REVIEW PENCILs - STATIONERY IS HAPPY

วันนี้เรากลับมาพร้อมกับเรื่องราวของดินสอ ที่เรามีทั้งหมดในคลัง ว่ามีแบบไหนกันบ้างนะคะ ซึ่งเหตุผลที่มีดินสอเยอะแยะก็คือ เป็นคนที่ชอบใช้ดินสอมากกว่าปากกา โดยที่เรามองว่า มันใช้ได้ตลอด หมดก็เปลี่ยนไส้ได้ แล้วไม่มีหมึกเลอะมือแบบล้างไม่ออกด้วย =..= แต่เดี๋ยวนี้เค้าก็มีปากกาแบบเปลี่ยนไส้ได้แล้วนะ....แต่เวลาลบก็ต้องใช้ลิขวิดให้เป็นคราบอยู่ดี บวกกับงานที่ทำส่วนใหญ่ก็ต้องขีดๆเขียนๆลบๆ ก็เลยจะมีดินสอเยอะกว่าปากกาอยู่หน่อยๆ

ดินสอตั่งต่างที่มี ก็จะมีความเฉพาะกันไป โดยจะต่างกันตรงขนาดของหัวดินสอนะฮะ เรามาเริ่มที่แบบแรกกันเลย

1.ดินสอกดทั่วไป หัวขนาด 0.5 มม.

นอกจากขนาดหัวที่ต่างกันแล้วนั้น ก็จะแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ ก็คือ เป็นแบบที่หัวสามารถเก็บได้ และแบบที่เก็บหัวไม่ได้ ซึ่งจากประสบการณ์การใช้งานทั้งสองแบบ เราก็จะขอแนะนำที่เราชอบซื้อมาใช้คือ แบบที่หัวสามารถกดเก็บเข้าไปได้ เนื่องจากเราใช้แบบเก็บหัวไม่ได้แล้ว เราเผลอทำตก หัวหัก--!!! ใช้การไม่ได้อีกต่อปัยย เสียดาย T^T ....แต่พวกที่หัวเก็บไม่ได้เนี่ย ขนาดด้ามดินสอจะเรียวสวย จับเหมาะมือ เพราะฉะนั้นถ้าจะซื้อแบบนี้มาใช้ก็ควรระวังเรื่องการทำตกให้ดีด้วยนะจ๊ะ
ก็ยังใช้ทั้งสองแบบ เพราะขนาดด้ามเวลาหยิบมาใช้มันต่างกันเลยให้อารมณ์ที่ต่างกันไปด้วย :)

2.ดินสอกด หัวขนาด 0.7 มม.
เป็นดินสอที่หัวใหญ่ขึ้นมาหน่อย เหตุเกิดจากสมัยมัธยม ยืมดินสอเพื่อนใช้ แล้วเราสังเกตว่ามันด้ามใหญ่และหัวเข้ม เส้นใหญ่ด้วย ชอบมากกก (ซึ่งก็ไม่ได้คืนดินสอแท่งนั้นกับเพื่อนด้วยไม่รู้ทำไม สงสัยลืม คืน..sorry -/\-) จากนั้นเวลาจะซื้อดินสอก็จะตามหาหัวขนาด 0.7 ตลอด เพราะชอบความเส้นใหญ่

อันนี้คือแท่งที่มีอยู่แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะฮะ (credit pic: https://www.shopat24.com/p/Faber-Castell-ชุดดินสอกดพร้อมไส้-รุ่น-GRIP-PLUS-07-มม-คละสี/330067/)
3.ดินสอกด ขนาดหัว 0.9 มม.
จากที่มีดินสอหัวใหญ่ ก็ไม่เคยซื้อหัวเล็กกันอีกต่อไป เราก็จะซื้อหัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พอหัวใหญ่ขึ้น เส้นก็จะให้ความเป็นธรรมชาติมากขึ้น คล้ายขนาดเส้นดินสอไม้มากขึ้น แต่มันดีตรงไม่ต้องมานั่งเหลานี่แหละ แหะๆ
อันนี้เพิ่งไปถอยมาเลย ของ M&G ราคาน่าจะประมาณ 20-40 บาท คือ ข้อดีของดินสอหัวใหญ่ก็คือมันสามารถทำให้เราลงเส้นได้หลายน้ำหนัก จากเบาไปเข้ม แล้วได้ขนาดเส้นหลายขนาดด้วย แต่ของตัวนี้ด้ามจะมีความเบาไปหน่อย คนมือเบา(หมายถึงไม่ค่อยออกแรงกดเวลาเขียนหนังสือ) อย่างเราก็อาจจะจับไม่ถนัดเพราะด้ามมันเบาตามมือ แต่ใช้ๆไปก็ได้อยู่

4. ดินสอกด หัวขนาด 1.1 มม.
นั่นแหละฮะ อย่างที่เราได้กล่าวไปว่า ไม่เคยซื้อหัวขนาดเล็กอีกเลย ก็หาซื้อแต่หัวใหญ่ๆ ที่บางทีมีอารมณ์อยากใช้หัวใหญ่อะนะ พอหัวใหญ่ขึ้นสิ่งที่ตามมา คือด้ามดินสอมันจะขนาดใหญ่ขึ้น ก็อาจจะเต็มไม้เต็มมือไปหน่อย แต่ก็ยังจับได้ถนัดดีนะ
ด้ามนี้ก็ไปถอยมาพร้อมกับด้ามข้างบนเลยฮะ ยี่ห้อเดียวกัน M&G ยี่ห้อนี้ทำของออกมาน่ารักหลายอย่างเลย กบเหลาการ์ตูนน่ารักๆเอย สีสันน่าจะต้องได้มาเป็นเจ้าของอะ 1.1 มม. ก็หัวเทียบเท่าเวลาเหลาดินสอไม้จากแหลมไปทู่เลย ด้ามอาจจะใหญ่ไปหน่อยจริงๆอะแหละ แต่เขียนๆไปก็ชินเองแหละฮะ ใครชอบดินสอด้ามใหญ่เราก็แนะนำนะไม่แพงด้วย ราคานักเรียน นักศึกษา
นี่คือเซตทั้งหมดที่ได้ไปเสียตังค์ซื้อมานะฮะ ดินสอ 3 ขนาด 0.5,0.9 และ 1.1 ส่วนอีกอันเป็นสีไม้เกรดartist นะ เค้าจะขายแยกเป็นสีๆ อันนี้ไปตกสีดำมาจ้า บางทีก็อยากจะร่างแบบด้วยสีไม้อะนะ เป็นอารมณ์ๆ ตามช่วงไป 555
ส่วนข้างซ้ายนั้นคือสติ๊กเกอร์ไดคัท Mr.heart จากahiru.studio นะฮะ จะเป็นสติ๊กเกอร์แยกเป็นชิ้น ซึ่งเราสามารถเอาไปแมทช์กับสติ๊กเกอร์ของแบรนด์อื่นได้ด้วย...สนุกตรงเวลาแปะแหละ เหมือนแต่งตัวตุ๊กตา
ตามไปซื้อกันได้นะ ที่นี่ >>> https://www.instagram.com/ahiru.product/
สายเครื่องเขียนต้องตามไปชอปแล้วล่ะ มีหลายอย่างเลย :)

5. ดินสอกดอีกเช่นเคย หัวขนาด 1.3,2.0 นะฮะ เราขอรวมในเซตเดียวกัน เพราะหัวมันจะใหญ่และให้
อารมณ์ใกล้ๆกัน แต่ต่างกันที่ หัว 2.0 ต้องมีการเหลาให้แหลมนิสนึงก่อนใช้ เค้าจะแถมตูดเป็นกบเหลาให้ด้วย...แต่ก็จะเลอะมือหน่อยๆ เวลาเหลาเสร็จ แฮ่ ......เหลาลงถังเถอะ
อาจจะเห็นว่าด้าม 2.0 จะเลอะๆ ใช่ฮะ ผงดินสอของนางเองนั่นแหละทำแท่งเลอะไปหมด!!! ใช้ไปนานๆ กดๆ แล้วไส้ก็จะฝืดหน่อยๆ นะฮะ ส่วน 1.3 นั้น ก็ใช้ดีเลยแหละ ตัวด้ามไม่ใหญ่ด้วยจับถนัดมืออยู่นะฮะ
6.ดินสอไม้
ใช้ดินสอทั้งทีจะไม่พูดถึงดินสอไม้เลยก็ไม่ได้ ซึ่งเป็นแบบที่เราคุ้นเคยกันดีและก็ใช้กันมาตั้งแต่เด็กๆ ดินสอเริ่มแรกๆ ก็ใช้ดินสอไม้นี่แหละฮะ เหตุผลเพราะมันหาซื้อง่าย มีขายทั่วไปเลย ร้านของชำเล็กๆก็มีขาย แต่ก็จะมีแต่ไส้HB นะฮะ (ก็เป็นไส้สีอ่อนสุดในบรรดาสีไส้ต่างๆ)
พอใช้ดินสอไม้ สิ่งหนึ่งที่ตามมานั่นก็คือ การเหลา การเหลาก็จะมีสองแบบด้วยกันคือ ใช้มีดเหลา(ซึ่งต้องมีสกิลกันหน่อย ไม่งั้นเลือดออกกันเลยทีเดียว และเหลามาหน้าตาไม่ดีไปอีก หักไปอีกกก) และการใช้กบเหลา มันก็มีมาเพื่อsupport ให้กับคนที่สกิลต่ำและขี้เกียจเหลาเองอย่างเราๆ นะฮะ 5555 แฟชั่นกบเหลาก็มาเลยล่ะ หลากหลายสีสัน หลากหลายหน้าตา มีเป็นสิบๆอันจริงๆ
ก็เลือกใช้ตามความถนัดในการเหลาเลยนะฮะ ส่วนใหญ่ที่เราใช้ก็จะเป็นดินสอไส้ 2B เพราะเราเป็นคนมือเบานั่นแหละ บวกกับไม่ชอบความสีอ่อนของ HB ด้วย ไส้ดินสอ ที่นิยมเราไล่ให้ดูขนาดความเข้มคร่าวๆในรูปเลยนะฮะ จาก อ่อนสุด HB >>> ไปเข้มสุด EE (เข้มแบบเลอะมือ เลอะหน้าเลอะตากันไป)
ไส้ดินสอตั่งต่าง
ไส้ดินสอที่เราอยากแนะนำ คือ ให้เลือกที่ packaging สามารถล็อคฝาได้ หรือแบบหมุนเกลียวได้ เพราะว่าจากที่เราใช้มา ไอ่ที่ฝาเปิดง่ายเนี่ย ...มันเปิดง่ายจริงๆ เพราะมาเห็นอีกทีไส้ออกมากลิ้งเต็มกระเป่าดินสอไปหมดดดด ไส้หักและถุงดินสอเปื้อนไปตามๆกันเลยจ้า

อีกแบบคือ ที่เป็นฝาเลื่อนๆได้นะ สามอย่างที่พูดมาเวิคสุด ไส้ไม่หลุดออกมากลิ้งในถุงดินสอ แน่นอน
(ที่เห็นนี่คือ....เวิคอยู่แค่ package แบบฝาเลื่อนอันสีส้มนั่นแหละจ้าา >.< )

7.Apple Pencil
หลายคนอาจจะคิดว่าเกี่ยวกับดินสอมั้ย?... เราให้นางเป็นดินสออิเล็กทรอนิกส์ละกัน ใช้กับ ipad 2018,ipad pro ขึ้นไปนะฮะ เราว่ามันเหมาะกับนักเรียน นักศึกษาปัจจุบันเลย เราผ่านจุดนั้นมาแล้วเลยเข้าใจกับการที่ต้องพกสมุดไปเลคเชอร์วิชาตั่งต่าง มันถูกย่อลงมาเหลือแค่ ipad + apple pencil เครื่องเดียวเอาอยู่ ไม่ต้องพกชีท พกสมุดให้กระเป๋าหนักมากเลยฮะ....ไปจ้าาาา..... ไปขอผู้ปกครองซื้อเลย ไม่แพงมากแล้วด้วย แค่ ipad2018 ก็ได้แล้ว เพราะใช้กับ apple pencil ได้นาจา

มี 2 เรื่องที่อยากจะแนะนำสำหรับ apple pencil นั่นก็คือ อย่าทำตกฮะ!!! เพราะหัวจะทู่ แต่ก็ยังใช้งานได้นะ แต่จะทำให้เจ้าของเสียขวัญได้ แง่... อีกอย่างก็คือ อย่าวางผิดที่ เดี๋ยวจะลืมแล้วต้องซื้อใหม่ (แท่งละ 3,000 อัพเชียว เสียดายตังค์) ควรจะซื้อเคสไอแพดที่มีที่ใส่apple pencil ด้วย จะได้พกง่ายในที่เดียวกัน ไม่หายแน่นอนจ้าา

......................

*จบแล้วฮะ เรื่องราวของดินสอทั้งหมดในคลังของเรา ใครอยู่ในช่วงตัดสินใจซื้อดินสออะไรอยู่ (ซึ่งก็ไม่ต้องตัดสินใจไรมากมาย เพราะมีกำลังซื้อ ...ก็มาอ่านเล่นๆก็ได้) ลองอ่านเพื่อการตัดสินใจดูน้า
**หรืออยากจะได้คำแนะนำเพิ่มเติม เม้นมาถามกันได้เลยฮะ ยินดีตอบ

ไว้แจกัน ครั้งหน้า จ้า บัย

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น