เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
BTS Interviewspaniiit
ผู้อยู่เบื้องหลังเปิดเผยเกี่ยวกับความสำเร็จของ K-Pop
  •  

    Time: เคป็อปนั้นมีความโดดเด่นในเรื่องระบบเทรนนี่ ซึ่งมีความปรารถนาที่จะเป็น “ไอดอล” เป็นเวลาหลายปีหลังจากที่ถูกแมวมองก่อนจะถูกแนะนำตัวให้กับผู้ชม คุณไปพบเจอและฝึกฝนสมาชิกทั้งเจ็ดคนของ BTS ได้ยังไง?‬
    BangPD: Pdogg หนึ่งในโปรดิวเซอร์ของเราได้นำเทปเดโม่ของ RM มาให้ผมและพูดว่า “นี่คือสิ่งที่เด็กน้อยทำล่ะ” RM [ซึ่งตอนนี้เป็นลีดเดอร์และแร็ปเปอร์] ในตอนนั้นอายุ 15 ปี ผมเซ็นสัญญากับเขาทันที ผมคิดว่าจะรวมตัวเขากับทีมhip-hopไม่ใช่กลุ่มไอดอล แต่เมื่อผมพิจารณาบริบททางธุรกิจแล้ว ผมก็คิดว่าไอดอลของเคป็อปนั้นมีความเป็นไปได้มากกว่า เนื่องจากผู้เข้ารับการฝึกจำนวนมากต้องการที่จะไล่ตามการเป็นHip-hopมากกว่าและไม่ต้องการอยู่ในวงการไอดอลพวกเขาจึงออกไป ในเวลานั้น RM, Suga และ J-Hope ยังอยู่และพวกเขายังคงเป็นเสาหลักในด้านดนตรีของBTSด้วย จากตอนนั้น ผ่านการออดิชั่น เราจึงได้ค้นหาและเพิ่มสมาชิกที่มีคุณภาพเหมือนไอดอลมากขึ้นเข้าไปในกลุ่มครับ


    Time: เมื่อคุณเริ่มก่อตั้ง Big Hit คุณสามารถก้าวลงไปได้หลายเส้นทางมากมายในเพลงป๊อป ทำไมคุณถึงตัดสินใจสร้างกลุ่มไอดอลขึ้นมา?
    BangPD: ในช่วงเวลาที่ผมเริ่มต้นกับบริษัทของผม ยอดขายอัลบั้มทางกายภาพลดลงอย่างกระทันหันและยอดขายดิจิทัลก็มาชดเชยไม่ได้ แต่กลุ่มไอดอลของเคป็อปมีข้อได้เปรียบในการที่พวกเขามีโอกาสมากมายในการกระจายรายได้และแฟน ๆของพวกเขามีความหลงใหลอย่างมากทำให้คอนเสิร์ตสามารถชดเชยยอดขายอัลบั้มที่ลดลงได้ นี่เป็นเวลาที่หลายคนทั่วโลกกำลังพูดว่าสิ่งเดียวที่ทดแทนอุตสาหกรรมดนตรีที่พังยับเยินได้คือการแสดงสด ถ้าผมจะสร้างแบบจำลองการแสดงสดในเกาหลีใต้ผมก็คิดว่ามันคงเป็นกลุ่มไอดอล K-pop ล่ะครับ


    Time: คุณคิดว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้BTS อยู่บนเส้นทางที่ไม่เหมือนใคร?
    BangPD: มันคือความจริงใจ, ความมั่นคงและความสามารถในการรวบรวมความนิยมของสมัยของพวกเขาครับ เมื่อพวกเขา [รวมตัวกันเป็น] กลุ่มไอดอล ผมสัญญากับพวกเขาว่าพวกเขาจะสามารถทำตามเพลงที่พวกเขาต้องการได้ [รวมถึงฮิปฮอป] เพราะมันเป็นฮิปฮอป พวกเขาเลยสามารถแสดงความคิดของพวกเขาได้และเราจะไม่ไปแตะต้องในสิ่งนั้น หากบริษัทรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้เป็นของจริง เราก็จะแสดงความคิดเห็น ผมรักษาสัญญานั้นไว้และเชื่อว่ามันมีผลกระทบครับ โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นเสมอไปที่ศิลปินจะพูดความคิดของพวกเขา แต่ผมเชื่อว่าในเวลานั้น BTS ได้สัมผัสกับสิ่งที่คนหนุ่มสาวจากทั่วทุกมุมโลกกำลังมองหาครับ

    นับตั้งแต่เปิดตัว BTS พวกเขาไม่เคยเปลี่ยนเกียร์หรือมีก้าวที่เปลี่ยนแปลงเลย พวกเขามีความสอดคล้องกัน ผมคิดว่ามันทำให้ผู้คนเชื่อมั่น พวกเขาไม่อายที่จะพูดเกี่ยวกับความเจ็บปวดที่คนรุ่นปัจจุบันได้พบเจอ พวกเขาเคารพในความหลากหลายและความยุติธรรมสิทธิของเยาวชนและคนชายขอบ(ผู้ที่ถูกกีดกันทางสังคม) ผมคิดว่าปัจจัยทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ช่วยพวกเขาครับ


    Time: จนถึงปีนี้ BTS ได้ขายอัลบั้ม (physical album) ได้มากที่สุดในสหรัฐอเมริกา สิ่งนี้บอกอะไรกับคุณ?
    BangPD: กรณีของ BTS นั้นน่าตลกมากสำหรับผมครับ ผมคาดการณ์ไว้ว่ายอดขายทางกายภาพจะลดลงและคิดว่าการแสดงต่างๆและโมเดลของความภักดีจะเป็นทางออก อย่างที่กล่าวเอาไว้เพราะผมเป็นโปรดิวเซอร์เพลงมาก่อน ผมจึงให้ความสำคัญกับคุณภาพของอัลบั้มเป็นอย่างมาก ดังนั้นผมจึงเป็นผู้กำกับการผลิตอัลบั้ม ด้วยเพลงและการสื่อสารที่ดี ยอดขายก็ตามมาได้ อุตสาหกรรม K-pop โดยรวมได้เห็นยอดขายอัลบั้มที่เพิ่มขึ้นซึ่งตรงกันข้ามกับแนวโน้มของตลาดโลก ผมเองก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม แต่ผมเองก็ไม่เชื่อว่าสิ่งนี้จะคงอยู่ตลอดไปครับ


    Time: ทำไม BTS ถึงจัดการกับการกับความสำเร็จที่น่าประทับใจในสหรัฐฯได้ ในขณะที่เคป็อปคนอื่น  พยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้มา?
    BangPD: ผมเชื่อว่าความสำเร็จของ BTS ในสหรัฐฯ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำด้วยโชค มันไม่ใช่เพราะกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมของผมหรือเพราะ ว่าBTS นั้นเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับตลาดสหรัฐฯ มันยิ่งกว่าข้อความของพวกเขาที่สะท้อนกับความต้องการบางอย่างและผ่านสื่อดิจิตอลมันแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และในตอนนั้น BTS ได้ไปสัมผัสบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้รับการกล่าวถึงในสหรัฐอเมริกา วัยรุ่นอเมริกันจึงมีการตอบสนองและมันก็ได้รับการพิสูจน์ผ่านตัวเลข


    Time: หนึ่งในแรงผลักดันครั้งใหญ่ของคุณในปีนี้คือการสร้าง “จักรวาล” ที่คุณสร้างขึ้นสำหรับแต่ละวง เชื่อมโยงแฟน ๆกับศิลปินนอกเหนือจากการแสดงสดและอัลบั้ม ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
    BangPD: ด้วย BTS และแฟนๆไอดอลเคป็อปต้องการเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของไอดอลที่พวกเขารักนอกคอนเสิร์ต แต่ไม่มีสินค้าในตลาดที่ตอบสนองความต้องการนั้นได้ ผมเกลียดการขยายตัวเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของการขยายตัว จะต้องมีการหยั่งรากในเพลง นั่นคือเหตุผลที่ผมทำอย่างนั้น หลายคนเชื่อว่าเพราะไอดอลเคป็อปนั้นมีชื่อว่าเป็น "นักร้อง" นั่นมันเป็นสิ่งเดียวกัน แต่แฟน ๆ ของนักร้องทั่วไป [แตกต่างกัน] พวกเขาอาจไปดูคอนเสิร์ตซื้ออัลบั้มหรือแทร็กหรือซื้อเสื้อยืด แต่แฟน ๆไอดอลเคป็อปต้องการที่จะรู้สึกใกล้ชิดกับไอดอลของพวกเขา BTS เป็นวงเดียวที่มีกำลังขายขนาดใหญ่ทั่วโลกในเกือบทุกประเทศ เป็นผลให้การทำงานกับแฟนด้อมของ BTS เป็นหนึ่งในการบริการที่ใหญ่ที่สุดที่ Big Hit จัดเตรียมให้


    Time: คุณทราบได้ยังไงว่าพวกเขาจะแสดงออกแบบไหนในเพลงของพวกเขา หรือพวกเขาจะนำเสนอตัวเองบนโซเชียลยังไง?
    BangPD: ศิลปิน K-pop โดยมาตรฐานของศิลปินนั้นต้องแสดงทักษะกายกรรมในการแสดงของพวกเขา พวกเขาจะต้องร้องเพลงได้อย่างสมบูรณ์แบบดังนั้นพวกเขาจึงต้องอยู่ในสภาพดี ต้องใช้การฝึกอบรมที่เน้นทักษะในระดับสูง แม้จะเป็นอย่างนั้นแล้วผมก็เชื่อเสมอว่าผู้เข้ารับการฝึกก็ควรเข้าสังคม เมื่อสมาชิก BTS เป็นเด็กฝึกหัดพวกเขามีความขัดแย้งภายในกับพนักงานบริษัทของผมเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียมากมาย [พวกเขาพูดว่า] “มาทางถนนที่ปลอดภัยเถอะ สื่อโซเชียลนั้นทิ้งร่องรอยไว้ซึ่งบางอย่างอาจเป็นอันตรายต่อพวกเขาในอนาคต” นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องยากสำหรับคนหนุ่มสาวที่จะปฏิบัติตามกฎ ดังนั้นจึงมีปัญหานิดหน่อย แต่เพราะผมเชื่อว่ามันถูกต้องที่จะทำผิดพลาดและได้เรียนรู้จากสิ่งเหล่านั้น ผมจึงสร้างระบบการเทรนที่ค่อนข้างอิสระ

    ในบริษัทของเรา เราลงทุนในเรื่องของเวลามากมายเพื่อให้ความรู้แก่ผู้เข้ารับการฝึกเกี่ยวกับชีวิตในฐานะศิลปินรวมถึงโซเชียลมีเดียด้วย หลังจากที่เราให้คำแนะนำแล้วเราก็เลือกที่จะปล่อยให้ศิลปินเป็นตัวเอง และเปิดหน้าต่างเอาไว้เพื่อให้พวกเขาสามารถถามบริษัทถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการได้ ผมคิดว่ามันช่วยให้ความจริงใจเข้าถึงแฟน ๆ ได้ เนื่องจากความสำเร็จของ BTS ผมได้เปลี่ยนระบบฝึกหัดให้เป็นเหมือนโรงเรียนมากขึ้น ด้วยการให้คำปรึกษาและระบบการฝึกสอนและโอกาสสำหรับนักเรียนที่จะทำงานร่วมกัน


    Time: เมื่อเร็วๆนี้ไอดอล K-pop ทั้งในปัจจุบันและในอดีตมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เมื่อคุณเห็นการถกเถียงเช่นนั้นใน K-pop คุณรู้สึกว่าคุณได้ให้เครื่องมือกับ BTS และเด็กฝึกหัดอื่นคน  เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาประเภทนั้นหรือไม่?
    BangPD: ผมไม่แน่ใจครับ ความจริงที่ว่าผมให้อิสระแก่พวกเขามากมายจากการฝึกหัดมาหลายปีและการให้ความรู้แก่พวกเขาเกี่ยวกับความรับผิดชอบสามารถอธิบายได้อย่างสมเหตุสมผลว่ามันมีการป้องกันเรื่องอื้อฉาว แต่เป็นผลของการกระทำครับ ในตอนนี้ระบบเด็กฝึกเป็นสถาบันการศึกษาในบางด้าน ในฐานะทีมเราพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถมอบสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดให้กับศิลปินเหล่านี้ แต่ถ้าจะบอกว่าเราสามารถหลีกเลี่ยงเรื่องอื้อฉาวบางเรื่องในวงการเคป็อปได้นั้นมันแน่นอนเกินไปครับ



    Time: มีการรับรู้ร่วมกันใน K-pop ว่าเพลงนั้นผลิตโดยคณะกรรมการ หรือไม่ก็เป็นระบบจากบนลงล่างของผู้ใหญ่ที่ให้เนื้อหาต่างๆกับศิลปินเด็กๆ นั้นถูกต้องหรือไม่?
    BangPD: ก่อนอื่นเลยผมเชื่อว่าในฝั่งตะวันตกนั้นมีจินตนาการที่ฝังลึกลงไปของร็อคสตาร์ - ร็อคสตาร์ทำหน้าที่อย่างแท้จริงต่อจิตวิญญาณของพวกเขาและทุกคนต้องยอมรับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของความแตกต่างของพวกเขาแต่ละคน และผ่านสิ่งเหล่านั้นเพลงดีๆจึงออกมา แต่ในความเป็นจริงการอุทิศเวลานานในการเสริมสร้างและฝึกฝนทักษะที่เกี่ยวข้องกับดนตรีเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในโลกศิลปะมืออาชีพหลายแห่ง Ballerinas นั้นใช้เวลานานในการแยกออกมา และเน้นเฉพาะบัลเล่ต์ แต่คุณไม่ได้ยินคนพูดว่าบัลเล่ต์ขาดจิตวิญญาณหรือไม่ใช่ศิลปะ ดังนั้นฉผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของมุมมองมากกว่าครับ
    อีกเลเยอร์หนึ่งคือในสหรัฐอเมริกาศิลปินจะทำงานใต้ดินเป็นเวลาหลายปีก่อนจะเซ็นสัญญากับบริษัท ในเกาหลีเวลานั้นถูกใช้ไปกับการเป็นเด็กฝึกหัด ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันอยู่ว่าระบบไหนจะสร้างศิลปินที่ดีกว่าได้ นอกจากนี้ผมเชื่อว่าคำสั่งที่ศิลปินต้องร้องเพลงของตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีอาจไม่เป็นจริงเสมอไป นักร้องเป็นนักแสดงที่สำคัญที่สุดและนักแสดงที่ดีจะสามารถโน้มน้าวใจผู้ชมได้ ผมคิดว่าเมื่อเด็กฝึกหัดใช้เวลามากเกินไปเพียงแค่เน้นทักษะไม่ใช่ประสบการณ์ชีวิต มันจะกลายเป็นความกังวลว่าพวกเขาจะสามารถเป็นนักดนตรีที่มีความเข้าใจในความซับซ้อนของโลกหรือไม่ครับ


    Time: มันสำคัญแค่ไหนที่ศิลปินที่คุณทำงานด้วยมีสาเหตุหรือปัญหาสังคมที่พวกเขาสนใจด้วย BTS ได้มีการเล่าเรื่อง "การรักตัวเองอย่างต่อเนื่อง บวกกับงานของพวกเขากับ U.N. และการเปิดกว้างของพวกเขาในหัวข้อเช่นสุขภาพจิต
    BangPD: ไม่ว่าคุณต้องการพูดถึงประเด็นทางสังคมหรือไม่ มันก็เป็นทางเลือกของแต่ละบุคคล สิ่งที่ผมต้องการสำหรับพวกเขาคือความจริงใจ ในการแต่งแต้มอะไรบางอย่างผมเองก็ไม่สามารถยอมรับได้ แต่ทั้งบริษัทและผมไม่สามารถบังคับศิลปินให้พูดหรือไม่พูดเกี่ยวกับปัญหาสังคมใดๆ โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่าศิลปะเป็นหนึ่งในสื่อที่แข็งแกร่งที่สุดสำหรับการปฏิวัติและผมเองก็ต้องการให้ศิลปินพูดถึงประเด็นทางสังคม พวกเขาพูดออกมาเมื่อพวกเขาต้องการและผมไม่พูดในสิ่งที่พวกเขาควรทำหรือไม่ควรทำ
    ผมคิดว่านั่นเป็นหนึ่งในความเข้าใจผิดที่ผู้คนมีต่ออุตสาหกรรมเคป็อป: ผู้ผลิตสามารถควบคุมศิลปินได้ เราไม่สามารถทำแบบนั้นได้ครับ เมื่อศิลปินต้องการแสดงออกบางอย่าง ผมเชื่อว่าบทบาทของผมคือการปรับแต่งข้อความในลักษณะที่แสดงออกถึงความจริงใจและมีคุณค่าทางการค้ามากกว่าครับ


    Time: คุณได้พูดถึงเรื่อง "ร็อคสตาร์ในสหรัฐอเมริกา มันอาจดูเหมือนว่าศิลปินได้รับการชื่นชมจากความดื้อรั้น มีคุณค่ามากมายเกี่ยวกับความเป็นอิสระและต่อสู้กับ ระบบ” คุณคิดว่าในบริบททางวัฒนธรรมของเกาหลีใต้มีการเคารพศิลปินและผู้บริหารมากขึ้นหรือไม่?
    BangPD: ผมคิดว่าวัฒนธรรมเอเชียและวัฒนธรรมตะวันตกแตกต่างกันอย่างแน่นอนครับ แต่ถ้าเราจะพูดถึงวิธีการที่มีอิทธิพลต่อการแสดงการประท้วงต่อสังคม - เกาหลีใต้มีการปฏิวัติจำนวนมาก แต่ในแง่ของความสัมพันธ์ส่วนตัวคุณเคารพผู้อาวุโส เป็นการยากที่จะเทียบโดยการพูดออกมา หรือพูดว่าศิลปินตะวันตกเป็นแบบนี้และศิลปินเอเชียก็เป็นแบบนี้ แต่โดยทั่วไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับศิลปิน K-pop ศิลปินและบริษัทต่างๆ พยายามหาทางที่จะเสี่ยงน้อยที่สุดครับ
    แต่ถ้าพูดถึงการต่อสู้กับระบบ: ศิลปินชาวอเมริกันหลายคนร่วมมือกับผู้บริหารของพวกเขาตราบใดที่พวกเขาออกไปเพื่อไล่ตามดนตรีที่พวกเขาต้องการ เมื่อเร็วๆ นี้ศิลปินหลายคนไม่เซ็นสัญญากับบริษัทใหญ่ เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้น ผมไม่คิดว่ามันเป็นคำสั่งที่ต่อต้านระบบนะครับ ในความเป็นจริงศิลปินตะวันตกน้อยคนนะที่จะพูดถึงปัญหาสังคมเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน


    Time: คุณได้ให้โอกาสเมมเบอร์ BTS ในการเผยแพร่ผลงานเดี่ยวด้วยเช่นกัน นั่นทำให้พวกเขาแตกต่างจากk-popหรือเปล่า?
    BangPD: ผมไม่คิดว่าเอกลักษณ์ของพวกเขามาจากความเป็นอิสระ ไอดอลเคป็อปหลายคนคิดเกี่ยวกับการโซโล่ เมื่อพวกเขาประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง พวกเขาจะหารือกับผู้บริหารและทำการโซโล่ ไม่ใช่ว่าพวกเขาทำเช่นนี้เพราะ Big Hitให้อิสระมากขึ้น สิ่งที่โดดเด่นที่นี่คือ Big Hit ไม่ได้ทำการโซโล่ เราเน้นภาพลักษณ์ของทีม แต่แน่นอนว่าสมาชิกแต่ละคนนั้นมีตัวตนเป็นของตัวเอง ดังนั้นเราจึงสนับสนุนการทำมิกซ์เทปและเพลงปล่อยฟรีซึ่งทำให้ศิลปินรับความรับผิดชอบน้อยกว่าการโซโลอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเราเริ่มใช้วิธีการนี้ บริษัทจำนวนมากจึงเริ่มทำตามด้วยการทำมิกซ์เทปที่ไม่เป็นทางการหรือเพลงปล่อยฟรีนอกเหนือจากการโซโล่เดี่ยวอย่างเป็นทางการ ผมเชื่อว่าในทางใดทางหนึ่ง Big Hit ได้ช่วยยกระดับของตลาดวงการเพลงครับ


    Time: คุณเพิ่งรับ Source Music เข้ามาและแสดงความสนใจในการจัดตั้งเกิร์ลกรุ๊ป มันจะเป็นอย่างไร?
    BangPD: เกี่ยวกับ [Source Music] GFriend พวกเขาได้เปิดตัวคอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยมมาแล้ว สิ่งที่เราพยายามทำคือปรับแต่งและปรับปรุงเนื้อเรื่อง แนวความคิดเพื่อที่ว่าเมื่อพวกเขากำลังทำโปรเจ็กต์ต่อไปพวกเขาจะเข้าใจว่าพวกกำลังมาถึงรูปแบบใหม่แล้ว พวกเรากำลังจะโปรโมตการออดิชั่นให้กับวงเกิร์ลกรุ๊ปกับพวกเราและ Source Music เช่นเดียวกับดิสนีย์ - อนิเมชั่นภาพยนตร์ครอบครัว Marvel and Star Wars - ผมกำลังพยายามหาส่วนแบ่งทางการตลาดในขณะที่ยังคงรักษาคุณประโยชน์ของ K-pop เอาไว้ด้วยครับ


    Time: สิ่งหนึ่งที่เรายังไม่ได้กล่าวถึงเลยคือ ARMY (ชื่อแฟนคลับของผู้สนับสนุนตัวยงของ BTS ทั่วโลกคุณกำลังวางแผนมากมายที่จะข้องเกี่ยวกับแฟนๆ ตั้งแต่การพัฒนา Weverse (แอพแฟนๆและ Weply (แพลตฟอร์มe-commerse) ไปจนถึงภาพยนตร์ แฟนๆ BTS และผู้ติดตาม Big Hit ควรมองหาอะไร?
    BangPD: ก่อนอื่นเลยอัลบัมต่อไป มันดีขึ้นครับอย่างที่คุณทราบ หลายคนกำลังบอกว่า BTS นั้นเป็น The Beatles ในยุคของ Youtube หรือว่าพวกเขาคือ The Beatles ในศตวรรษที่ 21 ผมรู้สึกว่าพวกเขายังไปไม่ถึงขนาดนั้นครับ แม้ว่าผมจะรู้สึกเป็นเกียรติ แต่ผมเชื่อว่ามันมีความหมายแฝงอยู่ในชื่อนี้ซึ่งก็คือ BTS สามารถสร้างแฟนด้อมระดับโลกซึ่งหาได้ยากมาก ผ่านแฟนด้อมขนาดใหญ่นั้นสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบของการค้าขายได้ พวกเขากำลังสร้างรูปแบบการสื่อสารใหม่ๆ และบางครั้งพวกเขาได้รวบรวมความนิยมของสมัยและสร้างข้อความดนตรีใหม่ๆ ดังนั้นด้วยวิธีนี้มันจึงย้ำเตือนให้นึกถึง The Beatles ครับ
    ผมหวังที่จะปกป้องตำแหน่งที่มีเกียรตินี้และความเป็นบุคคลสำคัญอย่าง The Beatles ที่ยังคงเหลืออยู่ การจะไปถึงที่จุดนั้น มันคงจะดีถ้า BTS ยังคงสามารถเป็นที่ยอมรับในเวทีระดับโลกที่สำคัญได้ มันคงจะดีถ้าได้รับรีแอคชั่นจากแกรมมี่ ARMY รอคอยการแสดงของ BTSมาอย่างยาวนานที่ Grammys ผมโชคดีที่ได้เป็นสมาชิกของ Academy ดังนั้นผมชอบที่จะพูดคุยเรื่องนี้กับ Grammys [ทีม] เพราะผมเชื่อว่าเรามีบางสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ในการสนับสนุนครับ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in