เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
SALMON FEEDSALMONBOOKS
ชีวิตดีขึ้นทุกด้านด้วยการเปลี่ยนวันทำงานให้เป็นวันหยุด

  • วันจันทร์หลังลองวีคเอนด์เป็นวันที่ชวนใจสลาย ทุกคนต้องกลับสู่โลกความจริงทั้งที่เมื่อคืนยังนอนดูซีรีส์ เมาท์มอยกับเพื่อนฝูงถึงดึกดื่นอยู่เลย (ฮือ) แต่ใครที่ยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร ‘นิดนก’ เจ้าของหนังสือ TWO BE CONTINUED โปรดติดตามตอนแต่งไป และ POWER BRIDE เจ้าสาวที่กลัวสวย นักเขียนผู้ควบตำแหน่งพนักงานประจำไปด้วยจะมาแนะนำเคล็บลับ 'เปลี่ยนวันทำงานให้กลายเป็นวันหยุด' แก่ทุกคนที่ยังอยากพักผ่อนกันต่อ :->
  • สวัสดีฮ่ะ คุณผู้อ่าน เลยช่วงวันหยุดยาวกันมาแล้ว แต่ยังติดใจและติดพันอยากให้วันหยุดยาวมาถึงอีกไวๆ แต่เปิดปฏิทินดูก็ต้องท้อ เพราะกว่าจะมีหยุดยาวหนักๆ อีกทีก็อีกตั้งหลายเดือน #เศร้าอะไรเช่นนี้

    แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อพระเจ้าไม่ได้สร้างวันหยุดยาวมาให้บ่อยๆ เราก็สร้างของเราเองได้ มาร่วมกันเดินหน้าด้านๆ ตั้งปณิธานตั้งแต่วินาทีที่ตอกบัตร ว่าวันนี้เราจะมาใช้ชีวิตวันหยุดในที่ทำงานโว้ย เฮฮฮฮฮฮ (เจ้านายบอก ถามกูหรือยัง)


  • STEP 1
    —Automatic Reply


    ก่อนจะหยุดยาวชาวออฟฟิศส่วนใหญ่มักตั้งค่าอีเมลอัตโนมัติ สำหรับตอบกลับคนที่ส่งเมลมาถึงเราว่า “เฮ้ เราไม่อยู่ออฟฟิศตั้งแต่วันนี้ถึงวันนี้นะ อาจไม่ค่อยสะดวกรับอีเมลเท่าไหร่ ยังไงถ้ากลับมาแล้วจะรีบตอบกลับนะเออ” แล้วก็ออกไปเที่ยวร่อนด้วยความสบายใจ

    ดังนั้น ถ้าเราอยากเปลี่ยนวันทำงานให้เป็นวันหยุด ง่ายๆ ก็แค่ตั้งอีเมลบอกว่าวันนี้เราหยุดนี่แหละ ตอแหลมันแบบดื้อๆ ไปเลย พวกโปรแกรมแชตในออฟฟิศก็ออฟไลน์ให้หมด เป็นมนุษย์ล่องหนไปซะ

    ด้วยวิธีนี้ เราจะตัดขาดการติดต่อกับเพื่อนต่างแผนกหรือต่างชั้นไปได้บ้าง อาจจะเหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในห้องปิดตาย (จะมีมั้ยเล่า!) เพราะยังไงถ้านั่งอยู่ในบริเวณออฟฟิศ เพื่อนในแผนกหรือชั้นเดียวกันเขาก็เห็นเรานั่งหัวโด่ ยิ่งถ้าเจ้านายนั่งอยู่ไม่ไกลในระยะสายตา เราจะมาจะไปยังไงเขาก็เห็น วิธีนีคงไม่เวิร์คแน่นอน

  • STEP2
    —คุยเผาเวลา


    การเมาท์มอยชิทแชตถือเป็นการพักผ่อนที่ดี เพราะนอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับการพูดคุยบริหารสมองและริมฝีปาก ยังถือเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีกับเพื่อนร่วมงานอีกด้วย ในวันที่ใจเราหยุด สิ่งที่ต้องทำก็แค่เดินร่อนชวนคนโน้นคนนี้คุย ไถ่ถามถึงทริปล่าสุดที่น้องเขาไปยุโรปมา ชวนคุยเรื่องลูกของรุ่นพี่ที่เพิ่งเข้าโรงเรียนวันแรก เมาท์ถึงข่าวสารบ้านเมือง ละครหลังข่าว หรืออะไรก็ได้เท่าที่จะนึกออก

  • STEP3
    —กินอาหารที่ดี


    สิ่งที่เราหลายคนชอบทำในวันหยุดคือการตระเวนหาของกินอร่อยๆ ทั่วฟ้าเมืองไทย แล้วทำไมเราจะทำแบบนี้ในวันทำงานไม่ได้ล่ะจริงมั้ย บอกลาร้านข้าวแกงใต้ถุนตึก ร้านบะหมี่ที่เต็นท์ข้างออฟฟิศ ข้าวเหนียวหมูปิ้งริมสะพานลอย แล้วออกแสวงบุญของอร่อยที่อยากกิน

    หากออฟฟิศของคุณพักงานตอนเที่ยง ช่วงสิบเอ็ดโมงครึ่งจะเป็นเวลาที่ชาวออฟฟิศเริ่มงอแง ลุกลี้ลุกลน นั่งไม่ติดโต๊ะ จังหวะนั้นแหละ ให้เราค่อยๆ หยิบของที่จำเป็น (โทรศัพท์กับกระเป๋าตังค์) ใส่กระเป๋าใบเล็กๆ พอดีมือ ทำทีว่าจะไปเปลี่ยนผ้าอนามัยในห้องน้ำ แล้วก็ไหวตัวกดลิฟต์ลงชั้นล่างด้วยจิตใจแน่นิ่ง จะโบกแท็กซี่ หรือจะเรียกผ่านแอพฯ เอาไว้ล่วงหน้าก็ได้ แล้วตรงไปกินร้านที่เล็งไว้ในใจกันเลย

  • STEP4
    —หลับให้เต็มอิ่ม


    วันหยุดคือการพักผ่อน ดังนั้น ถ้าช่วงบ่ายๆ ลมเย็นๆ เราเกิดเคลิ้มๆ ตาปรือขึ้นมา ก็อย่าไปฝืนมัน

    การหลับขั้นเบสิค คือเข้าไปหลับในห้องน้ำ อาจจะมีกลิ่นรบกวนนิดหน่อย แต่รับประกันความเป็นส่วนตัว หากอยากได้การหลับที่มีคุณภาพมากขึ้น ให้แสร้งทำทีเป็นปวดหัวไม่สบาย เดินสะเงาะสะแงะไปที่ห้องพยาบาล ณ ที่นั้น คุณจะนอนหลับเต็มตื่น แค่ต้องต่อสู้กับการซักถามของพยาบาลประจำห้องมากหน่อย

    และสุดท้าย เป็นอันที่หน้าด้านมากๆ เราเคยทำครั้งนึง สมัยทำงานใหม่ๆ คือนอนแม่งใต้โต๊ะนั่นแหละ ปูผ้านอนกันดื้อๆ เอาเก้าอี้สองตัวมาบังไว้หน่อย แต่ด้วยทำเลนั้นมันปลอดภัยด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว เท่านั้นแหละ หลับสบายไปเป็นชั่วโมง ตื่นมารับซองขาวด้วยความสดชื่น (ฮือออ)

  • STEP5
    —ดูซีรีส์


    วันหยุดเป็นช่วงเวลาที่หลายคนเอาไว้ใช้เคลียร์ซีรีส์เรื่องโปรด จะกัปตันยู หรือ Game of Thrones ก็เหอะ แต่กับวันทำงานแบบนี้ วิธีที่ถูกต้องคือเราควรเซฟไฟล์ซีรีส์เหล่านั้นใส่แทบเล็ตหรือฮาร์ดดิสก์ให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการให้เกียรติไม่เบียดเบียนอินเทอร์เน็ตของออฟฟิศ จากนั้นก็เปิดดูพลางเคาะคีย์บอร์ดก๊อกๆ แก๊กๆ เสมือนว่าทำงานไปด้วย

    อนึ่ง ถ้าเจอฉากฟินๆ หรือฉากเสียวไส้ ก็อย่าแสดงอาการจิกหมอนหรือตกใจให้มันออกนอกหน้ามากนัก หรือจะขำแค่ก็ต้องตีหน้าขรึมเข้าไว้ ขอให้เห็นใจเพื่อนร่วมงานที่เขากำลังตั้งใจทำงานด้วย


  • STEP6
    —ท่องเที่ยวออนไลน์


    มองหาจุดหมายปลายทางใหม่เพื่อเติมไฟให้เราตั้งใจทำงาน ทะลุเป้า KPI ได้โบนัสเต็มเม็ดเต็มหน่วย จะได้ออกไปท่องเที่ยววันหยุดกันต่อไป (โถ มึงเข้าเว็บหาที่เที่ยวในเวลางานขนาดนี้ ยังหวังจะได้โบนัสอีกเนาะ)

  • STEP7
    —ทำงานสัญจร


    แนะนำวิธีเลวๆ มาเยอะแล้วเลยจะทิ้งท้ายไว้ด้วยวิธีดีๆ ที่น่าจะเป็นไปได้จริง (แต่ก็ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมองค์กรอีกแหละนะ) คือการลองเปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน จากที่โต๊ะแคบๆ เดิมๆ ในออฟฟิศ ออกไปประชุมคุยงานกันนอกสถานที่ดูก็น่าจะช่วยจำลองความเป็นวันหยุดได้บ้าง

    อาจจะใช้โอกาสบ่ายๆ วันศุกร์ ยกแทบแล็ตออกไปหาร้านกาแฟใกล้ออฟฟิศ มีไวไฟฟรี ไปนั่งทำงาน หรือประชุมเบรนสตอร์มถึงงานที่กำลังจะมาถึงของทีมเรา พลางจิบกาแฟ แทะวาฟเฟิล (และส่องคนหน้าตาดีที่นั่งอยู่โต๊ะอื่น) บรรยากาศใหม่ๆ อาจช่วยให้หัวโล่งดีก็ได้

    แต่ก็นั่นแหละนะ วิธีนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อองค์กรเราค่อนข้างเปิดกว้าง เจ้านายไม่ได้ยึดติดว่าการทำงานจะต้องอยู่ที่โต๊ะเท่านั้น และที่สำคัญก็คือตัวเราเองนี่แหละ ว่ามีความรับผิดชอบและซื่อสัตย์กับตัวเองมากพอ ที่จะออกไปเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานจริงๆ นะ ไม่ใช่ว่าหาช่องออกไปอู้งานกันทั้งทีม
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in