เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ฟิคปรมาจารย์ลัทธิมาร #วั่งเซียน MpregLiWang
(2) 忘羡 – หวนกลับ
  •  


                16 ปีผ่านไป

                หานกวงจวินฝึกตนจนแข็งแกร่งเหนือใครในใต้หล้าช่วยเหลือผู้คนกำจัดคนชั่วเพื่อทดแทนคนที่ไม่มีโอกาสได้ทำมันอีก

     

                แต่ถึงแม้จะผ่านไปอีกซักกี่ปีก็ไร้วี่แววของการตอบกลับจากวิญญาณที่เขาจามหา ฉินที่เล่นไถ่ถามไปทุกหนแห่งและบรรเลงเพลงที่มอบให้แก่คนรัก แม้ไม่ตอบกลับแต่หวังว่าบทเพลงนี้จะส่งไปถึง

     

                เพียงแค่มีชีวิตอยู่ก็ทรมานกับความโหยหาคนที่ห่างไกลอยู่ทุกเวลา

     

                “พรุสัญญาณ..ตระกูลโม่” หานกวนจวินละมือจากกู่ฉินตรงหน้า วาดมือรวบเก็บเครื่องดนตรีตรงหน้าเข้าถุงเฉียนคุณก่อนมุ่งตรงไปยังจุดหมายปลายทาง

     

                ...ตระกูลโม่

     

     

    忘羡

     

     

    tᾺᵏÈhimh€rtorvivifyginithmgiofdrknsswԐiwuinyouwilckhÈregintotkrv€nĠḙthέᵐwԨoinҪriӎintyou...

     

                ค่ำคืนเดือนมืดไร้แสงมีเสียงทุ้มที่ท่องภาษาบางอย่างที่จับไม่ได้ศัพท์ร่างนั้นกรีดเลือดออกจากแขนตัวเองทั้งสองข้างเพื่อวาดวงอักขระตามในตำราที่ได้รับมาจากใครบางคน

     

                ก่อนที่เสียงนั้นจะหยุดลงพร้อมแสงสีแดงสว่างวาบเล็ดลอดออกมาจากหน้าต่างห้องนั้นและค่ำคืนนี้ก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

     

     

    忘羡

     

     

                “... อืม”

                ร่างบางในชุดสีดำสนิททั้งตัวขยับตัวไปมาอยู่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่แต่รู้สึกถึงบางอย่างชื้นแฉะอยู่บริเวณแก้ม แถมมันยังทำให้ใบหน้าครึ่งซีกชุ่มฉ่ำไปหมดจนอดรนทนไม่ไหวต้องลืมตาขึ้นมาจ้องเข้าสิ่งรบกวนการนอน

     

                “เห้ย!” ถึงกับตื่นเต็มตาจ้องมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันคือลาที่เอียงคอมองเขาและทำท่าจะเข้ามาเลียใบหน้าเขาต่อแต่ใครมันจะไปยอมกันหล่ะ

     

                นี่แก้มคนหาใช่ลูกอมให้เจ้าเลียได้ตามใจชอบนะเจ้าลา!

     

                “อย่าตามข้ามานะเจ้าลาบ้าหน้าข้ากินไม่ได้นะ บอกว่าอย่าตามมาไงเจ้าลาโง่” วิ่งมาจนถึงลำธารน้ำแห่งหนึ่งก็ระลึกได้ถึงการมีตัวตนของตัวเอง

     

                “ที่นี่ที่ไหนเนี่ยข้าตายไปแล้วไม่ใช่หรอ” เขามองภาพตัวเองที่สะท้อนกับผืนน้ำอย่างข้องใจแต่เสียงเจ้าลาก็ทำให้เขาต้องหันไปถลึงตามองเจ้าสิ่งที่ตามเขามาไม่เลิกไม่ลาแต่ปรากฏว่าเสียงร้องนั้นไม่ได้จะเล่นด้วย แต่มันกำลังเล่นกับน้ำอยู่

     

                กรอกตามองบนเลยทีเดียวแต่พอก้มสำรวจตัวเองก็พบว่าร่างกายยังคงไว้ในสภาพเหมือนเมื่อ16ปีก่อนไม่มีผิดเนื้อตัวสะอาดสะอ้านจนน่าสงสัยว่าใครที่เป็นคนทำให้ความสะอาดให้จะมีล่องลอยของดินเปื้อนนิดหน่อยนั้นแหละที่น่าจะมาจากการนอนใต้ต้นไม้เมื่อกี้

     

                มือกุมท้องน้อยๆที่กำลังส่งเสียงร้องโอดครวญซะเสียงดังเลยเดินไปหาของกินตามต้นไม้แถวนี้ประทังชีวิต แล้วก็เจอต้นแอปเปิ้ลกำลังสุกได้ที่

     

                “โว้วโชคหล่นทับเลยนะนี่ รอดตายแล้ว” เด็ดมาสามลูกกำลังจะเอามาเข้าปาก แต่กลับมีเจ้าตัวบางอย่างที่มันมาแย่งไปกินเสียก่อน

     

                “นี่มันมื้อเช้าข้านะเจ้าลาบ้ามาแย่งอาหารข้าทำไม” เว่ยอู๋เซียนเบะปากงอนใส่เจ้าลาที่ตอนนี้ยังไม่สำนึกที่เขาว่าไปแถมยังจะแย่งแอปเปิ้ลลูกที่เหลือจากอ้อมกอดเขาอีก

     

                “เอาไปเลยข้าเด็ดใหม่ก็ได้” พอให้เจ้าลากินอีกสองลูกในอ้อมกอดเสร็จเลยเด็ดลูกอื่นมากินต่อก่อนจะนึกอะไรดีๆขึ้นมาได้

     

                “เสี่ยวผิงกั๋ววว”เจ้าลาเหมือนจะฟังออก หันมามองตาวาวอย่างไม่พอใจกับชื่อหน่อมแน้มที่เว่ยอู๋เซียนเป็นคนตั้งให้

     

                “ก็เจ้าชอบกินแอปเปิ้ลชื่อแอปเปิ้ลน้อยก็เหมาะกับเจ้าดีนี่นาเสี่ยวผิงกั๋ว”เสียงคำรามเบาๆของมันบ่งบอกถึงความไม่พอใจแต่เรียกเสียงหัวเราะอย่างดีให้กับเว่ยอู๋เซียน

     

                “เว่ยอิง..”เสียงทุ่มเอ่ยชื่อเรียกนั้นทำเอาคนที่หัวเราะร่าอยู่ชะงักกึกทั้งร่างแข็งทื่อจนกระทั่งมีมืออุ่มมาจับที่ไหล่ให้หันไปเขาสะบัดตัวหนีแต่สู้แรงมืออีกคนไม่ได้

     

                “หลานจ้าน...”เสียงเบาหวิวเมื่อเห็นใบหน้าของอีกคนชัดเจนตอนนี้หลานวั่งจีโตขึ้นมากจากภาพจำก่อนหน้าที่ค่อนข้างเลือนลางยิ่งนักจนแอบหวั่นเกรงถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาว่ามันยาวนานแค่ไหนกัน

     

                บัดนี้หานกวงจวินที่เคยสูงไล่เรื่ยกันก็สูงขึ้นเลยตัวเขาไปอีกเกือบหนึ่งฝ่ามือใบหน้าเขาจึงอยู่บริเวณจมูกคมสันนั้นกรอบหน้าได้รูปนั้นยังคงไว้ซึ่งความสง่างามและหน้าเกรงขามในชุดสีขามสะอาดทั้งตัวดั่งชุดไว้ทุกข์นั้น

     

                สมกับเป็นหานกวงจวิน

     

                “เว่ยอิงเจ้า..กลับมาแล้ว”ถึงแม้มองจากภายนอกแล้วหลานจ้านจะเป็นหานกวงจวินที่น่าเกรงขามขนาดไหน แต่ดวงตาของเขาแดงก่ำพอๆกับใบหู

     

                เว่ยอู๋เซียนยกยิ้มหวานให้คนตรงหน้าอย่างแสนคิดถึงคนที่อยู่เคียงข้างเขาตลอดแม้ว่าจะขัดกับกฎตระกูลแค่ไหนและคาดว่าจะเป็นคนสุดท้ายในชีวิตนี้ที่จะหันหลังให้ตัวเขา

     

                ทั้งที่เคยคิดว่าเจียงเฉิงจะเข้าใจและเป็นคนที่อยู่ข้างกันเป็นคู่หูแห่งอวิ๋นเมิ่งแม้ว่าจะไม่ใช้วิชาเซียนก็ตาม

     

                “หลานจ้านหนาหลานจ้าน”คนที่เพิ่งกลับมาขยับใกล้ร่างสูงอีกนิด ยกมือบางลูบแก้มสากอย่างอ่อนโยน

     

                “ใช่ข้ากลับมาแล้ว”

     

                หลานวั่งจียังคงเก็บทุกอย่างไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยแต่ยามนี้เขาปล่อยทุกอย่างทิ้ง แม้กระทั่งของในมืออย่างกระบี่ปี้เฉินกระบี่คู่กายก็ตกไปอยู่บนพื้นเป็นที่เรียบร้อย

     

                หานกวงจวินละความสนใจจากสิ่งรอบตัวจะสนใจก็แต่คนที่ตนคว้าเข้ามากอดแน่นด้วยความโหยหา ความเปียกชื้นนิดๆที่คอเป็นสิ่งยืนยันถึงความเปลี่ยนแปลงและความเจ็บปวดของคนตรงหน้าได้ดีแม้ไม่ได้เห็นด้วยตา

               

                น้ำตาของหานกวงจวินหลั่งรินเพื่อเขาและมันจะไม่มีใครได้เห็นหยดน้ำตานั้นเป็นอันขาด ของสูงค่าอย่างนั้น

     

                “ข้ารักเจ้า”คำบอกรักของคนตรงหน้าทำเอาคนถูกบอกรักกะทันหันถึงกับตัวแข็งทื่อหลายปีที่ผ่านมาแม้ว่าหลานจ้านจะยังเป็นเจ้าท่อนไม้เดินได้อยู่แต่กล้าแสดงออกมากขึ้นแล้วสินะ ช่างน่าภูมิใจเสียจริง

     

                แต่คนอย่างหานกวงจวินมาบอกรักเขาแบบนี้ถ้าใครมาได้ยินเข้าจะเป็นผลเสียแก่เจ้าตัวเองนั้นแหละ “หลานจ้านไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่ปี เจ้าเป็นต้วนซิ่ว(断袖)แล้วงั้นรึ” ดันอกคนตรงหน้าเบาๆแล้วหยิบผ้าในอกเสื้อเสื้อเช็ดหน้าเช็ดตาให้แต่หลานจ้านยังไม่ยอมปล่อยมือที่โอบเอวบางเอาไว้เหมือนกลัวว่าหากคลายมือแล้วร่างนี้จะหายไปอีกครั้ง

     

                “สิบหกปี”เสียงนิ่งๆตอบกลับมาทำเอาคนได้รับคำตอบแทบช็อคสิ้นสติ

     

                “หะ?!!! สิบหกปีเชียว”หลานจ้านพยักหน้ารับด้วยหน้านิ่งๆขอบตาหายแดงแล้ว

     

                “แล้วนี่เจ้ามาทำอะไรที่นี่กันแถมมาคนเดียวแบบนี้อีก เจ้าเป็นคนปลุกข้าขึ้นมาหรืออย่างไร” ร่างบางเหล่ตามองถึงจะรู้ดีว่าคนอย่างคุณชายรองหลานไม่มีทางทำเช่นนั้นเป็นแน่

     

                “พลุสัญญาณที่ตระกูลโม่มีวิญญาณอาฆาตออกอาละวาด กำลังเดินทางกลับ”จับใจความได้ว่าท่านหานกวงจวินไปช่วยคนในตระกูลจัดการวิญญาณอาฆาตที่ตระกูลโม่เสร็จระหว่างทางกลับเลยมาเจอข้าเข้าก็เท่านั้น

     

                “เจ้ารู้ได้ไงว่าเป็นข้า”ร่างน้อยเอียงคอสงสัย

     

                “เสียงหัวเราะ”สงสัยว่าเว่ยอู๋เซียนจะทำหน้าตลกเกินไป หลานวั่งจีคนดีถึงได้กระตุกยิ้มขึ้นมาได้

     

                แต่...หลานวั่งจีจำข้าจากเสียงหัวเราะเนี่ยนะ?!!

     

                “งั้นเจ้าเจอคนน่าสงสัยบ้างมั้ยน่าจะซักสองสามคนในระแวกนี้ช่วงชั่วยามสองชั่วยาม” หลานจ้านส่ายหน้า ใบหน้าเข้มปรากฏคิ้วขมวดแน่นอย่างเริ่มจับเค้าอะไรได้

     

                ใช่ น่าแปลกมากน่าแปลกเกินไป

     

                แต่ตอนนี้“ปล่อยข้าก่อนเถิด เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดี”หลานจ้านยังคงตอบคำถามเป็นการส่ายหน้าเช่นเดิม

     

                “หลานจ้านอ่าอย่าทำเช่นนี้เลยชื่อเสียงเจ้าจะเสื่อมเสียหากใครมาเจอท่านหานกวงจวินกอดกับอี๋หลิงเหลาจู่แบบนี้นะหลานจ้าน ข้ารู้สึกแย่ที่ทำให้เจ้าถูกคนมองไม่ดี” ดียิ่ง! พูดปากเปียกปากแฉะมาตั้งนานพอบอกว่าตัวข้าจะรู้สึกไม่ดีถึงกับปล่อยทันทีแบบนี้ข้าเคยทำยาเสน่ห์หกใส่หรืออย่างไรกันฮะ หลานวั่งจี

     

                “ผู้ใดกล้าเอ่ยนามของปรมาจารย์อี๋หลิง!!!

               

                เสียงตวาดลั่นดังไปทั่วผืนป่าจนเจ้าของนามสะดุ้งหลบหลังหลานจ้านโดยที่เจ้าเสี่ยวผิงกั๋วก็มาแย่งพื้นที่หลบที่หลังหลานจ้านด้วยแถมยังเบียดจนแทบจะเรียกได้ว่าถีบออกจากด้านหลังของหานกวงจวินอีก เจ้าลานิสัยเสีย!

     

                เจ้าจะมีเสน่ห์ต่อทุกคนรวมถึงสัตว์แบบนี้ไม่ได้นะหลานจ้าน

     

                “ที่แท้เป็นหานกวงจวินคุณชายรองตระกูลหลาน นั้นใคร!” ทักทายพอเป็นพิธี แต่เพราะเหลือบไปเห็นคนหน้าใหม่ที่ยืนหันหลังอยู่จึงตวาดคนที่ไร้มารยาทที่ไม่ทำความเคารพตนที่เป็นถึงประมุขตระกูล

     

                เว่ยอู๋เซียนสะดุ้งไม่ยอมหันหน้ากลับไปตามคำสั่งเพราะรู้ดีว่าถ้าเจ้าของเสียงนั้นหากได้เห็นหน้าแล้วคงได้จัดการเขาที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาให้ตายสนิทค่าที่แห่งนี้เป็นแน่กลับมามีชีวิตได้ไม่ถึงชั่วยามข้าจะจากโลกนี้ไปอีกแล้วหรือนี่

     

                “เพ่ย! ข้าพูดไม่ได้ยินหรือไงหันกลับมา!” เสียงของแส้จื่อเตี้ยนฟาดลงกับพื้นด้วยความฉุนเฉียวสร้างความหวาดวิตกให้กับเว่ยอู๋เซียนอย่างหนักพอๆกับที่กำลังเถียงตัวเองว่าควรทำตามคำสั่งนั้นดีหรือไม่

     

                “คนของข้า”เสียงทุ่มดังขึ้นด้านหลังทำให้ดวงใจน้อยๆเหมือนได้รับการเติมเต็ม ได้รับการปกป้องจากคนผู้นี้ไม่นับว่าเดียวดายอีกต่อไป

     

                “ฮึ! น่าสนใจจริงๆใครกันที่ทำให้คนอย่างหานกวงจวินยอมเอ่ยตัวปกป้องได้”

     

                “ท่านน้าข้าล่ากวางมาได้ตัวนึง”เสียงของเด็กชายในชุดสกุลจินดังขึ้นพร้อมการปรากฎตัวที่ทำให้เขาพลาดท่าเสียทีเผลอหันหน้ากลับไปมองผู้มาใหม่

     

                “เว่ยอู๋เซียน!!!

     

     

     

     

     

     

     


    หลานจ้านยอมแล้วทรมานมานานให้เขาได้บอกหน่อย

    หมายเหตุคือไม่รู้ว่ามนต์มันท่องว่าอะไรจะพยายามอ่านก็ได้นะ5555

    ฝากติดตามด้วยนะคะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in