Out of Tune

ผู้เขียน Wu Zhe

ผู้แปล หมีสามเกลอ

สำนักพิมพ์ Hermit

เรื่องย่อ 

            “ ‘อยากก้าวหน้าก็ต้องฆ่าคนวางเพลิง ถ้าไม่อยาก...ก็แค่ขโมยไก่ขโมยหมา’ นี่คือช่วงชีวิตยี่สิบปีที่ผ่านมาของเซี่ยงซี ชีวิตของเขา...เหมือนกับว่าภายในกระดูกเต็มไปด้วยน้ำเน่าขัง หากต้องการจะเป็นอิสระหรือหลุดพ้น ก็ต้องตอบแทนสิ่งนั้นด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส ความฝันพังทลายลงนับครั้งไม่ถ้วน ต้องละทิ้งความหวังไม่รู้กี่ครั้ง เซี่ยงซีดิ้นรนต่อสู้ชีวิตที่อยู่ในความมืดมนนี้เป็นครั้งสุดท้าย ทว่าทุกย่างก้าวล้วนมีแต่รอยแผลจากอดีตตามติดราวกับเงา สลัดอย่างไรก็ไม่หลุด...จนกระทั่งได้พบกับเฉิงโป๋เยี่ยน ผู้เป็นดังแสงสว่างสาดส่องเส้นทางชีวิตที่มืดมน แม้จะไม่สว่างมากนัก แต่เพียงพอที่จะโอบอุ้มและให้ความอบอุ่น ”

ความรู้สึกหลังอ่าน (มีสปอยล์ปานกลางถึงมาก)

         ลัดคิวมาจากศิษย์พี่มาแนวปัจจุบัน Out of Tune เรื่องนี้มี 3 เล่มจบ เราตกหลุมรักปก และบล็อกเลยจัดมาครบชุด ความจริงแนวนี้ไม่ใช่ทางเรา น้อยมากที่จะหยิบมาอ่าน เพราะแค่ตอนอ่านเรื่องย่อก็สัมผัสถึงความดรามา แต่ด้วยมนตร์แห่งปก เราก็เข้าไปอ่านทดลองอ่านในเด็กดี เท่านั้นแหละค่ะ ติดมาก ๆ แล้วค้างคาใจ อยากเอาใจช่วยเซี่ยงซีต่อเลยตัดสินใจรับเขากับคุณหมอเฉิงกลับมาบ้านค่ะ (55555)

             เรื่องราวของ ' ฉันพบแสงสว่าง '

            เรื่องย่อดูดรามา แต่พออ่านแล้วเรารู้สึกว่าเป็นนิยายอบอุ่นเรื่องหนึ่งเลยค่ะ ใน Out of Tune จะเป็นเรื่องของ เซี่ยงซี นายเอกที่เติบโตมาในแหล่งดำมืดของเมือง เขาเป็นเด็กที่ถูกหัวหน้าแก๊งนักเลงในนั้นเก็บมาเลี้ยง ใช้ชีวิตวัน ๆ กับการต้มตุ๋น หลอกเอาเงินคนอื่น เพื่อเอามาให้หัวหน้าแก๊ง ไม่อย่างนั้นจะโดนลงโทษ อ่านไปแล้วรู้สึกเลยว่าเซี่ยงซีหมดแรงกระตุ้นในวังวนการใช้ชีวิตแบบนี้มาก จนวันหนึ่งเขาขโมยกระเป๋าของ เฉิงโป๋เยี่ยน คุณหมอกระดูกผู้กลัวความสกปรก และดวงสองคนก็สมพงษ์กันมาก เพราะตอนเซียงซีกระดูกหักก็ได้หมอเฉิง หรือพระเอกช่วยรักษา พอต่อมาก็ยังวนมาเจอกันอยู่เรื่อย ๆ จนนายเอกกาไว้เลยว่า เจอคุณหมอเฉิงเขาไม่ ( หลอก ) เอาเงิน (55555) และในวันที่เขาตัดสินใจก้าวออกจากชีวิตดำมืดที่เป็นอยู่ คนเดียวที่เขานึกถึงก็คือ พระเอกเนี่ยแหละค่ะ เพราะในชีวิตเขาพระเอกเป็นคนเดียวที่ใช้ชีวิตในโลกที่เขาเรียกว่า โลกของแสงสว่าง ซึ่งพระเอกก็ช่วยเขาจริง ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเพราะเป็นหมอเลยช่วย หรือเพราะอะไรในใจที่เขาไม่ได้พูดออกมาให้เซี่ยงซีฟัง 

เนื้อเรื่องหลังจากนี้ไปจนถึงเล่มจบ เป็นเรื่องราวของเซี่ยงซีที่พยายามใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา หรือใช้ชีวิตบนเส้นทางแสงสว่างสำหรับเขา โดยมีพระเอกเป็นแสงไฟส่องทางให้เขาไม่ห่างไปไหนค่ะ เริ่มตั้งแต่หางาน หาที่อยู่ ฝึกอ่านหนังสือ และเรื่องในชีวิตประจำวันมากมายที่เราอาจจะรู้สึกว่า คนทั่วไปเขาทำกัน แต่กับนายเอกกลับเป็นเรื่องใหม่ที่ต้องเรียนรู้ นอกจากนี้ยังต้องลุ้นกับอดีตมืดที่นายเอกจากมา ว่าคนของทางนั้นจะตามล่าไหม เพราะเรื่องนี้คือเหมือนเรื่องย่อบอกค่ะ พระเอกเป็นคุณหมอ บ้านไม่ได้มีอิทธิใหญ่ เขาเป็นเพียงไฟดวงหนึ่งที่เพียงพอให้ความอบอุ่นกับนายเอก ทำให้เวลาอ่านต้องลุ้นอยู่เรื่อย ๆ ว่านายเอกจะโดนอะไรไหม พระเอกจะช่วยยังไง เมื่อไรจะไปอยู่ด้วยกันน ( เขย่าหนังสือ ) 

  ต่างวัย ต่างนิสัย แต่ไม่ต่างใจ

       สำหรับความรักของพระเอกนายเอกไปแบบไม่ช้าไม่เร็ว น่ารัก และอบอุ่นมาก แถมตัวละครยังเข้าใจกัน และมีเหตุผลในหลาย ๆ เรื่องสุด ๆ ไม่มีจังหวะงี่เง่าทะเลาะกันให้เหนื่อยใจเลย ตรงนี้คือชอบมากกก พระเอกเป็นคนที่เข้าใจชีวิต และสภาพจิตใจนายเอกทุกอย่าง เขาพยายามจะสนับสนุนนายเอกทุกทาง เรียกได้ว่าในที่ ๆ นายเอกไม่รู้ก็ยังมีพระเอกคอยช่วย ในที่ ๆ นายเอกเห็นก็มีเขาอยู่ข้าง ๆ ส่วนนายเอกเป็นคนที่เข้าใจความแตกต่างของตัวเอง และพระเอก ทำให้จัดตัวเองไว้อย่างเหมาะสม แต่ในตัวก็ยังมีความซื่อ ๆ ของเด็กที่ไม่ทันพระเอก ( วัยสามสิบ ) อยู่บ้างจนอ่านแล้วเอ็นดู เวลาท้อแท้มา หรือมีเรื่องให้ดีใจ เขาจะชอบกอดเอวพระเอกแล้วซุกหน้ากับท้อง ตอนเราอ่านก็ยิ้มตามตลอด 

          ถือว่า Out of Tune เป็นนิยายที่เราชอบเรื่องหนึ่ง สำหรับเนื้อเรื่องที่เขาวางมาเป็นชีวิตของคน ๆ หนึ่ง ( ก็คือนายเอก ) ที่โชคดีพบกับคนที่ดีมาก ๆ ชนิดที่ว่าถ้าไม่ได้รักกัน นายเอกก็คงยอมตายถวายชีวิตให้อยู่ดี ส่วนพระเอกคงเรียกว่านายเอกเป็นอีกครึ่งที่ตัวเองไม่มี และวนมาเจอกันพอดี อ่านช่วงสองเล่มแรกคือมีเรื่องให้ลุ้นตลอด มาผ่อนมาก ๆ ช่วงเล่มสาม เพราะชีวิตเริ่มลงตัว ปัญหาประเด็นต่าง ๆ ก็ต้องมาเก็บมาขมวดเข้าบทสรุป ถือว่ามีจุดให้ประทับใจที่อยากพูดถึง และอยากกลับไปอ่านซ้ำไม่น้อย แต่บางทีเนื้อเรื่องที่ดำเนินแบบนี้บางคนอาจจะรู้สึกเรื่อย ๆ เกินไป ( แต่เราชอบ ) ถ้าใครสนใจแนวนี้เด็กดีมีให้อ่านตัวอย่าง 22 ตอนค่ะ เกินครึ่งเล่มแรกกันไปเลยเราเทียบแล้ว ถือว่าอ่านแล้วช่วยให้เห็นแนวว่าจะใช่ทาง หรือไม่ใช่ทางได้พอควรเลยค่ะ

มุมเพ้อเจ้อตัวละคร (สปอยล์)

ชอบสังคมอย่างครอบครัวพระเอกมาก มีเหตุผล ไม่ได้หวงลูกหรือต่อต้าน แถมคนเขียนโยนประเด็นหนึ่งที่ดีมาก ๆ ผ่านตัวละครของความเป็นแม่ คือ ความรู้สึกพระเอกตอนนี้เป็นความรักจริง ๆ หรือแค่ความหลงชั่วคราว คุณแม่โยนประเด็นทีเราชอบสงสัยเวลาอ่านนิยายทำนองนี้ตลอด และมันทำให้เราอยากอ่านต่อ เพื่อหาคำตอบที่คนเขียนวางไว้ให้

ส่วนตัวละครสมทบอย่างเพื่อนพระเอกเรียกว่าเป็นคู่ที่น่ารัก คอยช่วยพระเอกนายเอกตลอด บอกเลยว่าเรื่องราวต่าง ๆ ผ่านมาได้ ขาดตัวละครสมทบสองคนนี้ไม่ได้เลยจริง ๆ แถมคู่นี้มีตอนพิเศษของตัวเองท้ายเล่มจบด้วย อ่านแล้วอยากขอเรื่องเต็มเลยค่ะ ชอบบ

ปล. ในเรื่องนี้สิ่งที่เราว้าวอีกเรื่องคือ อาชีพนายเอกค่ะ...คิดไม่ถึงจริง ๆ มีใครอ่านแล้วรู้สึกเหมือนกันไหมคะ ...

ภาพจาก Hermit

ฉบับมีสปอยล์

By Chadang