สวัสดีคับคุณผู้อ่านที่น่ารัก กลับมาเจอกันอีกครั้งและยินดีตอนรับสำหรับผู้อ่านที่บัญเอิญผ่านทางเข้ามา นี้เป็นการครั้งที่สามแล้วที่ผมได้เขียนบล็อค ผมยังคงรู้สึกตื่นเต้นเหมือนเคยเวลาจะพิมตัวอักษรลงบนเว็บบล็อค เพราะ ตัวผมในตอนนี้เป็นเหมือนผู้ทอดถ่ายเรื่องราวความรู้สึกให้ผู้อ่านได้รับฟัง ดังนั้นแล้วข้อความต่างๆ ควรเขียนให้ถูกต้องแล้วเข้าใจง่ายที่สุด ถึงแม้ว่าบ่อยครั้งผมจะเขียนผิดก็ตาม
เรื่องที่ผมนำมารีวิวในบล็อคครั้งนี้เป็นหนังสือ ซึึ่งเป็นเรื่องราวที่เราทุกคนไม่อยากพบเจอ นั้นคือ การเป็นหนี้สิ้น และเมื่อเราสามารถหลุดพ้นจากวัฏจักรนี้ไปได้ สิ่งนี้เรียกว่า "การมีอิสระภาพทางการเงิน" หนังสือเล่มนี้ถูกเขียนโดยพอล ภัทรพล ศิลปาจารย์ และผมเชื่อว่าใครหลายๆ คนอาจจะรู้จักเขา เพราะเขาเคยเป็นดารามาก่อน
สิ่งที่ทำให้ผมสนใจหนังสือเล่มนี้คือการเกษียณ หลายๆ คนอาจมองว่าเห้ย ยังเรียนอยู่เลย คิดถึงเรื่องการเกษียณแล้วหรอ คือผมมีโอกาสดูหนังเรื่อง "The Intern" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคุณตาวัย 70 ที่เกษียณอายุแล้ว มีเวลาว่าง เวลาว่างใครๆ ก็ชอบจริงไหมคับ แต่ประเด็นคือ ถ้าผมมีเวลาว่างแต่อายุผม 70 ผมอาจจะไม่อยากทำอะไรแล้วก็ได้ แต่ถ้าผมมีเวลาว่าง สุขภาพแข็งแรง อายุไม่มากเกินไป ผมจะไปไหนก็ได้ และเป้าหมายคือ เมื่อผมอายุ 33 ผมจะมีอิสระทางการเงิน
หนังสือเล่มนี้เป็นเหมือนหนังสือนิทานที่เล่าเรื่องราวผ่านประสบการณ์ของผู้ชายคนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ โดยมี 3 สิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญของการมีอิสระภาพทางการเงินคือ 1.เงิน 2.เวลา และ 3.สุขภาพ ทั้ง 3 อย่างนี้ คือสิ่งที่จะบอกว่าคุณมีความสุขได้มากแค่ไหน
คำว่า "เงิน" ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก แต่เงินในความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนบอกว่าการมีเงินเยอะๆ ไม่ดี เพราะ ทำให้เราเห็นแก่ตัวมากขึ้น อยากได้อะไรก็จ่ายได้ด้วยเงิน แต่หนังสือเล่มสอนให้เรามองว่าเงินก็เหมือนเหรียญ ที่มีสองด้าน คือมีทั้งดีและไม่ดี ซึ่งคนส่วนใหญ่มักมองด้านลบก่อนด้านดีเสมอ เงินไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิต แต่มันสำคัญทุกครั้งที่ทุกต้องการใช้มัน ทั้งด้านเรียน การรักษาโรคหรือในตอนที่คุณต้องการทำบุญสร้างวัด หลายคนอาจบอกว่าการทำเรื่องดีๆ ไม่เห็นต้องใช้เงินก็ทำได้ จริงครับทำได้ แต่ลึกๆ ในใจของคุณเอง ก็แอบคิดว่า ถ้ามีเงินถุงเงินถัง เรื่องเงินก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ซึ่งนั้นแหละครับ ที่หนังสือเล่มนี้พยายามบอกคุณ ให้เปลี่ยนความคิดเรื่องของเงินและมองใหม่ว่า มีเงิน = ดี เพราะ เราอยากเป็นคนดี เราก็เลยอยากมีเงินมาก เราจะได้ช่วยใครก็ได้ที่เราอยากช่วย
ก่อนจะพูดถึง "เวลา" และ "สุขภาพ" ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับรูปแบบของเงินที่ได้มา ซึ่งมีเพียง 2 แบบในโลก และมันยังส่งผลต่อ "เวลา" และ "สุขภาพ" อีกด้วย นั้นคือ Active Income และ Passive Income ซึ่งถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่าความหายของคำ 2 คำนี้ เพื่อนๆ สามารถหาความหมายของมันได้ผ่านทางอินเตอร์เน็ตซึ่งมีข้อมูลอยู่มากมายอย่างไม่จำกัดหรือจะเลือกอ่านจากหนังสือเล่มนี้ก็ได้ ซึ่งถูกเรียบเรียงเป็นเหมือนนิทานที่อ่านแล้วไม่เบื่อโดยมาจากประสบการณ์จริง และชื่อบทความนี้ผมได้นำมาจาก เรื่องราวในหนังสือด้วยเช่นกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in