เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Strange to meet youBUNBOOKISH
03: มาสเตอร์เดฟ

  • มาสเตอร์เดฟเป็นคุณครูของผมตอนเรียนชั้นประถมหก มาสเตอร์เป็นคนตัวใหญ่ ชอบใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ผูกเนคไทสีฉูดฉาด สวมกางเกงสแล็คหลวมโพรก และชอบสะพายกระเป๋าทรงกระป๋องเบียร์ไฮเนเก้นเดินอุ้ยอ้ายเข้ามาสอนในห้องเรียน

    มาสเตอร์เดฟชอบตั้งชื่อให้นักเรียนทุกคน แกจะนั่งบนเก้าอี้ตัวเล็กๆ ที่ตามหลักฟิสิกส์แล้วไม่น่าจะรับน้ำหนักร่างกายอันใหญ่โตของแกได้ เป็นความสนุกของแกที่จะเรียกพวกเรามาตั้งชื่อให้ทีละคน สำหรับผม—ผมชื่อ ‘เวนเดล’

    แม้รูปลักษณ์จะดูเถื่อนและหยาบกระด้าง แต่เด็กๆ อย่างพวกเรารู้ดีว่ามาสเตอร์เดฟเป็นคนใจดีมาก แค่ชอบแกล้งเด็กด้วยการตะโกนเสียงดังใส่ หรือจับพวกเราเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาราวกับเป็นตุ๊กตายัดนุ่น แต่ที่สำคัญมาสเตอร์มักมีเรื่องตลกๆ มาเล่าให้ฟังเสมอ แกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเลยทีเดียว ถึงแม้บางเรื่องจะเกินจริงจนพวกเรารู้ทันก็ไม่มีใครสนใจหรอก เพราะมันสนุกทุกครั้งที่ฟังแกเล่า และพวกเราก็เฝ้ารอเวลาที่จะได้เรียนในคาบของแกเสมอ

    ตอนนั้นผมเป็นเด็กที่ชอบเข้าหาและตีซี้กับอาจารย์ฝรั่งตัวใหญ่คนนี้ ผมชอบจินตนาการว่าเขาคือแฮกริด ผมเลยเป็นเด็กที่มาสเตอร์เดฟมักจะเรียกไปนั่งเล่นด้วยเสมอ แกชอบซื้อไอติมมาให้ แล้วทำเสียงฮึ่มฮั่มว่า อย่าบอกใครนะ...

    วันไหนอารมณ์ดี แกก็จะหยิบหนังสือการ์ตูนมาร์เวลภาษาอังกฤษหรือซีดีเพลงฝรั่งมาให้ยืม ผมแอบคิดว่าแกอาจจะคิดถึงลูกชายที่อยู่ต่างประเทศก็เป็นได้ แต่ก็ไม่เคยกล้าถามแกออกไป

    มาสเตอร์เดฟเป็นคนชอบดื่มเบียร์และติดบุหรี่มาก แม้จะไม่เคยเห็นแกดื่มหรือสูบต่อหน้า แต่ก็มักจะได้กลิ่นจางๆ ของยาสูบและแอลกอฮอล์จากตัวแกเสมอ พวกเราเลยชอบตั้งข้อสันนิษฐานกันว่าแกแอบไปสูบบุหรี่ตรงไหนในโรงเรียนนี้
  • หรืออาจจะมีห้องหลบภัยลึกลับสำหรับอาจารย์ที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายจากเด็กอย่างพวกเรา

    แล้วเหตุการณ์หนึ่งก็ได้เฉลยคำตอบให้กับพวกเรา เป็นวันที่เด็กนักเรียนชั้นประถมหกคงไม่มีวันลืม หากไปถามเพื่อนเก่าผม คิดว่าทุกคนคงจำวันนั้นกันได้ดี

    เช้าวันจันทร์ที่สดใส อากาศเย็นสบายในเดือนธันวาคมทำให้น่าออกไปอยู่กลางแจ้งเป็นที่สุด แต่ผมอยู่ในห้องเรียนบนชั้นสี่—ชั้นบนสุดของอาคารเรียน รองจากดาดฟ้า ผมรับหน้าที่ลบกระดานหน้าห้องตามตารางที่แบ่งกันไว้ หลังจากแอบเอาชอล์กวาดรูปเล่นไปได้สักพักก็ใกล้ถึงเวลาเข้าแถว ผมรีบลบกระดานด้วยความเสียดายรูปที่เพิ่งวาดและเดินออกไปนอกห้องเพื่อเคาะแปรงลบกระดาน

    ทันใดนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วราวกับแผ่นดินไหว จู่ๆ ก็มีเสียงเหมือนตึกถล่มตูมตามและมีฝุ่นควันฟุ้งไปทั่ว เพื่อนผู้หญิงหลายคนกรีดร้องตกใจ เศษอิฐเศษปูนเล็กๆ ร่วงลงใส่หัวผมเบาๆ ผมลูบหัวด้วยความเจ็บเล็กน้อย แต่งงมากกว่า เพ่งมองเข้าไปในกลุ่มควัน ดูเหมือนว่าหลังคากันสาดหน้าห้องส่วนหนึ่งได้พังลงมาพร้อมกับวัตถุที่ดูเหมือนกระสอบทรายขนาดเขื่องกองแหมะอยู่บนพื้น ผมใช้เวลาตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งจึงรู้ว่านั่นคือ มาสเตอร์เดฟ!

    เหมือนฉากในหนังตลกมาก แต่ผมรู้ว่าตอนนั้นมาสเตอร์คงไม่ขำด้วย เพื่อนนักเรียนหลายคนวิ่งไปตามมาสเตอร์คนอื่นๆ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองบนเพดานซึ่งเป็นรูโบ๋เห็นเศษอิฐและกระเบื้องกับโครงเหล็กเส้นที่หักและบิดงอ แสงอาทิตย์ส่องลอดช่องหลังคาที่ทะลุลงมาเป็นเส้นเฉียง มองออกไปก็เห็นท้องฟ้าสีฟ้าสดใส และเมฆสีขาวสวยงาม
  • ผมยืนนิ่งด้วยความตกใจ ไม่แน่ใจว่ามาสเตอร์เดฟยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว แต่อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงครางออกมาจากร่างกายอันใหญ่โต มาสเตอร์ยังหายใจอยู่! มาสเตอร์คนอื่นๆ รีบวิ่งมาดูและไล่ให้เด็กๆ เข้าไปอยู่ในห้องเรียน วันนั้นพวกเราไม่ได้ไปเข้าแถว และมีรถพยาบาลมารับตัวมาสเตอร์เดฟไป

    หลังจากนั้นมาสเตอร์เดฟก็หายตัวไปหลายเดือน หลังคาถูกปิดซ่อมและทางเดินขึ้นดาดฟ้าก็ถูกปิดตาย หลายคนบอกว่ามาสเตอร์เดฟคงขึ้นไปช่วยคนงานก่อสร้างซ่อมหลังคา แต่พวกเราคิดว่ามาสเตอร์น่าจะใช้ดาดฟ้าเป็นที่สูบบุหรี่แล้วพลัดตกลงมามากกว่า

    อย่างไรก็ตามประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ มาสเตอร์ก็กลับมาพร้อมกับผ้าพันแผล เฝือก และไม้ค้ำยัน พวกเราทั้งชั้นมองแกเป็นตาเดียว

    “Wendell, come here.” แกฮึ่มฮั่มทันทีที่เห็นหน้าผม

    ผมก็ตกใจสิ ทำไมวะ ผมลุกไปหน้าห้องอย่างว่าง่าย ขณะที่แกลากเก้าอี้ตัวหนึ่งมาตั้งและสั่งให้ผมยืนบนนั้น

    “Stand on this chair and turn to your friends.” แกพูด และยกไม้ค้ำยันกายสิทธิ์ขึ้นมา “Spread your arms.” 

    เฮ้ย! ใจเย็นนนน มาสเตอร์!

    คิดว่ามาสเตอร์จะทำโทษอะไรผม แต่สุดท้ายแกแค่จะใช้ผมเป็นหุ่นชี้ให้ทุกคนดูว่ากระดูกแกตรงไหนหัก ตรงไหนร้าว และตรงไหนที่เป็นแผลใหญ่ๆ แต่ด้วยชั้นไขมันที่แกสะสมไว้คงช่วยรับแรงกระแทกไว้เยอะ จึงไม่เป็นอะไรมาก

    หลังจากนั้นแกก็มาสอนตามปกติจนกระทั่งลาออกเพื่อกลับไปหาครอบครัวพร้อมๆ กับที่พวกเราจบประถมหก ก่อนจากกันมาสเตอร์บอกว่าจะจำพวกเราไว้ตลอดไป หากแต่ผมว่าจริงๆ แล้วเป็นพวกเราต่างหากที่จะจำมาสเตอร์ได้ตลอดไป

    แฮกริดนักสูบบุหรี่ ผู้หล่นลงมาจากท้องฟ้า
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in