กับเรื่องนี้ตัวเราได้ทั้งอ่าน ดูเวอร์ชั่นภาพยนตร์และเวอร์ชั่นซีรี่ส์ 
แรกเลยก็คือดูเวอร์ชั่นที่ลุงจิมเป็นเคานท์โอลาฟที่ช่อง FOX 
ต่อมาก็ได้อ่านเพราะตอนนั้นพี่พนักงงานที่ตึก Double A Book Tower แนะนำให้
ไม่กี่ปีต่อมา Netflix ก็ประกาศว่าจะนำเรื่องนี้มาทำเป็นซีรี่ส์
ทั้ง 3 เวอร์ชั่นถูกปล่อยออกมาให้ได้ดูได้ชมในเวลาไล่เลี่ยกัน (สำหรับเราน่ะนะ555) ไม่ต้องรอนานไป ไม่ทรมานมาก เพราะเราก็อ่านหนังสือไปเรื่อยๆไม่ครบ 13 เล่มซักทีจนเขาทำเป็นซีรี่ส์ออกมา
ในเมื่อเห็นมันทั้ง 3 เวอร์ชั่นแล้วก็ชอบมันทุกเวอร์ชั่นก็เลยอยากจะมาหวีดซักหน่อย555 แล้วก็เป็นการบันทึกข้อมูลเท่าที่เรารีเสิร์ชมาได้ไว้ด้วย (เผื่อกลับมาอ่านของตัวเองทีหลังจะได้ เอ๊อ ทำดีว่ะหาข้อมูลเอาไว้แบบนี้555) 
อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กกำพร้า 3 คนคือ ไวโอเล็ต เคลาส์ และซันนี่ ที่พบว่าพ่อแม่ถูกย่างไปพร้อมกับคฤหาสน์โบด์แลร์ จากนั้นพวกเขาก็ถูกส่งให้ไปอยู่กับญาติห่างๆ เคานท์โอลาฟ นักแสดงผู้หลงตัวเองกว่าใครในโลกหล้า โดยมิสเตอร์โพ นายธนาคารผู้จัดการเรื่องมรดกของบ้านโบดแลร์ จนเกิดเรื่องวุ่นวาย คอขาดบาดตายและมีแต่ความโชคร้ายเรื่อยมา แต่ความสนุกกอยู่ตรงโชคร้ายนี่แหละ หึๆ
Book Version
แบบหนังสือมีด้วยกันทั้งหมด 13 เล่ม มีชื่อภาษาไทยว่า 'อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย'                       Author : Lemony Snicket เป็นนามปากกาของนักหนังสือพิมพ์ชาวอเมริกันคุณ Daniel Handler       Publisher : Harper Collins (อเมริกา) Nanmeebooks (ไทย)
A Series of Unfortunate Events Books
- The Bad Beginning   ลางร้ายเริ่มปรากฏ
 - The Reptile Room   ห้องอสรพิษชวนผวา
 - The Wide Window   บ้านประหลาด
 - The Miserable Mill   โรงงานเขย่าขวัญ
 - The Austere Academy   โรงเรียนสั่นประสาท
 - The Ersatz Elevator   คฤหาสน์อาเพศ
 - The Vile Village   หมู่บ้านสานย์
 - The Hostile Hospital   โรงพยาบาลวิปริต
 - The Carnivorous Carnival   เทศกาลระทึกขัวญ
 - The Slippery Slope   หน้าผาวิปโยค
 - The Grim Grotto   ถ้ำทะมึน
 - The Penultimate Peril   หายนะก่อนปิดฉาก
 - The End   จุดจบ
 
เราว่าสำนวนการเขียนของพี่เลม่อนกวนตีนดี ทำเป็นห้ามไม่ให้อ่าน เอาหนังสือไปทิ้งซะ นังบ้า ซื้อมาตั้งกี่บาทจะมาให้ทิ้ง และพี่ม่อนยังสอดแทรกความรู้ต่างๆเพิ่มเข้ามาตลอดด้วย อย่าง Anagram ก็รู้จักเพราะเรื่องนี้ ภาษาเยอรมัน Wunderkind ก็รู้เพราะเรื่องนี้ อ่านเรื่องเดียวได้ความรู้รอบด้านเลย ยิ่งถ้าได้อ่านภาษาอังกฤษนะ เราว่าคงแน่นทั้งภาษากับความรู้ทั่วไปเลยแหละ เซ็ตเดียวคุ้มมาก 
Movie Version
เป็นภาพยนตร์ในปี 2004 โดยเป็นภาพยนตร์ดัดแปลงจากหนังสือในชื่อเดียวกัน แต่เนื้อหาในภาพยนตร์ใช้เนื้อเรื่องจากหนังสือน่าจะ 3  เล่มแรก(ลืมๆไปบ้างแล้ว แหะๆ) ก็จะเป็นตอนที่พวกเด็กๆต้องไปอยู่กับเคานท์โอลาฟแล้วความโชคร้ายก็เริ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงตอนที่ไปอยู่กับผู้ครองคนใหม่อย่างลุงมอนตี้และป้าโจเซฟีน ตอนจบของหนังก็เลยเหมือนจะไม่จบเพราะถ้าทำเรื่องเดียวแล้วใช้ 13 เล่มเลยหนังก็น่าจะยาวกว่า Lord of The Ring สามภาครวมกันอีก
Series Version
เป็นซีรี่ส์จำนวน 8 ตอนที่ฉากผ่านทาง Netflix ในซีซั่นแรกใช้เนื้อหาในหนังสือจาก 4 เล่มแรก เนื้อหาในหนึ่งเล่มจะแบ่งเป็น 2 ตอน เป็นเพราะเวอร์ชั่นนี้เป็นซีรี่ส์ข้อมูลอะไรที่มีหนังสือจึงใส่ได้มากกว่าในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ ก็คือเวอร์ชั่นซีรี่ย์นี้เป็นการเอาตัวอักษรในหนังสือมาถอดเป็นภาพได้ครบถ้วนแบบว่าเป๊ะทุกฉากเลย แต่ก็มีการใส่กิมมิคอื่นๆเข้ามาด้วย ทำให้ตัวซีรี่ส์ยิ่งดูน่าสนใจไปอี๊ก 
Movie VS Series
การเอานู่นมาเปรียบนี่เป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ก็จะทำ5555 ที่จะเทียบดูไม่ใช่ว่าจะดูว่าอันไหนดีกว่ากันเพียงแต่มันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยอยากเอามาเม้าท์ 
- อย่างแรกก็คือเนื้อหาใส่เข้าไป ก็นะเป็นเพราะเวลาในหนังกับในซีรี่ส์มันไม่เท่ากัน ในหนังเลยเหมือนจะไม่ค่อยถูกใจแฟนหนังสือเท่าไหร่ เหมือนใส่ไปได้ไม่ครบ แต่ทางด้านซีรี่ย์นี่ โห!!! แน่นมาก ยังเพิ่มเติมอะไรเข้าไปได้อีกอะ ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์คือการดัดแปลง ส่วนในเวอร์ชั่นซีรี่ส์คือการถอดแบบ คิดว่านะ แหะๆ 
 - ฉากและโทนสีในเรื่อง คิดว่าในหนังมันจะดูฟุ้งๆหน่อยซึ่งสวยดี ส่วนในซีรี่ส์จะเป็นโทนดาร์กกว่า ทึบๆ หม่นๆ น่ากลัวๆ ดูแล้วสยดสยองกว่าในหนัง แต่พวกฉากบ้าน อาคาร สถานที่อะไรนี่งามไม่แพ้กันเลย โดยเฉพาะห้องสมุดของผู้พิพากษาสเตราส์ หนังนี่เหมือนฟ้าหลังฝนตกแต่ซีรี่ย์เหมือนพายุจะเข้า ฝนกำลังตั้งเค้าเลย 
 - ชุดก็คล้ายๆกันเลยคือ สวยยยยย ชุดแต่ละคนเท่มาก โทนสีชุดเข้ากันกับฉากดี แต่เวอร์ชั่นซีรี่ส์ชุดเยอะกว่า เพลินตามาก
 - นักแสดงทั้งสองเวอร์ชั่นคือแสดงได้ดีหมดนะ แต่ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์รู้สึกจะมีแต่นักแสดงคนขาว ต่างกับเวอร์ชั่นซีรี่ย์ที่มีนักแสดงหลากหลายกว่า อย่างลุงมอนตี้มีเชื้ออินเดียงี้
 
สำหรับเราแล้วชอบทุกแบบ แม้ในหนังสือคุณเลม่อนจะชอบคะยั้นคะยอให้คนอ่านวางหนังสือลงเถอะ แบบหนังแบบซีรี่ส์ก็ให้ไปดูเรื่องอื่นซะ แต่ฉันจะดู๊!!! อย่าลืมไปหาดูหาอ่านกันอีกซะรอบสองรอบเด้อ
 
				 
			
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in