บทหนังก็ไม่มีอะไรมาก  ก่อนที่ผมจะเข้าไปดูก็คิดแล้วล่ะว่าฉากมันคงมีอยู่แค่แถวๆนั้น เลยคิดว่ามันจะคุ้มมั้ยหว่า?  ที่เราจะเข้าไปดู  แต่ด้วยตัวอย่างบวกกับกระแสบอกต่อมันก็อดไม่ได้ที่ท้ายสุดก็ต้องซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง

 

เข้าข้อดีของหนังกันเลยดีกว่า  ผมว่าข้อดีของมันก็คือการเล่นกับความเงียบ  เสียงบรรยากาศ การตัดสลับเสียงเพลงประกอบตอนเล่นโต้คลื่นสลับกับตอนที่มันตกลงมาในน้ำแล้วจะได้ยินเพียงเสียงความอ้างว้างใต้ผืนทะเล  มันให้ความรู้สึกว่าเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้ายอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก และกระตุ้นต่อมลุ้นระทึกได้ดีจริงๆ

 

            นอกจากเรื่องเสียงแล้วบทหนังช่วงต้นและกลางก็เพิ่มดีกรีความตื่นเต้นลุ้นระทึกขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้บางฉากเราจะรู้แล้วล่ะว่าไอตัวนี้มันจะตายแน่ๆเพราะเหมือนเป็นแนวทางของหนังแนวนี้ไปซะแล้ว แต่ที่ถือว่าทำให้หนังดูเพลินผมคิดว่าอาจเป็นตัวนางเอกที่ตีบทให้ดูน่าสงสารและต้องการความช่วยเหลือดูเป็นสาวน้อยร่างบางที่ต้องการมีชีวิตรอดให้ได้ จึงต้องตะเกียกตะกายหาทางรอดทุกอย่าง เราจึงลุ้นไปกับเธอและคอยเอาใจช่วยเธอไปตลอดทั้งเรื่อง

แต่แล้วจุดหักเหหนักของเรื่อง และถือเป็นข้อเสียที่ผมคิดว่ามากจริงๆก็คือฉากจบที่นางเอกสามารถจัดการกับฉลามได้ คือมันเป็นอะไรที่ดื้อๆ มาก อยู่ๆ เหมือนคิดจะจบก็จบซะงั้น  ผมไม่อยากสปอยล์ตอนจบ  อยากให้ไปดูเอง  คืออารมณ์ตอนที่ผมดูอยู่ผมยังถามตัวเองอยู่เลย  “มันจะจบอย่างนี้จริงๆ หรอวะ?” คือแบบ ผมบอกไม่ถูกจริงๆ หนังมันดึงอารมณ์คนดูให้ขึ้นสูงไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ๆมันก็กระชากคนดูให้ลงมาซะหน้ายู่  พอหนังขึ้นเครดิตปุ้บผมนี่อารมณ์แบบ “แบบนี้ก็ได้เหรอ?”

 

และด้วยข้อเสียนี้เองที่ทำให้ผมให้คะแนนมันแค่ 6.5/10  คือตัวหนังดีหมด ไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง นักแสดง ยกเว้นบทหนัง ที่เหมือนจะถูกตัดจบหรือเกิดนึกมุขไม่ออก หรืออาจจะขี้เกียจเขียนกะทันหันผมก็ไม่ทราบได้แต่ผมคิดว่าต้องมีคนคิดแบบผมมั่งล่ะว่าตอนจบมันช่างแย่ซะจริง

 

แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับเรื่องนี้?