เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
2019 vibesmWolf
Sharon Van Etten - Remind Me Tomorrow (2019)


  • Sharon Van Etten - Remind Me Tomorrow (2019)

    indie pop , synthpop , singer/songwriter

    8.5/10


    การกลับมาหลังจากหายไป5ปีของศิลปินsinger/songwriterที่เราหลงรักจากความเข้มข้นหนักหน่วงของห้วงอารมณ์ที่เธอถ่ายทอดออกมาผ่านเสียงร้องและซาวน์ดนตรีfolk/alternative หลังจากพักไปใช้ชีวิต ให้เวลากับตัวเอง ความสัมพันธ์ และครอบครัวอัลบั้มใหม่นี้เป็นเหมือนการมองย้อนกลับไปสังเกตและสำรวจเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยตัวตนที่เติบโตขึ้น สะท้อนมองว่าเรื่องราวเหล่านั้นทำให้เธอเติบโตมามากแค่ไหนผ่านซาวน์ของอัลบั้มที่ผลิกจากดนตรี folkมาเป็นซาวน์ที่หนักด้วยซินธ์และเสียงสังเคราะห์แทน

    .

    ความหนักของซาวน์สังเคราะห์ที่ประกอบสร้างความรู้สึกยุ่งเหยิงดำดิ่งลงไปสู่บรรยากาศมืดหม่น อึมครึมยิ่งขับเน้นอารมณ์ความรู้สึกหม่องเศร้าของเสียงร้องและเรื่องราวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเธอออกมาให้เราได้รับรู้ด้วยสัมผัสที่แตกต่าง แต่ยังคงแกนหลักที่ความหนักอึ้งของห้วงอารมณ์เอาไว้อย่างครบถ้วน

    .

    ความยุ่งเหยิงของเสียงสังเคราะห์ทั้งให้ความรู้สึกเหนือจริงและสร้างชีวิตชีวาให้กับบรรยากาศในเวลาเดียวกันด้วยเลเยอร์ที่ลื่นไหล เปลี่ยนแปลงตัวเองจากสภาพหนึ่งสู่อีกสภาพหนึ่ง ความขมุกขมัวและสัมผัสที่หยาบกร้านยิ่งทำให้ความลื่นไหลนี้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ หากแต่เป็นธรรมชาติที่ช่างสับสนวุ่นวายยกตัวอย่างว่าซาวน์ลักษณะนี้ทำงานในเชิงการเล่าเรื่องอย่างไรด้วยแทร็กเปิดอัลบั้มที่ดำเนินไปด้วยเปียโนอย่างเนิบช้าซาวน์เบสอื้ออึงแทรกตัวเข้ามาในบรรยากาศอย่างช้าๆค่อยๆเผยมวลออกมากดทับมวลอากาศให้ยิ่งหนักอึ้ง จากนั้นพลันสลายไปในพริบตาเกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะพริบตาเมื่อเราได้รับฟังเรื่องราวนั้นเองที่ซาวน์เบสสร้างผลกระทบต่อความรู้สึกของเรื่องราวบีทกลองสั่นสะท้านไปในอากาศ กีตาร์เข้ามาแต่งเติมความเวิ้งว้างก่อนที่ความเวิ้งว้างนั้นจะเริ่มหดตัวเข้ามาเรื่อยๆ เบสและจังหวะกลองกดทับความรู้สึกให้หนาหนักโดยมีกีตาร์ฟุ้งๆแทรกตัวอย่างยากลำบากด้วยความหนักและแน่นของเบส

    .

    จะเห็นได้ว่าลักษณะการทำงานของซาวน์สังเคราะห์ในอัลบั้มช่วยผลักดันพลังของเสียงร้องและอารมณ์เพลงเป็นอย่างมากโดยลักษณะของซาวน์ที่เลือกใช้ส่วนใหญ่จะเป็นเสียงที่สร้างบรรยากาศควบคู่ไปกับซินธ์เบสหนาหนักแทรกตัวด้วยเมโลดี้เย็นๆหรือสดใสบ้างแล้วแต่สัมผัสที่ต้องการ อย่างในแทร็ก 'YouShadow' ที่มีเมโลดี้คีย์บอดร์ดใสๆและซาวน์กุ๊งกิ๊งเล็กๆ คลอไปกับเบสหนึบหนักก่อนที่จะโดนเสียงแตกพล่ากดทับความสดใสเอาไว้แต่เมโลดี้นั้นก็ยังคงอยู่หยอกล้อและสั่นพ้องไปกับบรรยากาศที่หนาหนักขึ้นเรื่อยๆหรือในแทร็ก 'Hands' ที่อยู่ๆก็มีเมโลดี้เด้งออกมาอย่างไร้ที่มาที่ไปท่ามกลางซาวน์ที่กำลังตีกันอย่างยุ่งเหยิงในขณะนั้นการมีอยู่ของพาร์ทเมโลดี้ที่ในอัลบั้มนี้จึงเสมือนเป็นชิ้นส่วนที่เข้ามาเติมเต็มความเหนือจริงให้มีสัมผัสที่เป็นมนุษย์มากขึ้น

    .

    ในบรรยากาศเสียงสังเคราะห์ทั้งหมดเบสเป็นองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดในอัลบั้มควบคู่ไปกับซาวน์พาร์ทจังหวะซาวน์เบสทั้งสังเคราะห์และเบสจริงสลับไปทำหน้าที่ที่หลากหลายไม่ว่าจะกระแทกกระทั้น หนึบหน่วงท่ามกลางอากาศอึมครึมหรือเค้นมวลอากาศให้ซ้อนทับกันหนาแน่นอย่างค่อยเป็นค่อยไปบีท/จังหวะกลองที่นอกจากจะสร้างจังหวะและพื้นที่เสียงที่แข็งแรงให้กับเพลงแล้วก็ยังสร้างผิวสัมผัสที่มีความหยาบ มีความแห้งผสมอยู่ความหนักแน่นของกลองและทำงานไปกับบรรยากาศเป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้บรรยากาศในอัลบั้มมีความโดดเด่น พุ่งพล่าน และแตกตัวภายในพื้นที่บีบอัดองค์ประกอบอื่นให้เข้มข้น

    .

    กีตาร์แม้จะเป็นชิ้นส่วนรองลงมาแต่ทุกครั้งที่เสียงกีตาร์แตกพล่าปรากฏตัวขึ้นมาในบรรยากาศที่หนาแน่นอยู่แล้วก็มีอยู่ของมันก็ยิ่งแต่งเติมความบิดเบี้ยว อึมครึม หนักหน่วงของซาวน์ดนตรีแทรกแซงและเสียดแทงไปพร้อมกับเสียงสังเคราะห์แหลมคม ปิดท้ายด้วยเสียงร้อง ที่ภายใต้ความหนักอึ้งของบรรยากาศทั้งหมดนี้ทั้งพาเราให้จมลึกลงไปอย่างนิ่งช้า เยือกเย็น อย่างในแทร็ก 'Memorial Day'และพุ่งทะยานออกมาจากบ่อน้ำแห้งเหือด แบบในแทร็ก 'Comeback Kid' และ 'Seventeen'ความมืดหม่นของเสียงร้องและซาวน์ดนตรีในอัลบั้มนี้ ทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้นสร้างพื้นที่เสียงที่มืดหม่นอย่างหนาแน่น รุนแรงยากที่จะปล่อยให้อากาศและละอองใดๆแทรกตัวเข้าไปได้อีก

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in