สวัสดีเพื่อนๆและผู้อ่านทุกคนที่ผ่านทางมา ผ่านไป 1 เดือนแล้วสินะ นี้วันสุดท้ายขอการส่งการบ้านการบ้านหนังสือนอกเวลา ครั้งที่ 3 ไม่อยากเชื่อตัวเองเลยจริงๆ ว่าตัวเราจะอ่านหนังสือจบเป็นเล่มที่ 3 สำหรับเรื่องที่ผมจะเอามานำเสนอผู้อ่านทุกคนในวันนี้เป็นหนังสือที่ปีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2552 ซึ่งหมายความว่า ผมกำลังอ่านหนังสือ เมื่อ 10 ปีก่อน เป็นสิ่งที่ดูล้าสมัยมาก แต่เมื่อผมได้อ่านเนื้อหาภายในหนังสือเล่มนี้กลับรู้สึกว่า มันไม่ได้ตกยุคแต่อย่างใด มิหนำซ้ำ ยังเป็นเรื่องที่คนทั่วไปกลับมองข้าม และละเลยต่อการปฏิบัติให้ติดเป็นนิสัย นั้นก็คือการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ในระบบธุรกิจ ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายในการทำ แต่หลายครั้งการทำจดบันทึกก็ขาดหายไป ทำให้งบการดุลของบัญชีผิดพลาด
หนังสือเล่มนี้จะจะบอกเล่าเรื่องราวขอการทำบัญชีใรระบบธุรกิจที่จากประสบการณ์โดยตรง การเขียนเน้นการเล่าเรื่องในอดีต ย้อนความไปมา ทำให้ผู้อ่านไม่รู้สึกเบื่อกับการอ่านหนังสือเล่มนี้แม้แต่น้อย เริ่มต้นของหนังสือจะบอกถึงข้อบกพร่องของการทำบัญชีของระบบธุรกิจส่วนใหญ่ นั้นคือ การทำระบบบัญชี 2 ชุด คือ ชุดแรกทำไว้เพื่อเสียภาษี ซึ่งระบบบัญชีดังกล่าวจะมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานบัญชีไปจัดการปิดบัญชีแบบ รายปี ปีละครั้ง เพียงเพื่อนำส่งกระทรวงพาณิชย์หรือกรมสรรพากร ตัวเลขในงบการเงิบที่ได้ก็ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะมักจะเป็นข้อมูลที่เลือกบันทึกเฉพาะยอดขายและค่าใช้จ่ายที่ผ่านการคัดสรรแล้วเท่านั้น ส่วนบัญชีอีกชุดหนึ่งเราจะเรียกว่าบัญชีภายใน ซึ่งจะจัดทำภายในองค์กร ลงบัญชีแบบมีรายละเอียดครบถ้วน เพื่อจัดทำเป็นรายงานให้กับผู้บริหาร ปัญหาของบัญชีภายในคือ รายงายงานที่ได้รับมักจะล่าช้า ไม่ทันใจผู้บริหาร เพราะผู้บริหารต้องการรูปแบบรายงานที่หลากหลาย ทำให้นักบัญชีต้องเ็บตัวเลขใน excal แยกกันหลายชุด จนงานซ่ำซ้อนและล้นมือ และนักบัญชีในแต่ละบริษัทมีคนน้อยจึงทำงานไม่ทัน รายงานที่ส่งมอบให้ผู้บริหารจึงเป็นรายงานประกอบการเมื่อ 3 - 4 เดือนก่อน จะเห็นว่า การทำบัญชีแบบที่กล่าวมาข้างต้นจะมีความซับซ้อน และวุ่นวาย
หนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้อ่าน เข้าใจการทำบัญชีที่เป็นระบบมากขึ้นอีกทั้งยังช่วยลดความยากลำบากของการทำบัญชี 2 ชุด ให้เหลือ ชุดเดี่ยว ซึ่งง่ายต่อการจัดการ หากเพื่อนๆ สามารถนำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปปรับประยุกต์ใช้ในการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายในชีวิตประจำวันได้ แม้ว่า ณ ตอนนี้เพื่อนๆ อาจจะยังไม่ได้ทำธุรกิจก็สามารถทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายได้ เพื่อลดรายจ่ายที่มากเกินความจำเป็นในแต่ละเดือนด้วยการทำบัญชีโดยใช้หลักการพาเรโต้
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in