เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
TALK with Mr. NelsonBenz Thanachart
01: เจอผีไทยครั้งแรก

  • First Time with Thai Ghost เจอผีไทยครั้งแรก

     
    เบ๊น: ทำไมคุณถึงสนใจเรื่องผีสางของเมืองไทย?
    เนลสัน: ผมชอบเรื่องเหนือธรรมชาติอยู่แล้ว พอได้เดินทางมาเมืองไทย ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความเซอร์เรียล ผมเลยอยากรู้ว่าผีที่ปกติก็เซอร์เรียลอยู่แล้ว จะเซอร์ได้ถึงขนาดไหน


    เบ๊น: ลุงทำความรู้จักกับผีไทยจากไหนเป็นแห่งแรก? หนังผี?
    เนลสัน: การ์ตูนผีห้าบาทก่อนเลย ราคาถูกดี แถมอ่านแล้วติดหนึบ ผมชอบมากเพราะเป็นการ์ตูนที่มีความแอ็กชั่นสูง มีคนตายทุกตอน แล้วเหตุผลหรือโมติเวชั่นนี่ไม่ต้องเยอะ บางทีแค่ไปฉี่รดต้นไม้ ตัดมาอีกช่องนึง โดนบีบคอตายแล้ว เหนือความคาดหมายสุดๆ เซอร์เรียลยิ่งกว่าการ์ตูนของ Joan Cornella

    อีกอย่างที่ผมชอบคือ มันสอดแทรกเรื่องผีไทยแบบ Traditional กลับกันถ้าไปดูหนังผีไทย ส่วนใหญ่จะเป็นยุคผีในยุค Contemporary หมดแล้ว  


    เบ๊น: คิดยังไงกับผีไทยแท้ดั้งเดิม?
    เนลสัน: ผีไทยมีความครีเอตสูงไม่ต่างจากคนไทย ผีที่บ้านไอนี่ชิดซ้ายไปเลย อย่างหมาป่าหรือแดรกคูลาน่าเบื่อมาก แค่โผล่มาก็เดาได้ทุกอย่างแล้ว แต่ผีไทยนี่โคตรเซอร์ไพรส์

    ผีตัวแรกที่ผมรู้จักคือกระหัง 

    โห เห็นครั้งแรกก็อิมแพคทันที วิชวลดีมาก แต่งชุดไทยเดิมเรียบง่าย เปลือยท่อนบนโชว์ซิกซ์แพ็ค บินได้ด้วยอุปกรณ์ทำครัว แถมยังมีการ Challenge ตัวเองด้วยการหนีบอะไรก็ไม่รู้ที่หว่างขา ซึ่งไอยังงงอยู่เลยว่า จะเอาไปถ่วงไว้ทำไม ไม่มียังจะบินง่ายกว่า หรือเพราะแกต้องการฝึกฝนกล้ามเนื้อส่วนควอดริเซ็ปส์ (Quadriceps) อันนี้ผมกำลังหาข้อมูลเพิ่มเติม


    เบ๊น: โอ้ ดูคุณจะศึกษาอย่างเอาจริงมากๆ
    เนลสัน: เวลาผมเจออะไรที่น่าทึ่งก็มักจะลงลึกแบบนี้ ซึ่งกระหังก็พีคจริงๆ 

    นอกจากเรื่องรูปลักษณ์ ผมยังสนใจเรื่องความสามารถในการบินด้วยอุปกรณ์ทำครัวของกระหัง เพราะถ้าว่ากันตามหลักแล้ว รูปทรงของกระด้งไม่มีคุณสมบัติเป็นแอโรฟอยล์ (Aerofoil) อย่างปีกเครื่องบินหรือปีกนก ดังนั้นกระด้งจะไม่ทำให้เกิดแรงปฏิกิริยาตามกฎข้อที่สามของนิวตัน และยังทำให้แรงยกที่เกิดขึ้นต่ำ มีแรงเสียดทานสูงเกินกว่า...


    เบ๊น: เอ่อ ผมว่าลุงจริงจังเกินไปแล้ว...
    เนลสัน: ยังไม่หมด สมมติว่าปีกกระหังมีรูปทรงเป็นแอโรฟอยล์ ผมลองนำหลักการของแบร์นูลลี (Bernoulli’s Principle) มาประยุกต์เป็นสมการแรงยกไว้ดังนี้ (ยกไวท์บอร์ดขึ้นมา)
    https://lh5.googleusercontent.com/g6v9mt0OY16BRPu3DjqQ1fUxHRid0hz1z_stn8NMLPVOrGVwoblp-jnzKM9sJi3faRLtZ-nq13Act2m9Qv5jVfIgyFZ00fi2U1oeI61xRpejYz-P8a1TuEK_uQb5jjBD8A

    เบ๊น: ลุงครับ พอแล้ว
    เนลสัน: ก็ได้


    เบ๊น: เรามาพูดเรื่องผีไทยตัวโปรดของคุณดีกว่า
    เนลสัน: ผมชอบกระสือที่สุดเลย


    เบ๊น: ทำไมครับ
    เนลสัน: กระหังต้องการปีกเพื่อบินตามหลักของฟิสิกส์ เปรตมีปากเล็กจึงส่งเสียงร้องค่อนข้างสูง ก็ถือว่าถูกต้องแล้วตามหลักกายภาพ แต่กระสือฉีกกฎเกณฑ์ทุกอย่างของมนุษย์ 

    กระสือหลุดพ้นจากทุกตำรา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ก็ไม่สามารถให้คำจำกัดความมันได้ กระสือถอดหัวและอวัยวะภายในออกมาจากตัวได้อย่างปลอดภัย ชนิดที่ว่า ศัลยแพทย์ของ MIT ควรมาศึกษาเป็น Case Study แถมไส้กระสือยังมีปฏิกิริยาเรืองแสงได้ยาวนานโดยไม่ต้องอาศัยแหล่งพลังงาน ซึ่งเทคโนโลยีแบบนี้นาซ่ายังได้แต่ฝัน

    แต่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือกระสือบินได้โดยไม่ต้องอาศัยแรงแอโรไดนามิก หัวกับไส้ลอยได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอะไรเลย! ผมเรียกมันว่า Minimal Aviation หรือการขับเคลื่อนทางอากาศยานแบบน้อยชิ้น 

    อาจเรียกได้ว่ากระสือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในประวัติศาสตร์การบินของมนุษย์ ถัดจากเครื่องบินของสองพี่น้องตระกูลไรต์ ยานวอสตอค 1 ของ ยูริ กาการิน (Yuri Gagarin) และกระหังได้เลย


    เบ๊น: ไม่นึกมาก่อนว่าผีบ้านไอจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้
    เนลสัน: ความสุดยอดของกระสือยังไม่จบ เพราะนอกจากกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว กระสือยังอยู่เหนือหลักการทางจิตวิทยาด้วย


    เบ๊น: อย่างไรครับ?
    เนลสัน: คิดดูว่าถ้าผมมีความสามารถอย่างกระสือ เช่น บินได้ด้วยน้ำหนักเบา ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากการเผาไหม้ใดๆ หรือสายตาที่มองเห็นได้ในเวลากลางคืน ผมคงดีใจคุมสติไม่อยู่และเหาะเหิน ท่องเที่ยวไปทั่ว 

    ผมคงบินไปดูทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโด บินไปดูพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่เรคยาวิก หรือบินไปดูแสงเหนือออโรราที่แฟร์แบงก์สในอลาสก้า แต่กระสือไม่สนอะไรพวกนี้เลย กระสือสุขุมและมักน้อยมาก พอ Take Off จากร่าง เธอก็บินไปกินขี้เลย หักมุมสุดๆ! คือถ้าจะกินขี้เนี่ย เดินลงไปกินก็ได้มั้ง ไม่เห็นต้องถอดหัว หรืออาศัยพลังวิเศษอะไรเลย
     
    ยูเคยได้ยินที่สไปเดอร์แมนพูดว่า “Great power comes with great responsibility” ไหม?

    กระสือบอก “Fuck you Spiderman, I’m just gonna eat shit.”


    เบ๊น: ฟังคุณพูดเรื่องผีสางอย่างอินจัดมาตั้งนาน อยากถามว่าแล้วตัวคุณอยากเจอผีที่เมืองไทยสักครั้งไหม
    เนลสัน: ผมเคยเจอแล้ว


    เบ๊น: หา? จริงเหรอ
    เนลสัน: จริง


    เบ๊น: ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย
    เนลสัน: ปีก่อนผมไปเที่ยวเมืองไทยและเข้าพักที่โรงแรมเล็กๆ ในต่างจังหวัด อยู่ๆ กลางดึกผมก็รู้สึกตัวตื่น เหลียวมองไปที่ปลายเตียง ‘เธอ’ ก็ยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว เห็นครั้งแรกผมผิดหวังมาก


    เบ๊น: ทำไมล่ะ?
    เนลสัน: เธอไม่มีอะไรเหมือนผีไทยที่ผมอุตส่าห์ศึกษามาเลย เธอมาในแบบสมัยนิยม ผมยาว เสื้อขาว ตัวซีด ผมเข้าใจแหละ ว่าคนไทยชอบตามแฟชั่นเกาหลี-ญี่ปุ่น แต่ไม่นึกว่า ผีไทยก็เอากับเขาด้วย

     
    เบ๊น: เฮ้ย ใจคอไม่คิดจะตกใจเลยเหรอ
    เนลสัน: ไม่เลย เอาจริงๆ ผมดีใจด้วยซ้ำ 

    จะบอกอะไรให้นะ ถ้าคุณยังหนุ่มยังแน่นคุณก็อาจจะกลัวผี แต่สำหรับคนแก่อายุแปดสิบอย่างผม การเจอผีก็เหมือนได้ดูเทรลเลอร์ของอนาคตตัวเอง 

    ส่วนผี เธอเห็นท่าทางเริงใจของผมก็คงงงๆ แต่ก็พยายามคีปลุค สักพักเธอก็เริ่มพูดเสียงยานคาง น่ากลัว ประมาณว่า “ฉัน...สิง...อยู่...ที่...นี่...มา...นาน...แล้ว”


    เบ๊น: แล้วคุณทำยังไง
    เนลสัน: ผมบอก “โอ๊ย เดี๋ยวนี้ภาษาไทยผมไม่ค่อยแข็ง พูดภาษาอังกฤษได้ไหม” เธอมีท่าทีกระอักกระอ่วนเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ พูดว่า “I was here for so long and…” แล้วอยู่ๆ เธอก็หยุดไปสักพักและก็พูดใหม่ “I have been here for so long” 

    ผมเลยบอกผีว่า “ยูใจเย็นๆ นะ ยูเป็นผี ไม่ต้องกังวลเรื่อง Present Perfect มากหรอก ยูจะพูดอะไรก็ได้ ผมพร้อมฟังอยู่แล้ว ยูเป็นผีนะเว้ย” จากนั้นเธอก็ยิ้มๆ และดูผ่อนคลายขึ้น เธอค่อยๆ เล่าเรื่องราวให้ผมฟังว่ามาจบชีวิตที่นี่ได้อย่างไร ผมกล่าว “Sorry to hear that” เพื่อแสดงความเสียใจกับเธอ และถามว่า มีอะไรที่ผมช่วยเหลือได้ไหม เธอขอร้องให้พรุ่งนี้ผมช่วยทำบุญกรวดน้ำให้เธอหน่อย ผมบอก โอเค สบายมาก สิ้นประโยคเธอก็ยิ้ม กล่าว “Thank you very much” และหายไป


    เบ๊น: ความรู้สึกต่อเหตุการณ์ครั้งนั้น
    เนลสัน: โห ประทับใจมาก คือถ้าไอเจอผีฝรั่งคงต้องไปเรียก Exorcist มาปราบให้วุ่นวาย แต่กับผีไทย เราสามารถรับมือกับเขาบางตนได้ด้วยตัวเอง จะทำบุญ กรวดน้ำ หรือสวดมนต์ก็ว่าไป ถือเป็นการเผชิญกับผีแบบ DIY มาก 

    เอ้อ พูดถึงขอส่วนบุญ ผมอยากจะให้คำแนะนำผีไทยอย่างหนึ่งว่า ถ้าคุณเป็นผีและอยากได้ส่วนบุญจากคนแปลกหน้า คุณควรหาวิธี Approach เป้าหมายคุณเสียใหม่ คือพวกผีที่มีความแค้นส่วนตัวจะหลอกหลอนคู่กรณีของคุณก็ทำไปเถอะ แต่กับคนแปลกหน้าแบบกรณีผมเนี่ย ปรากฏตัวมาดีๆ ก็ได้ แทนที่จะหลอก ผมขอแนะนำให้ทำ Q&A แทน คือคิดให้ดีสิ คุณเป็นผี คุณเป็นพวกเหนือโลก คุณรู้อะไรที่มนุษย์ไม่รู้เยอะแยะเลย แล้วพวกเราเองก็มีคำถามอยู่ในใจเต็มไปหมด เช่น หวยงวดหน้าออกอะไร สวรรค์-นรกมีจริงไหม มนุษย์ต่างดาวอยู่ที่ไหน ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารเจเอฟเค สถานการณ์การแทรกแซงยูเครนตะวันตกของสหรัฐฯ จะจบลงอย่างไร ฯลฯ แต่คุณต้องไม่ทำให้เขาตกใจ คุณปรากฏตัวดีๆ ง่ายๆ ก็ได้ จากนั้นคุณก็บอกอัตราแลกเปลี่ยนเลย สวดมนต์ให้หนึ่งคำถาม กรวดน้ำให้สองคำถาม ส่วนตักบาตรหรือสังฆทานนั้นต้องดูตามน้ำหนัก แค่นี้รับรองคุณได้บุญเพียบ เห็นไหม ได้ผลกว่าการหลอกหลอนอีก คุณต้องคิดบ้าง คุณเป็นผีสมัยใหม่แล้ว ต้องทำตัวมีเหตุผล มี Logic ไม่ใช่เซอร์เรียลแบบกระสือกินขี้


    เบ๊น: งั้นถ้าผมย้อนถามคุณว่า ในตอนเจอผีครั้งที่แล้ว ถ้ามีโอกาสคุณอยากจะถามอะไรกับผีสาวตนนั้น
    เนลสัน: ทำไมกระหังแม่งบินได้โดยไม่ต้องใช้ปีกแอโรฟอยล์…

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in