แม้ว่าจะมีแดด แต่ถึงกระนั้นผมเองยังคงไม่ไว้วางใจในอากาศแบบนี้เลย เพราะมันเป็นบรรยากาศปลายฝนต้นหนาว ไม่ใช่บรรยากาศหน้าหนาวเลยสักนิด

กิจกรรมยังคงเหมือนเดิม แต่ที่แปลกตาไปกว่านั้นก็คือมีชาวบ้านมาทำกิจกรรมช่วงเช้าที่โรงเรียนด้วย 

ภาษาไทย

ยังคงเป็นเรื่องของประโยคและคำต่างๆในประโยค   พวกคำนาม และคำกริยา รวมถึง  กรรม

วันนี้ก็จบเพียงเท่านี้   และปล่อยให้เด็กๆไปทำกับข้าวกัน

อาหารกลางวัน

อาหารกลางวันวันนี้เป็นตำมะละกอครับผม   ความจริงเรียกมันว่ายำมะละกอเหอะเพราะเราใช้การยำส่วนผสมแทนการตำครับผม

การสอนในครั้งนี้จะเป็นการคิดเลขแบบคละ ต่อจากเมื่อวานนี้และเราได้สร้างโจทย์ให้เด็กแปลงโจทย์จำนวนเต็มให้เป็นเลขทศนิยม   แล้วก็ลองให้เด็กๆทำพร้อมเฉลยให้เด็กๆดูด้วย

หลังจากนั้นเราก็เริ่มเล่นบอร์ดเกมส์ ธรรมดาๆ ที่ทำจากกระดาษ A4 รีไซเคิล ที่สนุกและมัสน์จนน่าปวดหัว ซึ่งจะเล่าในโอกาสต่อไปครับผม

และก็หมดวันสำหรับวันนี้   เด็กๆไม่มีการบ้านที่จะต้องส่งพรุ่งนี้เพราะเราไม่มีเวลาตรวจ

ส่วนคุณครูต้น ไปที่อมก๋อยวันนี้ช่วงบ่าย 2 โมงที่ผ่านมา ผมจึงได้สอนเด็กๆ ประถมทั้งหมดในช่วงบ่าย และให้คุณครูพริ้วดูเด็กอนุบาล (คุมนอน) และพาเล่นบอร์ดเกมส์ช่วงบ่าย ความจริงเราเริ่มเล่นกันตั้งแต่ช่วง เช้าแล้ว และให้รางวัลกันไปแล้ว แต่ รอบนี้คือเล่นเอามันและชวนครูพริ้วมาเล่นด้วย  และเราก็เล่นไม่สุดสักที เวลาในการเล่นเกมส์นี้ต้องมีเยอะจริงๆนั่นแหละ

ส่วนในตอนเย็นนั้นเราก็กลับไปชมอาทิตย์ตกเหมือนดังเช่นทุกวันครับ  พียงแค่วันนี้เค้าลางของเมฆฝนมันมาแล้วจริงๆ ในเย็นวันนี้   ผมมองหน้าพี่สุ่นในท่าทางที่รู้กัน พี่สุ่นก็คงรู้เช่นกันว่าเราหมายถึงอะไร

ส่วนพี่สุ่นนั้น ก็หาทางสมัครเน็ตจนได้และได้เล่นเน็ตเสียทีนะ

ส่วนเราเองก็นั่งเอ๋อๆ  ถ่ายภาพกันไปและก็อัดคลิปเมฆที่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆและรวดเร็วตามจังหวะของสายลม และอากาศเย็นๆนั้น โดยเราหวังว่าวันพรุ่งนี้เราจะได้มาดูอาทิตย์ขึ้นที่นี่สักครั้ง