เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[SF] Gumiho | NOMINPrimroseYellow
8
  • 8

     

     

    ชายหนุ่มกลับเข้ามาในบ้านก็พบเข้ากับผู้เป็นแม่ที่ยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่กลางเรือนโดยที่นางไม่ได้แสดงสีหน้ายินดีหรือยินร้ายที่ได้เจอกับเจ้าลูกชายคนเล็ก  “ท่านแม่มารอข้าหรือ”

    “เจ้าไม่ยอมกลับบ้านอีกแล้วพี่ใหญ่บอกแม่ว่าเจ้าไปปราบปีศาจแต่แล้วก็หายไปทั้งคืน เจ้าจะรู้บ้างไหมอีเจโนว่าแม่เป็นห่วงขนาดไหน”

    “ข้าปลอดภัย ท่านแม่อย่ากังวล”

    “แล้วเจ้าไปค้างที่ไหนเหตุใดถึงได้กลับเอาตอนรุ่งสางเช่นนี้”  นางถามพลางลูบกรอบหน้าของลูกชาย  “กลิ่นเจ้าแปลกไป”

    “เอ่อข้าขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะขอรับท่านแม่”  เจโนเดินเลี่ยงออกมาเพราะกลัวผู้เป็นแม่จะได้กลิ่นปีศาจที่ติดตัวเขาและจับได้ในที่สุด

    “บุตรชายเจ้าหายตัวได้หรืออย่างไร ข้าเพิ่งเห็นหลังไว ๆแต่พอเดินเข้ามาใกล้กลับหายไปเสียแล้ว” นายใหญ่ของบ้านเดินเข้ามาหาภรรยาและอดไม่ได้ที่จะเย้าแหย่นางเรื่องเจโน

    “บุตรชายท่านเหมือนกันนั่นแหละเจ้าค่ะ แต่ท่านพี่ข้าได้กลิ่นบางอย่างจากตัวของเจโน แต่ข้าไม่อาจตอบได้ว่ามันคือกลิ่นของอะไร”

    “อย่างนั้นหรือ เจ้าคงจมูกเพี้ยนไปเองแล้วล่ะ”

    “ท่านพี่!”

    “เอาล่ะ ข้าชักจะหิวเสียแล้วสิ เจ้าเตรียมสำรับเอาไว้แล้วสินะ”

    “เจ้าค่ะ”

    “ถ้าเช่นนั้นก็ให้เด็กไปตามแจฮยอนได้เลย”

    “แล้วโดยองล่ะ”

    “รายนั้นยังไม่กลับบ้านเลย นี่เจ้าไม่รู้หรอกหรือว่าลูกชายคนรองของเจ้ายังไม่กลับบ้านตั้งสามวันแล้ว”

    “ตายจริง! ข้ามัวแต่สนใจเจโนจนลืมโดยองไปเลย แล้วลูกหายไปไหนเจ้าคะ”

    “อยู่ในวังหลวง ไว้ค่อยคุยกันตอนทานข้าวนะข้าขอไปคุยกับเจ้าตัวแสบก่อน”

    “เจ้าค่ะ”

     

    เจโนทิ้งตัวนอนลงบนเตียงพลางปล่อยให้ความรู้สึกล่องลอยไปในอากาศเมื่อปลดปล่อยบางอย่างออกไปจากร่างกายก็ยิ่งทำให้ตัวเบาขึ้นและสดชื่นอย่างเหลือเชื่อตามจริงการมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับปีศาจนั้นจะลดพลังชีวิตของเขาลงทีละนิดแต่มันก็ไม่ได้มากพอจนทำให้เขาล้มป่วยเพียงแค่ต้องระวังไม่ให้กลิ่นปีศาจติดตัวมากจนเกินไปเพราะอาการจมูกเพี้ยนของมารดาไม่ใช่เรื่องดีหากพี่ชายคนรองย่างโดยองรู้เข้า

     

    เขาเปิดเปลือกตาขึ้นเมื่อรับรู้ได้จากการมาถึงของบิดา ชายวัยกลางคนก้าวเข้ามาภายในห้องก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่ขอบเตียงโดยที่มีลูกชายนอนอยู่  “เจ้าไปไหนมา”

    “ท่านพ่อคงรู้แล้วเหตุใดถึงยังถามข้าล่ะขอรับ”

    “เจ้าตัดสินใจที่จะทำเช่นนี้แล้วใช่หรือไม่”

    “ขอรับ”

    “ระวังโดยองไว้ให้ดี พี่ชายเจ้ามีอดีตที่เลวร้ายเกี่ยวกับปีศาจจิ้งจอกหากจะทำอะไรก็ต้องรีบจัดการเสียตั้งแต่ตอนนี้ ส่วนนาง...”

    “แจมิน”

    “ส่วนแจมิน มีทางเดียวเท่านั้นคือนางต้องกลายเป็นมนุษย์”

    “ข้ารู้”

    “เจ้ารู้ แล้วจะทำเช่นไร”

    “เมื่อพันปีก่อนนางเกือบจะกลายเป็นมนุษย์แล้วหากแต่ถูกคนรักนามว่าอีเจโนขังเอาไว้ในดาบศักดิ์สิทธิ์”

    “บรรพบุรุษเจ้าช่างโหดเหี้ยม”

    “เพราะเขาไม่เชื่อใจคนรักซึ่งข้าจะไม่เป็นเช่นเขาท่านพ่อเคยพูดไว้ว่าข้าก็คือเขาและตอนนี้ข้าก็รักผู้หญิงคนเดียวกับเขาแต่ข้าจะไม่มีวันทำร้ายนางเพราะนางมีค่ามากกว่าชีวิตของข้าเสียอีก”

    “ข้าดีใจที่ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ เราไม่สามารถฝืนชะตาได้แต่เราเลือกทางเดินของชีวิตเองได้”

    “แต่ข้ามีเรื่องขอร้องท่านพ่อ อย่าบอกเรื่องนี้นี้กับท่านแม่และพี่รองข้าไม่อยากให้ท่านเป็นกังวลและไม่อยากมีเรื่องบาดหมางกับพี่รอง”

    “ย่อมได้”  บทสนทนาจบลงเมื่อบิดาปล่อยให้บุตรชายคนเล็กพักผ่อนตามที่ต้องการส่วนตนเดินกลับออกมาด้านนอกเพราะหากหายเข้ามาพูดคุยกันนานเกินไปภรรยาของเขาคงต้องสงสัยเป็นแน่

     

    เมื่อดวงอาทิตย์ลาลับขอบนภาก็ถึงเวลาของจันทราที่เข้ามาแทนที่แจมินนั่งอยู่ริมแม่น้ำโดยปล่อยให้ความรู้สึกล่องลอยออกไปเพื่อหวังว่าความคิดถึงจะส่งไปหาชายคนรักของตนนางเหม่อลอยจนไม่รู้สึกถึงการมาของแขกที่ไม่ได้รับเชิญเลยแม้แต่น้อยหญิงสาวในชุดฮันบกสีขาวสะอาดตาย่างกลายเข้ามาใกล้ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ

    “และแล้วเจ้าก็กลับมา” แจมินหันขวับไปมอง

    “เจ้า!” ความประหลาดใจคือสิ่งแรกที่นางสัมผัสได้และที่ตามมาคือความโกรธ  “เจ้ายังมีหน้ามาเจอข้าอีกงั้นหรืออารึม!” แววตาสุกสกาวบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่ฉายแววความโกรธ  “หากข้าเป็นเจ้าข้าคงไม่มีหน้ามาเจอเพื่อนที่ต้องรับเคราะห์แทนตัวเองหรอกนะ!

    “ข้าขอโทษจากใจจริงข้าไม่คิดว่าเขาจะทำเช่นนั้นกับในเมื่อพวกเจ้ารักกัน”

    “อารึม... บางครั้งความรักกับหน้าที่มันก็ต้องตัดสินใจเลือกแม้เขาจะผิดที่ไม่ถามไถ่หรือไม่เชื่อใจข้าก็ตาม”

    “แต่เจ้ากลับโกรธข้าทั้ง ๆ ที่ตัวเจ้าเองก็โกหกคนรักเช่นนั้นหรือ”

    “เจ้าไม่เข้าใจ ไม่มีวันเข้าใจ” แจมินลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินกลับไปทางกระท่อม

    “ใช่! ข้าไม่มีวันเข้าใจเพราะข้าไม่เคยรักมนุษย์เช่นเจ้าอย่างไรล่ะ!”  อารึมตะโกนไล่หลัง  “และข้าไม่คิดจะทรยศต่อเผ่าพันธุ์โดยการอยากกลายเป็นมนุษย์เช่นเจ้าด้วยแจมิน!”  นางชะงักเท้าแล้วหันกลับไปมองด้วยความผิดหวัง

    “หากการรักใครสักคนแล้วอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองมันคือการทรยศแล้วล่ะก็...ข้ายอมรับก็ได้ว่าข้ามันไม่ดีเช่นนั้นเจ้าช่วยปล่อยให้ปีศาจเช่นข้าไปได้ไหม อย่าพยายามทำให้ข้าเปลี่ยนใจเพราะมันจะไม่มีวันนั้นต่อให้ข้าไม่เจอเจโนคนปัจจุบันข้าก็อยากเป็นเพียงแค่มนุษย์เช่นเดิม”

    “เจ้าว่าอย่างไรนะ! เจโนคนปัจจุบันอย่างนั้นหรือเขากลับมาเกิดใหม่แล้วกลายเป็นคนรักเจ้าอีกครั้งใช่หรือไม่”

    “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”

    “หึ! เจ้าคิดว่ามนุษย์ยังเชื่อใจได้อีกงั้นหรือ”  อารึมสาวเท้าเข้ามาใกล้แจมิน  “พวกกลับหลอก ไม่ซื่อสัตย์ เห็นแก่ตัวและคิดว่าตัวเองประเสริฐที่สุดน่าขันยิ่งนัก”

    “เจ้าเองก็น่าขันเช่นกัน”

    “เจ้าหมายความว่าอย่างไรแจมิน!”

    “ข้าเข้าใจมาตลอดว่าเจ้าเป็นห่วงข้ากลัวว่าจะโดนมนุษย์หลอกใช้ที่ไหนได้เจ้าเองก็อิจฉาที่ข้ามีความรักจนอยากทำลาย”

    แววตาสั่นไหวเหมือนใบไม้ที่ลู่สายลมของอารึมยิ่งแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่แจมินพูดนั้นคือเรื่องจริง  “จะ..เจ้า”

    “อย่าโผล่หน้ามาให้ข้าเห็นอีก คำว่าเพื่อนของเราจบลงตั้งแต่ที่เจ้าโยนความผิดมาให้ข้าเมื่อพันปีก่อนแล้ว!!!!”  นางเดินกลับเข้าไปภายในกระท่อมและปล่อยให้หญิงสาวยืนนิ่งอยู่ด้านนอกเพียงลำพังโดยที่มีชายหนุ่มอีกคนนั่งมองมาจากบนต้นไม้โดยที่ทั้งอารึมและแจมินไม่รู้ตัว

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป

    #จิ้งจอกโน่มิน

     

    คัมแบคค่ะ55555

    ไม่แน่ใจว่าทุกวันได้ไหมเพราะต้องแก้บนฟิคอีก8เรื่องที่เหลือ

    ฮือออออออ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in