เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
WOF2017: WAT Life Diarylhnlt
00 Before we go
  •            ก่อนเดินทาง อืม ก็ควรจะบอกที่มาก่อนเนาะ เรื่องเกิดจากเพื่อนมาชวนไปโครงการ Work and Travel ที่อเมริกา ทุกคนคงเคยรู้จัก เป็นการไปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเพื่อนต่างชาติ ไปทำงาน และเที่ยวววววว!!! (อันหลังสำคัญสุด/ฮ่าา) ขั้นตอนการสมัครก็เป็นไปตามที่ควรจะเป็นกับเอเจนซี่ แนะนำว่าให้เลือกที่ๆ ไว้ใจได้ มีรีวิวเยอะ ไม่เทเด็กนะคะ ขั้นตอนที่พบเจอส่วนใหญ่คือ 

    1.สัมภาษณ์วัดระดับภาษา ส่วนใหญ่จะให้แนะนำตัว ถามเรื่องราวเบสิคพื้นฐาน เหมือนสอบ speaking กับอาจารย์ฝรั่ง

    2.เลือกงาน ขั้นนี้จงระวังให้มั่น เลือกผิดชีวิตเปลี่ยนนะจ๊ะเด็กๆ จากนั้นเริ่มชำระค่าโครงการและไปสัมภาษณ์กับนายจ้างกัน

    3.ทำวีซ่า ขั้นนี้มีแต่คนกลัว มันก็น่ากลัวจริงๆนะ แต่เอาเข้าจริง ชิวเหลือเกิ๊นนน คุณพระ ชิวจนงงอะค่ะ

    4.จองตั๋ว แพลนทริป แพ็คกระเป๋า เตรียมบิน เย้ๆ


    และด้วยความเด๋อๆ โง่ๆ ของเรา ตัดภาพมาดูของจริงกันดีกว่า 
    1.สัมวัดระดับ - ที่เด๋อที่สุดมันคงจะเป็น...
    A: เธออยากทำงานอะไร เพราะอะไร
    me:  Supermarket because I like .... (เอ่อ เงียบ คิดไม่ออก เอ่ออออ) ...
    I like to ตื้ดๆๆๆๆๆ (ทำท่าพนักงาน7-11แสกนบาร์โค๊ด)
    A: ohhhhh I get it (คิดในใจ รอดตายละกรู)

    2.เลือกงาน - เนื่องจากเอเจนซี่ที่มีขั้นตอนการจองงานคือจะให้ทุกคนกดพร้อมกันตอนเวลา 17.00 ซึ่งโอเคมันก็ต้องใช้ดวงแหละ แน่นอนเราก็จะเด๋อๆ

    เลือกงานครั้งแรก - ต้นเดือนตุลา
    เหย แกรรรรร อุทยานมันน่าสนใจนะ ไว้เรากดอันนี้กันๆ (คุยกับเพื่อน)
    ทำนู่นทำนี่หันมา เฮ้ยยย 17.05 เข้าไปดู งานเต็ม
    โอเค ครั้งแรก: นก

    เลือกงานครั้งที่ 2 - กลางเดือนตุลาก่อนสอบมิดเทอม
    (วันก่อนเลือกงาน)
    A: งานนี้ดีนะ เรทโอเค เมืองไม่น่ากลัว ค่าบ้านถูก กดมั๊ยๆๆ
    me: แต่มันเป็นสวนสนุกนะ กูไม่ชอบอะ กูกลัว
    B: เฮ้ย ไม่เป็นไรหรอก กดไปด้วยกันนี่แหละ
    me: เคๆๆ ไปด้วยกันก็โอเคแหละวะ

    (วันกดงาน)
    17.01 ในกรุ้ปไลน์
    me: มีใครกดได้บ้างอะ นี่ได้food
    A: กดไม่ได้อะ
    B: ลืมกดอะ...
    C: กดได้...
    me: เย้ๆๆๆ
    C: เพื่อนเราไม่ได้อะ เราคงไม่ไปอันนี้
    me: ....

    เมื่อเป็นดังนั้นเราเลยเครียดมาก ไปคนเดียวหรอ หรือจะไปที่อื่น เอาไงดี โทรคุยกับเพื่อนหลายคนมากๆ ไปสิแก แกกลัวสวนสนุกใช่มั้ย นี่ไง แกต้องก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซนของตัวเองนะ โทรไปถามญาติเอายังไงดี เค้าบอกว่า ไปคนเดียวดีกว่านะ เออ คนเดียวก็ได้วะ!!!! 




  • จากนั้น เราก็ไปถึงช่วง สัมภาษณ์งานกับนายจ้าง ซึ่งงานที่เราได้นั้นนายจ้างจะส่งองค์กรแลกเปลี่ยนมาสัมภาษณ์และดูทักษะภาษาอังกฤษของเรา และงานนี้นี่แหละทำให้เราเจอเพื่อนๆ ที่จะไปทำงานที่เดียวกัน เราจึงได้โอกาสทำความรู้จักคนอื่นๆ และมองหาเพื่อนเพื่อขอบินไปด้วยกัน ซึ่งการสัมภาษณ์นั้นไม่มีอะไรเลยแค่ให้แนะนำตัวและถามงานอดิเรกก็จบแล้ว (แบบอ้าว นี่จบแล้วหรอคะ?) จากนั้นนายจ้างจะเปิดวิพีโอพรีเซ้นสถานที่ทำงาน สวัสดิการ และของที่ต้องเตรียมไป  

    3.ทำวีซ่า - สถานฑูตสหรัฐอเมริกาขึ้นชื่อเรื่องความโหด จากการได้ไปสัมผัสนั้นก็รู้สึกว่า เออมันจะขรึมๆนะ แต่ก็ไม่ได้ดุหรอก ตั้งใจฟัง พูดรู้เรื่อง ตอบคำถามได้ ผ่านชิวๆ (แต่อย่างน้อยควรอ่านเอกสารที่เค้าแจกให้นะคะ พวกสิทธิ์ต่างๆ ที่เราได้รับในช่วงเวลาที่พำนักอยู่ในอเมริกา เช่น มีเหตุฉุกเฉินให้โทรแจ้งตำรวจที่เบอร์ 911)

    4.จองตั๋ว แพลนทริป แพ็คกระเป๋า - เครียดสุดคงเป็นอันหลังเพราะเราไม่เคยไปต่างประเทศนานๆ แบบนี้ ก็ถามพี่ที่เคยไปมาว่าอะไรสำคัญๆ แน่นอน .... ผงทำอาหาร!!! และสิ่งที่เราคิดว่าสำคัญมากสุดๆสำหรับมนุษย์คนไทยอย่างเราๆ เลยนะ - ที่ฉีดน้ำพกพา สำคัญจริงๆ นะคะคุณผู้ชมมมม 

    หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อย ก็ไปค่ะ มุ่งหน้าไปอเมริกากัน!!!! 
    See ya WOF&OOF Kansas City, Missouri
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Kasidet Chirdsaguan (@fb1495572793844)
กูฮา I like to ติ้ดๆๆ 555