เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายฉบับคนชอบดองChadang
รีวิว เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 3 (ยังไม่จบค่ะ)

  • เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 3

    ผู้แต่ง WU ZHE

    ผู้วาด Mocon

    สำนักพิมพ์ Lavender Publishing

    เรื่องย่อ

    --- ขอยกไปความเดิมค่ะ ---


    รีวิวเล่มสามนี้มีสปอยล์มากนะคะ

    ดูแนวแบบสปอยล์ไม่มาก >> รีวิว เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 1

    >> รีวิว เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 2


    ความเดิมเริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 2

    การแข่งขันบาสภายในโรงเรียนระหว่างห้องแปดที่มีอาวุธลับ คู่หูโต๊ะหลังห้อง อย่างเจี่ยงเฉิงและกู้เฟย นำพาบรรยากาสตื่นเต้นร้อนแรงลุกโชนไปทั้งโรงเรียน แม้จะเผชิญกับคู่แข่งที่เล่นไม่ซื่อจนเจ็บตัวกันบ้าง เจี่ยงเฉิงยังดึงสติเพื่อนในทีมจนสามารถชนะกันไปได้อย่างใสสะอาด เหลือเพียงห้องสองที่มีทีมบาสโรงเรียนเป็นสมาชิกทีมอีกห้องเดียวเท่านั้น พวกเขาจะเอาชนะได้หรือไม่ ? กิจกรรมกีฬาทำให้เจี่ยงเฉิงเริ่มผ่อนคล้ายตัวเองและสนิทกับเพื่อนร่วมห้องมากยิ่งขึ้น ยิ่งเพื่อนร่วมโต๊ะข้าง ๆ เขา ความสัมพันธ์ยิ่งพัฒนารุกคืบมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาต่างมีความเจ็บปวดจากที่บ้าน กู้เฟยที่ละเอียดอ่อนและมองสถานการณ์ของเจี่ยงเฉิงออก ได้พาเขาไปเลี้ยงตอบแทนเรื่องกู้เหมี่ยวในอาคารที่ไม่มีคนอาศัยแล้วแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นหลุดหลบภัยของแก๊งไม่ใช่คนดี ที่นั่น…ท่ามกลางเตาไฟปิ้งย่างที่ลุกโชนในฤดูหนาว…เป็นครั้งแรกที่เจี่ยงเฉิงรู้สึกถึงการมีตัวตนของตัวเองในสถานที่แห่งนี้ ได้หยุดพักหายใจและมองออกไปนอกหน้าต่าง เพื่อจัดระเบียบความคิด และอาจจะเป็นเพราะเหล้า เขาถึงขาดสติยั้งคิดข้ามเส้นบางอย่างไปใกล้กู้เฟย ซึ่งทางกู้เฟยเองก็เป็นคนใส่ใจและรับมือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจนี้ ด้วยการทำตัวปกติ พร้อมยังนำเสนองานถ่ายแบบให้เจี่ยงเฉิงที่เริ่มมีปัญหาเรื่องเงินลองไปทำดูเป็นพาร์ทไทม์ กู้เฟยไม่คาดคิดเลยว่าการเป็นตากล้องถ่ายภาพเจี่ยงเฉิงในครั้งนี้จะทำให้เขารู้ความรู้สึกบางอย่างของตัวเองโดยไม่ตั้งใจด้วย!


    ความรู้สึกหลังอ่าน (สปอยล์ปานกลางถึงมาก)

             งานหนังสือวนมาอีกครั้งและในที่สุดดดดดด เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 3 ก็มาแล้วค่า เราแบบบบ ปั่นงานไฟลุกเพื่อเรื่องนี้ และขอเวลาอู้งานสักวันพลิกอ่านเรื่องราวของเจี่ยงเฉิงและกู้เฟยต่อค่ะ บอกเลยว่าเล่มนี้ดีงามมาก ๆ ค่ะ อย่างแรก ต้องขอพูดถึงความไหลลื่นที่ส่วนตัวสองเล่มแรกแอบต้องจูน แต่เล่มนี้อ่านลื่นมากก สองคือตัวเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปถึงจุดเปลี่ยนของความสัมพันธ์สมกับเป็นครึ่งทางจาก 6 เล่มจบค่ะ ที่เราขำนิด ๆ คือเล่มสามอีกแล้วว ทำไมเล่มพีคความสัมพันธ์มักเป็นเล่มเลขนี้คะ 5555555555 คาดว่าหลายคนน่าจะได้เล่มนี้จากงานหนังสือ หรือทางออนไลน์น่าจะทยอยเดินทางมาถึงมือแล้ว ส่วนใครลังเลอยู่ไม่อยากให้พลาดเลยค่ะ แต่คงต้องดูว่าใช่ทางจริง ๆ ก่อน ใด ๆ ใครอ่านแล้วอย่าลืมแวะมาหวีดกันได้นะคะ ส่วนเรา…มาเพื่อการนี้อยู่แล้วค่ะ 555555


    ในเมื่อเมื่อก่อนไม่มี อนาคตก็ไม่มีอีกแล้ว

            ชีวิตในหนึ่งวันของคนเราบ้างก็สั้น บ้างก็ยาวนาน ขึ้นอยู่กับว่าเราเจอเรื่องราวอะไรในวันนั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นวันแบบไหน ความจริงแล้วในหนึ่งวันกลับมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นเสมอ แค่เพียงว่าวันนั้นจะมีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษหรือไม่

          หนึ่งวันของเจี่ยงเฉิงเองก็เป็นแบบนั้นค่ะ คุณนักเขียนดำเนินเรื่องนี้ด้วยทุกวันของเด็ก ๆ และในวันที่แข่งบาสเสร็จทุกคนพากันมาเฉลิมฉลอง เจี่ยงเฉิงรู้สึกเหมือนตัวเองมีตัวตนในที่แห่งนี้ มีเพื่อนที่หัวเราะบ้า ๆ ไปด้วยกัน มีครูที่จุกจิก แต่ดูแลอย่างจริงใจ รวมถึงมีเพื่อนร่วมโต๊ะ ที่กินแรงนั่งซ้อนท้ายจักรยาน และยังเป็นคนที่เขารู้สึกไม่ค่อยอยากปล่อยมือทุกครั้งที่แอลกอฮอล์ระงับตัวตนปกติเอาไว้ ทุกความสุข ความสบายใจในหนึ่งวันของเจี่ยงเฉิงนี้ ถูกพังทลายไม่มีชิ้นดีเมื่อรับสายจากอดีตแม่ของเขา และได้รู้เรื่องราวบางอย่างที่ ‘พ่อแท้ ๆ ’ ทำ และเมื่อต้องกลับ ‘บ้าน’ ด้วยใจขุ่นมัว ยังมาพบกับสถานการณ์ที่ ‘พ่อแท้ ๆ ’ ของเขาทำแบบที่ตัวเขารับไม่ได้ซ้ำสองมาอีก เมื่อพูดกันไม่ได้ และเขาไม่ยินดีจะโต้กลับ หลังปล่อยตัวเองถูกทำร้าย เขาก็ตัดสินใจออกจาก ‘บ้าน’ นับแต่นี้ เขาเป็น ‘เด็กกำพร้า’ ไม่มีใครอีกแล้ว (ร้องไห้ ฮือออ)


    เรื่องของเขา ให้มารวมคิดที่ฉันทั้งหมดแล้วจบที่นี่

             หลังออกมาอยู่ด้วยตัวเอง ก็มีกู้เฟยที่รู้เรื่อง และพาคนเมืองอย่างเจี่ยงเฉิงเตรียมของใช้จำเป็นต่าง ๆ ในห้องเช่าใหม่ ขณะเดียวกัน เขาก็ปิดบังเรื่องของเจี่ยงเฉิงจากพ่อแท้ ๆ ของอีกฝ่าย เพื่อไม่ให้โดนตามตัวกลับไป เรื่องละเล็กละน้อยในชีวิตประจำวันนี้ยังไม่เพียงพอจะเป็นสถานการณ์พิเศษได้นาน การแข่งขันบาสกับห้องสอง ที่ทางฝั่งนั้นจริงจังและค่อนข้างเคารพกติกามาก ๆ ก็กำลังจะเริ่มขึ้น ขณะเดียวกัน คนของฝั่งนักเลงเจ้าถิ่นที่แพ้ตอนแข่งบาสเมื่อครั้งก่อนกลับใช้เรื่องนี้มาหาเรื่องเจี่ยงเฉิงและกู้เฟย กู้เฟยตอบรับคำท้าแข่งบาส โดยรู้ดีว่าจริง ๆ ก็แค่บังหน้าในการต่อยตีเอาคืนเท่านั้น และเรื่องนี้ยังมีหนี้แค้นเบื้องหลังของเขากับเจ้าถิ่นตัวจริงอีกคนแฝงมาด้วยอีก เพื่อไม่ให้เจี่ยงเฉิงต้องถูกดึงลงมาคลุกคลีกับด้านมืดของเมือง และเพื่อยุติความแค้นฝ่ายเดียวอันน่ารำคาญของฝ่ายตรงข้าม กู้เฟยจึงตัดสินใจติดต่อแก๊งไม่ใช่คนดีไปสะสางการแข่งครั้งนี้กัน โดยสลับเวลาหลอกคนหัวไวอย่างเจี่ยงเฉิงให้ไม่ต้องไปกับตัวเอง …ความขัดเคืองบ้าบอทั้งหมด เขาจะให้จบที่นี่!


    ฉันจะรักนาย จนกว่านายจะไม่ให้ฉันรัก

    เรื่องราวความรักเล่มนี้เหรอคะ ขอสรุปจบในสองประโยคเลยได้ไหมคะ แล้วทุกคนรีบไปอ่านแล้วกลับมาหวีดด้วยกันนะคะ!!!!

    “ฉันชอบนายมากนะ ฉันจะชอบนายจนกว่านายจะไม่ต้องการให้ฉันชอบนายอีกต่อไป”

    “…ฉันก็ชอบนายมาก จริง ๆ ฉันไม่เคยชอบใครมากขนาดนี้มาก่อนเลย”

    // คนอ่านอย่างเรา ขอกลายเป็นป๊อบคอร์นค่ะ //กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งกับหมอน


            เริ่มใหม่กับนายคงไม่เลวร้ายนัก เล่ม 3 เป็นเล่มที่มีหลากอารมณ์มากค่ะ ทั้งอึดอัด เศร้า เสียน้ำตา สงสาร เขิน อบอุ่น ตื้นตัน หรือกรีดร้องด้วยความตื่นเต้น ล้วนมีหมดในเล่มนี้เลยค่ะ อยากให้ลองได้ไปสัมผัสและเอาใจช่วยพวกเขา หลาย ๆ อย่างเรารู้สึกว่านักเขียนเลือกคำในการบอกเล่าและสะท้อนออกมาอย่างดี แม้แต่เรื่องความรักที่ถ้าใช้คำบอกเล่าผิดไปนิดเดียวอาจเป็นการโทษผู้หญิง ส่วนตัวรู้สึกว่านักเขียนระวังการนำเสนอความคิดตรงนี้ผ่านเจี่ยงเฉิงมาก ๆ ค่ะ แน่นอนว่าตัวละครครูประจำชั้นของเจี่ยงเฉิงและกู้เฟยจากสองโรงเรียนทำเราประทับใจมาก ส่วนเพื่อนสนิทของเจี่ยงเฉิงก็น่ารักมาก ทัศนคติดีมาก เราประทับใจค่ะ เล่มต่อไปเราคงต้องมาลุ้นเรื่องครอบครัวเจี่ยงเฉิงกับความฝันของกู้เฟยกันต่อ แนวใครทางใครอย่าลืมจับจองกันนะคะ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดนี้ขอนำเสนอรหัสฉากอีกครั้ง โซฟา โซฟา โรงหนัง จักรยาน ย๊ากกก


    >> ชวน Talk คาดว่าจะสั้น แต่สปอยล์มาก ๆๆๆ


    By Chadang


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in