีกลุ่มอาณานิคมแรกเริ่ม ตั้งตนเป็นราชวงศ์ปกครอง เรียกว่า ไดม่อน และกลุ่มคนอื่นๆ ตั้งชื่อตระกูล ตามอัญมณี มีการคัดเลือก สมาชิกสภาอัญมณีที่เป็นตัวแทนจากสิบสามตระกูลชั้นแพลทตินั่ม มาเป็นที่ปรึกษาและดำเนินกิจการต่างๆของดาว ใช้ชื่อราชอาณาจักรนี้ว่า ราชอาณาจักรมาร์ส เล่าไปไกลใหญ่โต มาลงเอยที่ การเริ่มเรื่องของ เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ชื่อ เจคอบ. เขาเป็นพลขับยานล่านิมส์ในเขตป่าเบลดิซซิโค่ วันหนึ่งเขาประสบอุบัติเหตุยยานล่านิมส์ตก เขาหลงป่า ก็บังเอิญมีชิ้นส่วนยานอวกาศร่วงลงมา เขาก็เข้าไปดู ก็ได้พบกับเด็กสาวปริศนาคนหนึ่ง นอนหลับอยู่ข้างใน การผจญภัยของเขาจึงได้เริ่มต้นขึ้น ในอนาคตอันไกลโพ้น สงครามทำให้มนุษยชาติเกือบจะสูญสิ้น สภาพของพื้นโลกมีพื้นที่เพียงน้อยนิดที่จะพออยู่อาศัย คนที่มีฐานะร่ำรวย ก็เลือกไปจับจองอยู่บนดวงจันทร์ ที่ซึ่งมีรัฐทหารตั้งอยู่เป็นฐานบัญชาการเดิม บางส่วนก็หนีไปตายเอาดาบหน้าที่ดาวอังคาร ที่ที่มีอาณานิคมเก่าแก่อาศัยอยู่ ทิ้งผู้คนที่เหลือไว้อย่างสิ้นหวัง ชาวดิซใช้เวลารอนแรมไปตามหมู่ดาวต่างๆ เพื่อคนหาดาวเคราะห์ที่เหมาะสมแก่การอยู่อาศัยและขยายเผ่าพันธุ์ พวกเขาเดินทางมาถึงระบบสุริยะ ดวงอาทิตย์มีพลังงานเหลือเฟือสำหรับยานของพวกเขา เพื่อจะได้สำรวจดาวเคราะห์ในระบบ พวกเขาจึงต้องเก็บเกี่ยวพลังงานจากดวงอาทิตย์ให้ได้มากที่สุดด้วยยานอวกาศขนาดหนึ่งในสี่ของขนาดดวงจันทร์ของโลก พวกเขามีความหวังว่าจะได้หยุดการเดินทางไว้ ณ ที่นี่ ทว่า ชาวอานุผู้อาศัยบนดาวนิบิรุ มีวงโคจร 3,600 ปี รอบเนเมซิสดาวฤกษ์แฝดของดวงอาทิตย์ และดวงอาทิตย์ ได้เดินทางเข้าสู่ระบบสุริยะ พวกเขาจะมาเก็บเกี่ยวแร่ธาตุไปสกัดเป็นทองคำสำหรับใช้เป็นพลังงานของดาวนิบิรุ สงครามการแย่งชิงดวงอาทิตย์จึงเกิดขึ้นย่อมๆ ทั้งที่ดวงอาทิย์ก็ดวงใหญ่ แต่ดวยความโลภ ทำให้พวกเขาสู้รบกันอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ แน่นอน คนน้อยย่อมแพ้พ่าย ชาวดิซต้องยอมให้ชาวอานุครอบครองดวงอาทิตย์ตลอด 20 ปีที่พวกเขาโคจรเข้ามาใกล้ดวงอาทิตย์ แล้วชาวดิซก็เลือกที่ จะหลบมายังดาวเคราะห์ดวงที่สามที่มีน้ำและพื้นดิน ....โลก ขณะที่โลกอยู่อย่างสงบ หลังจากบอบช้ำจากสงครามนิวเคลียร์ มนุษย์ส่วนใหญ่ของโลกตายไปเกือบหมด คนที่เหลืออยู่ต่างกระจายตัวตามจุดที่ไม่โดนกัมันตภาพรังสี ส่วนพวกเศรษฐี คนดัง นักการเมือง ราชวงศ์ ผู้รากมากดีมีเงินทั้งหลาย รวบรวมทุน และหอบเอานักวิทยาศาสตร์ วิศวกรที่เก่งๆ ไปสร้างอาณานิคมบนดวงจันทร์ ดาวดวงที่สามเป็นดาวที่มีส่วนประกอบเป็นเหล็ก มีสิ่งมีชีวิตอาศัยทั้งบนพื้นดินและใต้มหาสมุทร พื้นที่บางส่วนแปดเปื้อนรังสี ชั้นบรรยากาศประกอบด้วย ไนโตรเจน 70% ออกซิเจน 20.9% และธาตุอาร์กอน คาร์บอน และอื่นๆ ซึ่งพวกเขาอยู่อาศัยได้ ทั้งนี้ ดาวทองคำ บรรณาการล้ำค่าแห่งมวลมนุษยชาติ ใช้เวลากว่า 3,600 ปี สกัดพลาสม่าบริสุทธิ์บนดวงอาทิตย์หลอมรวมขึ้น เพื่อรอถวายแด่อานุ และการส่งมอบนี้จะนำไปสู่จุดจบอีกครั้งของมนุษยชาติ หรือไม่? อาณานิคมบนดวงจันทร์สร้างเสร็จสมบูรณ์ โดยบริษัทร่วมหุ้นขนาดใหญ่ที่ใช้ชื่อว่า ลูน่าซิสเตม คอเปอเรชั่น สร้างโครงข่ายเมืองใต้ดิน ระบบคมนาคมขนส่ง รวมถึงเกษตรกรรมใต้ดินเพราะถ้ำของดวงจันทร์เต็มไปด้วยดินโบราณ พวกเขาทำการเกษตรในโดมแก้ว รวมถึงระบบชลประทานจากการแปรธาตุ ใครที่อยากไปตั้งรกรากบนดวงจันทร์ ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล ทำให้ประชากรตั้งต้นมีไม่ถึงหมื่นคน ลูนมีกรรมการบริหาร เป็นตัวแทนจากคนกลุ่มต่างๆ ทั้งทหาร ราชนิกูล เศรษฐี ดารา คนมีชื่อเสียง นักการเมือง และผู้นำจากโลก ซึ่งภายหลังกรรมการกลุ่มนี้ได้คัดสรรประธานาธิบดีขึ้นเป็นผู้นำในการปกครอง มีการค้าแรงงานข้ามดาวเกิดขึ้น เนื่องจากไม่มีชนชั้นแรงงานสำหรับทำเหมือง และการผลิตต่างๆ จึงมีการขนแรงงานที่ต้องการมาทำงานที่ลูน เกิดระบบชนชั้นที่ชัดเจนชนชั้นแรงงานเหล่านี้คืกคนจนที่ต้องการหนีจากโลก และต้องการทำงานแลกอาหารรวมถึง ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ห่างออกไป 92 ล้านไมล์ สงครามแย่งดวงอาทิตย์ระหว่างดิซกับอานุ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ยานรบของชาวดิซถูกทำลายไปมากและทรัพยากรร่อยหรอ ชาวดิซที่เป็นชนเผ่าเร่ร่อนจึงยอมล่าถอยไปหาที่หลบพักซ่อมยานและหาทรัพยากรเพิ่ม บังเอิญไปหรือไม่ที่โลกอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะพอดี ชาวดิซที่สะบักสะบอมจึงหนีอานุมาหลบยังดาวสีฟ้าดวงนี้ โลกที่ผู้คนย้ายไปลูนกันเกือบหมดจนแทบจะเป็นดาวร้าง ประชากรเหลือไม่ถึงครึ่งล้าน อาศัยอยู่ในป่าแอฟริกา บางส่วนของเอเชียและ ทางเหนือของอเมริกาเก่า ชาวดิซที่เดินทางมาขุดแร่ไปซ่อมยานแม่และหาอาหาร พบกับมนุษย์ก็พารวมกันมาอยู่ในเขตที่ปลอดภัยบริเวณทะเลทรายแคลิฟอเนีย ตรงนั้นเองกลุ่มชาวดิซชนชั้นปกครองจึงตกลงปลงใจที่จะลงหลักปักฐานที่ดาวดวงนี้ แม้ว่ายานแม่จะซ่อมแซมเสร็จแล้ว พวกเขาใช้ยานแม่เป็นฐานบัญชาการมายังโลก สร้างเมืองหลวงขึ้นใหม่ให้เป็นศูนย์กลางการปกครองและกิจการต่างๆรวมถึง ตั้งชื่อโลกขึ้นใหม่ เป็น โซลัน ซึ่งเป็นภาษาของดิซแปลว่า ดาวเคราะห์ของดวงอาทิตย์ ชนชั้นปกครองบนยานแม่ได้คัดเลือกตระกูลหนึ่งที่ยินยอมพร้อมใจให้ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองโซลัน เรียกว่า เจท เป็นราชวงศ์สืบทอดกันมานับแต่นั้นเนื่องจากชาวดิซ มีสภาพทางชีววิทยาที่ไม่เอื้อต่อการดำรงชีวิตบนโซลัน พวกเขาจึงนำดีเอนเอของมนุษย์มาปลูกถ่าย เพาะ และทดลอง จนชาวดิซที่ปรับพันธุกรรมสามารถอยู่อาศัยบนโซลันได้ ชาวดิซที่ปรับแปลงพันธุกรรมแล้วจึงสามารถสืบเผ่าพันธุ์กับชาวโซลได้ แต่ชาวดิซบริสุทธิ์ ก็ยังคงเลือกที่จะอยู่บนยานแม่เช่นนั้น กลุ่มคนทำงานที่มีความรู้และสติปัญญาหลักแหลมได้เสนอตัวขึ้นเป็นที่ปรึกษาของเจท ใช้ชื่อว่า โซลมาสเตอร์ ถือเป็นตำแหน่งสูงสุดที่โซลธรรมดาจะเป็นได้ในระบบชนชั้นที่เข้มงวดนี้ การคัดเลือกโซลในรุ่นต่อๆมา จึงมีความเข้มงวดคัดเลือกเด็กที่มีสติปัญญาผ่านขั้นตอนต่างๆมากมาย การคัดเลือกนั้นใช้เวลานานและยุ่งย่ากมาก สักสิบปีจึงจะได้โซลมาสเตอร์มาสักคนเมื่อกลุ่มโซลมาสเตอร์รุ่นแรกตายไป รุ่นใหม่ที่ผ่านกระบวนการคัดเลือกก็เข้ามาแทนที่ ในสัดส่วนที่น้อยมาก ชาวโซล กับลูน ต่างคนต่างอยู่กันมานาน หลายร้อยปี เกิดสงครามชิงอำนาจในลูน่าซิสเตม กลุ่มลูนอาร์มี่ มีกองกกำลังที่แข็งแกร่งเข้าปราบกลุ่มกบฎและรวบยึดอำนาจเอาไว้ และสถาปนาตนเหนือลูน่าซิสเตม รวมทั้งยังรวบรวมกองกำลังจากต่างดาวและมาร์สเพื่อสู้กับดิซยืดโซลันคืน​ ​ กลุ่มกบฏลูนเข้ายึดยานแม่ของดิซสำเร็จเป็นครั้งแรก จับสภาดิซเป็นตัวประกัน ทว่าระหว่างนั้นเองที่นิบิรุเคลื่อนผ่านจากใจกลางระบบสุริยะมาใกล้โซล เจทจึงขอเข้าเจรจาให้ช่วยปลดปล่อยยานแม่คืนจากกบฎลูน เนื่องจากทรัพยากรทั้งยานรบและคนมีน้อยกว่าลูนมากนัก สงครามครั้งนั้นทำให้กบฎลูนพ่ายแพ้ไป ผลจากสงคราทำให้เกิดข้อตกลงในการสร้างดาวทองคำ ซึ่งชาวดิซต้องทำตามสัญญา โดยมีเงื่อนไขให้โซลส่งมอบทองคำ ในรูปของแข็ง จำนวน พันล้าน ล้าน ล้าน ตัน เป็นบรรณาการที่ช่วยปลดปล่อยยานแม่จากลูน ด้วยวิทยาการของอานุ ในการสกัดพลาสม่าออกมาเป็นทองคำ ซึ่งพลาสม่าก็มีอยู่บนดวงอาทิตย์มากมายมหาศาลทบรรณาการล้ำค่าสำหรับชาวอานุ ชาวอานุได้ทิ้งยานแปรธาตุทองคำจากพลาสม่าให้กับชาวดิซจำนวนหลายสิบลำ เพื่อให้ชาวดิซขุดแร่ให้พวกเขากระนั้นแล้ว อานุก็จากไปพร้อมนิบิรุปล่อยให้เป็นทาสขุดทองกันต่อไปอีก ไปอีก 3,600 ปี

ALL POSTS
Views