เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Me Through The WorldLa Pipe
กัมพูชาแค่กระพริบตาเดียว (Cambodia in the blink of an eye)
  •    การเดินทางติดสอยหอยตามหัวหน้าเมื่อต้องไปทำงานที่ "กรุงพนมเปญ" ณ ประเทศกัมพูชา โดยมีเวลาแค่ 24 ชั่ว + - นิดหน่อย รวมถึงบทสนทนาเล็กๆน้อยๆของหัวหน้าและลูกน้อง ทั้งข้อคิด ทัศนคติ การทำงาน...

    เราเคยอ่านหนังสือเรื่อง "กัมพูชาพริบตาเดียว" ของพี่เอ๋ นิ้วกลม สักประมาณ 2-3 ปีก่อหน้านี้ตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษาอยู่ แล้วก็ได้เอาแต่คิดว่า "กัมพูชา  จะมาทำไมนะ"


    เอาเข้าจริงๆ เมื่อทำงานมาได้ซักระยะ ก็เริ่มเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างที่เกี่ยวกับชีวิตมากขึ้น...อย่างแรกคือโลก "ไม่ได้สวยงาม" หรือ "โหดร้าย" อย่างที่คิด แต่โลกมักเต็มไปด้วยเรื่ิงที่ไม่คาดคิดเสมอ

    ...พอรู้สึกตัวสักพักก็รีบตื่นไปอาบน้ำ เพราะว่าต้องขึ้นเครื่องตั้งแต่เช้า  จะว่าไงดีนะ ทั้งง่วงทั้งตื่นเต้น พอมาถึงสนามบินกำลังจะ check in ก็เดินง่วงๆไปที่ counter เอ้า! เจอหัวหน้าพอดี 55555 ก็เลยได้ check in พร้อมกันแบบบังเอิญๆ 
    "พี่ลืมยาสีฟัน เดี๋ยวลงไปซื้อก่อน เราซื้อซิมมือถือยัง" หัวหน้าถามเรา ซึ่งเราก็ยังไม่ได้ซื้อซิมเลย เพราะปกติเวลาเดินทางทุกครั้งจะไปซ์้อเมื่อถึงที่หมายแทน หัวหน้าเลยอาสาไปซื้อให้...และ นั่นไง กลับมาแล้ว พร้อมกับน้ำดื่มอีกขวดซึ่งก็คือซื้อมาฝากเรานั่นแหละ

    เดินไปนั่งเล่นไป กินไป จนไปสุดที่ Lounge ของสายการบิน จำได้แม่นว่ามันเช้ามาเลย แต่ก็นะเรื่องกินอะไรๆก็หยุดเราไม่ได้ทั้งนั้นแหละ ... เราจำบทสนทนาเป๊ะๆไม่ได้แหละว่าคุยกันเรื่องอะไร แต่ที่แน่ๆุยกันเรื่องงานก่อน กินไป คุยเรื่องงานกันไป ... แต่ในใจก็คิดว่า 'นี่คือโอกาสทองของเราและแหละ อุตส่าห์ได้มาทำงานต่างบ้านต่างเมืองครั้งแรก ก้ต้องทำให้เต็มที่ ทั้งๆที่ดูเหมือนจะไม่ยาก ไม่มีอะไร แต่ก็นะ ด้วยความที่ยังด้อยประสบการณ์ ทำให้เวลาเจออะไรใหม่ๆก็มักจะตื่นเต้นเสมอ

    เครื่องเล่นขึ้นฟ้า หัวใจก็ข้ามฟ้าไปด้วย 
    นกทุกตัวจะต้องโผบินจากรัง ส่วนชั้นก็เหมือนได้ออกจาก comfort zone


    เมื่อถึงสนามบิน ก็ไปเรียก taxi ได้มาในราคา 18 USD แต่รู้สึกว่าแพงว่ะ ขอต่อล่ะกันะเป็น 15 USD ได้แมะ ถ้าได้ก้ไป ... เอ้าได้เฉย !

    ระหว่างทางครขับ Taxi น่ารักนะ เขาพูดภาษาอังกฤษได้ชวนคุยนั่นนี่นู่น เอาจริงคนที่ชวนคุยไม่ใช่เราเท่าไรหรอก แต่เป็นหัวหน้าเรามากว่า 5555 ทำงานด้วยกันสักพักเพิ่งเห็นโหมดนี่

    "เห้ยๆ นี่ office เราแล้ว บอกเขาเลี้ยวเลย" 
    ก็ถึงแล้วจริงๆนะแหละ มาถึงกันตั้งแต่ 8 โมง ก็รอกันไปสิ เขาเริ่มทำงานกัน 9.30 แหนะ ระหว่างรอก็ได้เเต่เตรียมงาน เตรียม Presentation นั่นนี่นู่นไป ในใจก็ได้แต่หวังว่า โอเคขอให้มันเรียบร้อยนะ

    พอถึงเวลาทำงานจริงๆ ทั้งตื่นเต้นที่อายุ แค่นี้ ประสบการณ์แค่นี้ ก็ได้มีโอกาศที่ดีและเราได้ทำอย่างเต็็มที่ 
    'หากจะเปรียบโอกาสกับอะไรสักอย่าง คงไม่เปรียบเทียบกับดาวหรอก เพราะมนุษย์คงไม่มีวันจะคว้าดวงดาวมาไว้ในมือได้จริงๆ สำหรับเราน่ะหรอ...คงเป็นเพียงสิ่งที่ดีๆ ที่ไม่ควรปล่อยผ่านไปอย่างยิ่งน่ะแหละ

    พอเสร็จงานกว่าจะล่วงรู้ ก็ได้มีโอกาศได้เดินเที่ยวนิดหน่อย ได้โอกาศก็ไปแวะกับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆกับ office ดีนะที่อยู่ใกล้

    'คล้ายๆกับวัดพระแก้วขอไทยแหละ....พูดโดย Staff ชาวกัมพูชาที่ขับรถมาส่งพวกเรา เราก็ได้แต่แหมในใจล่ะนะ 55555555


    พอถึงก็แค่แบบ อืมมมมม.....ก็คล้ายนะ แต่ยังไงก้ชอบของไทยมากกว่าแหละ ถึงยังไงศิลปะของประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ย่อมคล้ายกัน ไม่ผิดแปลกไปจากเดิมสักเท่าไรหรอก

    พอได้เดินเที่ยวไปสักแปป ร้อนจัง แต่ที่ดูตื่นตาตื่นใจกว่าเราคงเป็นหัวหน้าเราแหละ 5555 


    เราเดินทางถ่ายรูปไป แวะนั่นนู่นไป แต่พอได้เที่ยวกัน ได้เดินทางด้วยกันมาบ้างก็แบบพอจะรู้แหละว่าต้องถ่ายแบบไหนคนถูกถ่ายถึงจะถูกใจ โพสหลายท่า แบบไม่กลัวแดดกันเลยทีเดียว


    พอกลับเข้ามาที่ Office อีกรอบ ก็ดำเนินงาน สรุปงานเอยอะไรเอยจนเสร็จ ซึ่งข้างหลัง Office ที่เป็นโรงแรมนั้น มีแม่น้ำ เออก็วิวสวยดีนะ ลองเข้าไปดูหน่อยแล้วกัน 

    นั่นแหละ ก็เดินเที่ยวไป เม้าท์มอยกันไป ถ่ายรูปกันไปด้วย 5555


    พอตกดึกก็กลับไปกินมื้อค่ำกับหัวหน้าที่โรงแรม อาหารอร่อยดีแหะ จำไม่ได้แล้วว่าชื่อเมนูนี้คืออะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือหิว 555555


    พอกินข้าวกันไปสักพัก ต่างคนก็ต่างเปิดหัวข้อสนทนา ซึ่งก็เริ่มเข้าเรื่องงานกันบ้างนิดหน่อย แต่บทสนทนาหลายๆอย่าง คงไม่ได้คุยกันในออฟฟิศปกติแน่ๆ ถ้าไม่ได้มาทำงานด้วยกันแบบนี้

    'ตั้งแต่ทำงานมานี้ก็ปีครึ่งล่ะเนอะ เป็นยังไงบ้าง' หัวหน้าถาม
    "ก็โอเคนะครับ ที่นี่ก็ดี แต่ผมเองก็ยังรู้สึกว่าก็ต้องพัฒนาอีกเยอะเลย แบบยังมีอะไรหลายๆอย่างที่ยังทำพลาดอยู่ 5555" ผมพูดพลางหัวเราะ
    "เออ ก็ใช่แหละ บางงงานพี่ก็แบบ มันจะผิดอะไรของมันอีกวะ" หัวหน้าตอบกลับมาพร้อมกับทำสีหน้าระบายความในใจ


    ก็จริงของพี่เขาแหละ ก่อนหน้านี้เราเพิ่งจบและทำงานได้ปีแรก ด้วยความที่ยังไม่ได้มีประสบการณ์มานัก เรามักจะผิดบ่อย ใช้พวก Microsoft Office ไม่คล่องบ้างไรงี้ แล้วหัวหน้าเราเป็นคนละเอียดอ่ะ 555555 นี่ก็โดนทุกเม็ดเลยจ้า 

    "ใช่พี่ หลายๆครั้งก็เป็นแบบนั้นแหละครับ แต่ดีนะที่พี่เป็นคนละเอียด จริงๆผมต้องขอบคุณพี่ด้วยครับที่ช่วยสอนและก็แก้งานผม จนผมละเอียดขึ้นเป็นกองเลย"
    "แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกคนเรก็ต้องผิดกันบ้าง แต่นี่ก็ถือว่ายังไม่เยอะนะ แต่พี่ก็ไม่ปล่อยอยู่แล้วแหละ เช็คตลอด ช่วงแรกๆที่พี่ทำงานก็ผิดเหมือนกัน"

    จริงนะ คนเรามันจะทำถูกทุกอย่างไม่ได้แหละ ก็คงต้องมีผิดกันบ้าง แหละเนอะ แต่พอเราผิดแล้ว เราก็จะเรียนรู้กับความผิดพลาดของเรา ซึ่งพอเราเรียนรู้ความผิดพลาดนั้นไปแล้ว มันก็จะทำให่เราเติบโตขึ้น

    "ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ผมก็ได้ทำอะไรเยอะแยะเชียว จริงๆไม่คิดเลยว่าจะได้ออกมาทำงานที่ต่างประเทศด้วย เพราะชีวิตนักกฎหมายในออฟฟิศ In house และยิ่งเป็นเด็กจบใหม่ หลายๆคนก็ยังไม่มีโอกาศ แต่ผมว่าผมโชคดีนะ ตื่นเต้นเหมือนกันว่าครึ่งปีหลัง จะมีอะไรให้ทำอีกบ้าง" ผมพูดพลางทำท่านึกคิดไปด้วย

    "พอๆ มีอะไรมากกว่านี้ ชั้นเหนื่อยแย่เลย" 

    "...... 5555555555555555" ขำแห้งสิรออะไร 555555555
    นั่นแหละ ก็เป็นอะไรที่คงไมสสามารถหาโอกาศได้แบบอื่นหรอกที่จะหา เวลา สถานที่ บรรยากาศและประสกาณ์ดีๆแบบนี้ ณ ขณะเวลานี้ก้ใช้ชีวิตในวัยทำงานมาบ้างแล้วนะ เพราะว่านี่ก็เริ่มทำงานมาได้ปีกว่าๆแล้ว พอปีีนี้ได้ออกมาทำงานข้างนออกดูบ้าง ได้ออกมาเจออะไรข้างนอกบ้าง ได้รู้จักคนใหม่ๆบ้าง ก็นับได้ว่าเป็นเรื่องดีๆ และก็เป็นประสบการณ์ดีๆอีกแบบของชีวิต


    ตอนที่เขียน Blog นี้ก็ผ่านมาสักพักแล้วแหละ และก็ยังไม่ได้ออกเดินทางที่ไหนใหม่เนื่องจากตอนนี้ทั้งโลกก็ไดเผชิญกับ Covid-19 ที่ระบาดไปทั่วโลก และตอนนี้ก็อยู่ในช่วงกักตัวพอดี เลยตัดสินใจว่าจะอัพเรื่องนี้ให้ทุกคนได้อ่านกันให้จบๆ หลัจาดองมานาน เอาจริง ตอนนี้เราคิดถึงการเดินทางใหม่ๆมากๆเลยนะ คิดถึงการที่จะได้ออกไปเจอผู้คนอีกครั้ง ดังนั้นสิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี เพื่อที่จะรอวันที่โลกกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง รอวันที่จะได้เดินทางอีกครั้งหนึ่ง ????



     


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in