เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyjokesocool
GHOST JOB บ้านคนดุ ทะลุสามโลก EP.4 Puppy
  • ที่บ้านของรันตอนนี้ แทบไม่มีความน่ากลัวใด ๆ หลงเหลืออยู่แล้ว พวกหญ้าและพุ่มไม้ที่เคยปกคลุมบ้านร้างหลังนี้ถูกถอนออกไปจนหมด และทุกอย่างดูเหมือนบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จซะมากกว่า เสียงเครื่องตัดหญ้าและเสียงตอกตะปู อีกทั้งเสียงผู้คนคุยกัน ทำให้ที่นี่ดูมีชีวิตชีวา จะแปลกตาก็เพียงแค่ศาลเจ้าที่ที่ตั้งอยู่ข้างกำแพงประดับด้วยม้าการ์ตูนโพนี่สองตัวด้านล่างศาล คุณพ่อของรันกำลังยืนกอดอกดูช่างทาสี ทาสีห้อง ๆ หนึ่งที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน

    "ผมจะได้เป็นหมอปกติซะทีแล้วล่ะแม่ ไม่อยากจะเชื่อเลย ร้านขายยาของผมกำลังจะเสร็จ เหลือก็แค่เอาของมาลง" คุณพ่อยืนยิ้มอย่างมีความสุข

    "หึ พวกขายยาเค้าเรียกเภสัชย่ะ แม่ไม่คิดนะกาโม่ ว่ามันจะทำให้เรามีรายได้ดีเท่าเมื่อก่อน" คุณยายกล่าวและยืนมองร้านขายยาที่กำลังทาสี

    "สำหรับคนทั่วไปนี่คืออาชีพที่รายได้ดีมากแล้วนะแม่ พวกเราเองต่างหากครับ ที่ต้องใช้เงินให้มันปกติตามรายได้ของเราด้วย"

    "แหม ช่วงนี้นี่มีแต่เรื่องต้องทำใจแฮะ คนอย่างชั้นมันเป็นพวกขี้เบื่อซะด้วยสิ เข้าไปเตรียมกับข้าวให้หลาน ๆ ดีกว่า" คุณยายหนีเข้าบ้าน

    "คุณนายขา!" คนงานก่อสร้างหญิงคนหนึ่งเรียกคุณยาย เธอมีผิวคล้ำรูปร่างท้วมหน้าตายิ้มแย้มดูมีจิตใจดี

    "หนูชื่อคะน้านะคะ ถ้ามีอะไรก็เรียกใช้หนูได้ทุกเรื่องเลยนะคะ บ้านหลังเนี้ยไม่มีคนอยู่มานานมาก ๆ แล้ว พอมีคนมาอยู่กันแล้วรู้สึกในซอยนี้มันคึกคักขึ้นมาแบบบอกไม่ถูกเลยล่ะค่า"

    "ว่าแต่จะให้ชั้นเรียกใช้น่ะ เธอทำงานอะไรได้บ้างล่ะคะน้า" คุณยายถาม

    "ถ้าให้เล่ากลัวว่าจะยาวไปน่ะค่ะ คือหนูทำได้หลายอย่างมาก มีอะไรทำได้หนูก็รับจ้างมันทุกอย่างแหละค่า ก็อย่างว่า คนเรียนไม่จบอย่างหนูถ้ามัวมาเลือกงานก็ไม่มีเงินกินกันพอดี (หัวเราะ) จริงมั้ยคะคุณนาย?"

    "ชั้นก็ไม่ได้เรียนหนังสือ" คุณยายตอบหน้านิ่ง ๆ ป้าคะน้าหน้าถอดสี ไม่รู้จะเปลี่ยนเรื่องไปทางไหนดี

    "ว่าแต่เมื่อวานหนูเห็นมีเด็ก ๆ ด้วย บ้านนี้อยู่กันทั้งหมดกี่คนหรอคะ?"

    ปรี๊น ๆ เสียงแตรรถบีบมาจากหน้าบ้าน

    "โน่นไง หลาน ๆ ชั้นเริ่มกลับมาแล้ว" เก็นกับรันเดินลงมาจากรถรับส่งคันเดียวกัน เพราะโรงเรียนของทั้งคู่อยู่ใกล้กัน และรถคันนี้รับส่งเด็กระแวกหมู่บ้านแถบนี้โดยเฉพาะ

    "งั้นหนูขอไปล้างมือเตรียมกลับบ้านก่อนแล้วกันนะคะคุณนาย แหะ ๆ" ป้าคะน้ายิ้มและเดินหนีไป

    "พ่อค๊าาาา" รันตะโกนและวิ่งถลามากอดพ่อเหมือนเด็กที่ไม่ยอมโตและดูติดพ่อตามประสาลูกสาว

    "ชอบโรงเรียนใหม่มั้ยลูก?" คุณพ่อถาม

    "ชอบที่สุดในโลกเลยค่ะ ทั้งใหญ่ ทั้งทันสมัย ไม่มีเรื่องผี แถมยังมี …."

    รันยิ้มและทำตาน่าสงสัย

    "มีอะไรลูก?" พ่อดูอยากรู้

    "ไม่มีอะไรค่ะ (ระวังห้ายดีฉันจะกระแทกใจเธอออ)" รันกระโดดร้องเพลงเข้าไปในบ้าน

    "เพลงบ้าอะไรเนื้อแย่จัง?" พ่อมองรันเข้าบ้านไปด้วยสีหน้าเอือม ๆ

    "สงสัยจะเป็นของวง Boy Attack น่ะครับพ่อ เค้าบอกว่าดังที่สุดในยุคนี้เลยนะครับ ใคร ๆ ก็ชอบ"

    เก็นกล่าวเมื่อเดินสะพายกระเป๋ามาถึงจุดที่พ่อยืนอยู่ พ่อเอามือลูบหัวเก็น

    "นี่พวกลูกรู้เรื่องนักร้องกับเค้าด้วยเหรอ? (หัวเราะ) แล้วลูกล่ะเก็น ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง คงไม่ไปเล่าความลับให้ใครฟังใช่มั้ย?"

    เก็นหลบตาพ่อ

    "จะไปเล่าทำไมล่ะครับ พ่อไปห่วงยูโร่ดีกว่านะครับ" พ่อชะงัก

    "นั่นน่ะสิ เรื่องของยูโร่พ่อไม่รู้จะป้องกันยังไง แถมตัวของยูโร่ยังเป็นเหมือนแม่เหล็กดูดพวกสัตว์ร้าย นึกแล้วก็ไม่สบายใจเลย" พ่อกล่าวด้วยความกังวล

    "ไม่ต้องห่วงหรอก อาม่าโทรไปถามครูประจำชั้นมาแล้ว วันนี้ก็แค่มีงูเลี้อยเข้าห้องมาทักทาย 4-5 ตัวเท่านั้นแหละ นอกนั้นก็ปกติดี" อาม่ากล่าว

    "มีงูมาหาอีกแล้วหรอเนี่ย ไม่เคยปกติเลยแฮะเจ้าลูกคนเล็ก" พ่อมีสีหน้าเป็นห่วง

    "แต่ชั้นกลับคิดว่าพวกสัตว์พวกนั้นไม่ได้มาทำร้ายหลานชั้นหรอกนะ แต่มาแสดงความเป็นมิตรมากกว่า นี่แม่พูดตรง ๆ นะกาโม่ นอกจากงูเงี้ยวเขี้ยวขอแล้ว ชั้นว่ายูโร่สามารถสื่อสารกับอะไรที่น่ากลัวได้มากกว่านั้นซะอีก"

    "อะไรล่ะครับแม่?"

    "ปีศาจยังไงล่ะ.." พอคุณยายตอบพ่อถึงกับหน้าถอดสี


    ปรี๊น ๆ! เสียงแตรรถของรถโรงเรียนอนุบาลบีบมาจากหน้าบ้าน

    "อ้าว นั่นมาพอดีเลย หลานรักของม่า" อาม่าพูดพลางยิ้มที่เห็นหลานกลับบ้าน

    "คุณพ่อค้าบบบบ อาม่าค้าบบบบ" ยูโร่เด็กชายวัย 5 ขวบ กำลังวิ่งสะพายกระเป๋านักเรียนเข้าบ้าน

    "อาม่าครับ บ้านใหม่ของเรายังไม่มีหมา ผมเลยเก็บลูกหมามาเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านครับ"

    "ลูกหมา!!" พ่อกับอาม่าอุทานพร้อมกัน

    ทันใดนั้นเด็กน้อยยูโร่ก็รีบเปิดกระเป๋านักเรียนและอุ้มลูกหมาน้อยตัวสีดำร้องงี้ด ๆ ออกมาจากกระเป๋า

    "ยูโร่ นี่ลูกไปเก็บมันมาจากไหนล่ะเนี่ย?" พ่อถาม

    “เจอกันที่โรงเรียนครับ มันอยากจะมาอยู่กับยูโร่” ยูโร่พูดยิ้ม ๆ อย่างไม่กลัวว่าคนในบ้านจะคิดยังไง

    "เอาเถอะ ๆ โชคดีนะที่ม่าเอากรงกระต่ายอันใหญ่ของรันมาจากบ้านเก่าด้วย วางอยู่ตรงหน้าประตูพอดีเลย เอาลูกหมาไปขังไว้ก่อน เดี๋ยวไม่งั้นมันจะโดนรถชนตายซะตั้งแต่วันแรก" อาม่ายิ้มและชี้ไปที่กรงกระต่าย

    "งั้นชั้นจะพาแกไปอยู่ในกรงก่อนนะปิกาจู"

    ดูเหมือนยูโร่จะตั้งชื่อให้สุนัขของเค้าแล้ว ยูโร่รีบพาลูกหมาเข้ากรงและปิดล็อคกรงอย่างเรียบร้อย จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อจะไปหาอะไรให้เจ้าปิกาจูกิน

    "ว่าแต่ยูโร่เอาหมาขังไว้ในกระเป๋าเรียนตลอดทาง มันไม่ร้องหรือส่งเสียงรบกวนคนอื่นบ้างหรือไง"

    พ่อถามด้วยความเอะใจ

    "ชั้นกำลังจะบอกว่าชั้นรู้สึกแปลก ๆ กับเจ้าลูกหมาสีดำตัวนี้" คุณยายเสริม

    "ปิกาจู!!!!" ยูโร่ตะโกนเสียงดังเมื่อกลับมาหน้าบ้าน

    "พ่อ อาม่า ปิกาจูหายไปไหน? อาม่าปล่อยมันหรอ!?" ยูโร่โวยวายหาสุนัขของเขา

    "หืมมม ม่ายังไม่ทันได้ยุ่งเลยนะยูโร่"

    พ่อกับคุณยายหันไปที่กรง แต่ไม่มีหมาอยู่ในกรง พ่อรีบเดินไปที่กรงและสำรวจพบว่าเหล็กที่ใช้เสียบกั้นกรงยังคงคล้องอยู่ ไม่มีใครเปิดกรงแน่นอน แต่ตอนนี้ในกรงไม่มีอะไรอยู่เลย พ่อกับคุณยายได้แต่มองหน้าอย่างรู้กัน

    "อาม่าว่าไม่มีใครปล่อยหมาของหนูหรอก ใจเย็น ๆ นะยูโร่ ถ้าเค้าจะมาเดี๋ยวก็คงจะมาเองล่ะมั้ง"

    อาม่าปลอบใจยูโร่ ตอนนี้เก็นกับรันก็วิ่งออกมาหน้าบ้านเพราะได้ยินเสียงน้องโวยวาย

    "ยูโร่เอาหมามาเลี้ยงหรอ น่ารักหรือเปล่า?" รันถาม

    "เอาล่ะเด็ก ๆ มันคงจะวิ่งไปแถว ๆ นี้แหละ ตอนนี้พ่อว่าเราไปกินข้าวกันก่อนดีกว่านะ"

    "เดี๋ยวก่อนเก็น ช่วยแง้มแว่นให้ม่าสักนิดสิ ม่าอยากรู้ว่าแถวบ้านเรามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?"

    อาม่าขอให้เก็นช่วย

    "แม่! ไหนตกลงกันแล้วไงว่าจะไม่ให้เด็ก ๆ ยุ่งเรื่องพวกนี้อีก" คุณพ่อไม่ค่อยพอใจนัก

    "นิด ๆ หน่อย ๆ จะเป็นไรไปเจ้ากาโม่ มันก็ต้องมีบ้างแหละ เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่ให้ใช้พลังเลย ลองถามหลานมันก่อนก็ได้ ว่าเต็มใจจะช่วยอาม่ามั๊ย" คุณยายพยายามกล่อม

    "ได้ครับอาม่า" เก็นไว้ใจอาม่า และพร้อมจะทำให้ตามคำขอเล็ก ๆ เรื่องนี้ เค้าใช้มือลดแว่นลงมาที่ปลายจมูก และมองไปรอบ ๆ บ้าน

    "เห็นอะไรบ้าง บอกม่าซิ" คุณยายอยากรู้มาก

    เก็นหยุดนิ่งสักครู่เมื่อหันไปเห็นบางอย่าง

    "ผมเห็นนักรบไทยโบราณกำลังยืนชี้นิ้วอยู่ข้างศาลครับ"

    "ท่านปู่ …. ท่านกำลังชี้อะไรหรอเก็น?" คุณยายถาม

    "ชี้ไปที่ม้าโพนี่สองตัวที่อยู่ใต้ศาลครับ ทำหน้าดุด้วย"

    "อ่ออออ ท่าทางจะไม่ชอบสินะ ก็แถวนี้รูปปั้นม้ามันหายากจะตาย ไปเถอะเด็ก ๆ ได้เวลากินข้าวกันแล้ว ส่วนยูโร่ถ้าหาลูกหมาไม่เจอเดี๋ยวม่าซื้อให้ใหม่"

    อาม่ารีบพาเด็ก ๆ เข้าไปกินข้าวในบ้านเพื่อหนีอะไรบางอย่าง และวันแรกของการเปิดเรียนก็ได้ผ่านพ้นไปอย่างไม่มีอุปสรรคใด ๆ นัก



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Smile Kmika (@Elyse89)
ม้าโพนี่ออกจะน่ารัก ท่านปู่ทำไมต้องหงึด้วย 5555
Napaporn Walter (@fb1015543754730)
สงกาสัย หมาดำคือไอเท็มอะไรกันนะ
nnunoii (@nnunoii)
ตลกอ่ะพี่โจ๊ก คิดแล้วท่านปู่ต้องหงิด
maprang_crows (@maprang_crows)
นึกภาพเจ้าปู่ขี่ม้าโพนี่ #ความน่าเกรงขามที่สะสมมาหายหมด