เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกนักอยากเขียนSooth Suwansakornkul
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
  • ADVERTISEMENT

    พระหนุ่มรูปหนึ่งได้รับเชิญไปเทศน์ในงานบุญ
    พระก็เทศนาว่าด้วยเรื่อง "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"

    สักพักก็มีเด็กน้อยคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า"แต่คนเราสังเคราะห์แสงเองไม่ได้นะครับหลวงพี่ เราต้องพึ่งต้นไม้"

    แล้วคนที่เข้ามาฟังเทศน์ก็หัวเราะพระหนุ่มรู้สึกเสียหน้า เลยเผลอตอบไปว่า

    "สุดท้าย เธอก็ต้องพึ่งจมูกและปอดของเธอเองเพื่อหายใจใช่มั้ย"

    พอชาวบ้านได้ยินเช่นนั้นก็ส่งเสียงฮือฮาสาธุผู้ใหญ่บ้านจึงหันมาหัวเราะแล้วบอกเด็กน้อยว่า

    "วันหลังจะพูดอะไร ให้ใช่สมองคิดเสียก่อน เถียงพระเถียงเจ้ามันบาปนะหนู"

    เด็กน้อยรู้สึกเสียใจคับแค้นใจที่โดนตำหนิจึงมุมานะเรียนให้เก่งจนจบเป็นหมอกลับมาเปิดโรงพยาบาลที่บ้านเกิด

    วันหนึ่งผู้ใหญ่บ้านก็มาพบหมอเจ้าของโรงพยาบาลเพื่อรักษาโรคมะเร็งปอด

    "หมอ ช่วยผมด้วย ผมต้องพึ่งหมอแล้วนะ"เขาบอก

    หมอเจ้าของโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยของเขาอย่างสุดความสามารถ

    แต่ก็ไม่อาจรั้งชีวิตของคนไข้ไว้ได้

    ในงานศพที่วัด เจ้าอาวาสที่เดิมคือพระหนุ่มนักเทศนาบอกกับหมอหนุ่มว่า

    "ทำใจเถิดนะหมอ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ผู้ตายสูบบุหรี่จัด เขาคร่าชีวิตตนเอง เพราะคนอื่นบอกให้เลิกสูบเขาก็ไม่ยอมเลิก"

    พอพระนักเทศน์พูดจบหมอหนุ่มก็พูดขึ้นว่า

    "แล้วตนจะเป็นที่พึ่งแห่งตนได้อย่างไรครับพระครู ถ้าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนได้ ทำไมเขาไม่เลิกสูบบุหรี่ด้วยตนเอง"

    พระนักเทศน์จึงตอบว่า "เพราะเขาไม่คิดว่าการสูบบุหรี่นั้นเป็นทุกข์น่ะสิโยม จนกระทั่งป่วยเป็นมะเร็งนั่นแหละ"

    พระนักเทศน์เห็นสีหน้าหมองคล้ำของหมอยังอยู่จึงพูดต่อไปว่า

    "หมอยังทุกข์อยู่ไหม ถ้าทุกข์อยู่ ก็แก้ที่เหตุแห่งทุกข์นั้นแหละ อาตมาแก้ให้หมอไม่ได้ หมอต้องแก้เอง อัตตาหิอัตโนนาโถนะหมอ"

    ...

    "แล้วถ้าวันหนึ่งอาตมาป่วยจนเข้าขั้นวิกฤตถึงแก่มรณะภาพ นั่นก็เป็นกรรมของอาตมาเองเช่นกันนะ"

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in