เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
DIVASnapwk
เพราะเธอคือสิ่งมีชีวิตที่งดงามที่สุดในโลก Ava Gardner
  • . . . นักแสดงสาวผู้มาพร้อมกับความสวยสง่า มีรูปร่างที่ใครเห็นก็ต้องหลง มีใบหน้าสวยขนาดที่ได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่งดงามที่สุดในโลก เอวา การ์ดเนอร์ . . .

     

    เอวา การ์ดเนอร์ เกิดเมื่อ 24 ธันวาคม ปี 1922 เป็นหนึ่งในสุดยอดดาราสาวแห่ง MGM อีกคน เธอมีความสวยขนิดที่ว่า มีผู้ชายมากมายพยามจะถวายตัวให้เธอ (ก็เอาบ้างไม่เอาบ้าง) ความสวยของเธอได้รับการกล่าวขานให้เป็น สิ่งมีชีวิตที่งดงามที่สุดในโลก (The World's  Most Beautiful Animal)

    และแน่นอนว่าเธอไม่ได้มีดีแค่ความสวยอย่างเดียว เพราะมีผลงานการันตีฝีมือมากมาย เลยได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 25 สุดยอดนักแสดงsหญิงตลอดกาล จากสถาบันภาพยนตร์แห่งอเมริกา (AFI) เธออยู่ในวงการยาวนานกว่า 40 ปี มีผลงาน 60 กว่าเรื่อง โดยที่ตลอด 40 ปีนั้นกระแสความนิยมในตัวเธอก็ยังคงมีอยู่ตลอด เรียกได้ว่าหนังเรื่องไหนขึ้นชื่อเอวา การ์ดเนอร์ ไว้ ก็ปังทุกเรื่อง โดยเธอโด่งดังแบบสุดๆจากผลงานภาพยนตร์เรื่อง TheKillers ในปี 1946

    เอวาเกิดในครอบครัวที่ยากจนแบบสุดๆพ่อแม่เป็นชาวสวนยาสูบ และมีพี่น้องทั้งหมด 7 คน ทางบ้านของเอวามักจะมีปัญหาเรื่องการเงินอยู่บ่อยๆจนต้องขายสวนยาสูบทิ้ง (เรียกว่าโดนยึดน่าจะตรงกว่า) และเหมือนโชคชะตายิ่งซ้ำเติมเมื่อพ่อของเธอจากไปเมื่อเธออายุได้16 ปีเท่านั้น

    สาวน้อย เอวา การ์ดเนอร์

    เอวาจึงตั้งใจเรียนมากเพื่อที่จะทำงานด้านเลขา และมีโอกาสได้เข้าเมืองมาเยี่ยมพี่สาวของเธอที่นิวยอร์ค ตอนอายุ 17 ปีตอนนั้นพี่เขยของเธอเป็นช่างภาพ และเห็นถึงเสน่ห์ของเธอ เลยถ่ายภาพเธอและลองส่งให้ค่าย MGM ดู

    . . . ภาพสาวน้อยผมสีดำ นัยน์ตาสีเขียว สะกดทีม MGM ได้อยู่หมัด ทำให้เธอได้มาทดสอบกับทางค่ายและได้เซ็นสัญญาในปี 1941 โดยเป็นสัญญายาว 7 ปี กลายและเป็นตำนานแห่งความงามมาถึงทุกวันนี้ . . .


  • แต่ก็ไม่ใช้เรื่องง่ายที่จะดังเปรี้ยงในชั่วข้ามคืนเมื่อได้เซ็นสัญญาแล้ว เอวา ได้ค่าตัวอาทิตย์ละ 50 เหรียญเท่านั้น และยังต้องเข้าปรับบุคลิกกับทางต้นสังกัดด้วย ทั้งเรียนการแสดงและการฝึกพูดใหม่ เพราะเธอมีสำเนียงทองแดงนั่นเอง (เด็กใต้จ้าอิอิ) เดิมทีเอวาเป็นคนขี้อาย ทำให้ช่วงแรกในการเป็นนักแสดงของเธอลำบากหน่อยเพราะเธอมีอาการตื่นกล้อง วิธีที่ทำให้เธอผ่อนคลายลงคือ จิบแอลกอฮอล์ซักนิดหน่อยก่อนเข้าฉากเพื่อดึงความกล้า...เรื่องกินเหล้าแก้เขินนี่เป็นมุกที่ใช้ได้ทุกยุคจริงๆสินะ

     เอวา กับเบิร์ต แลงเคสเตอร์ จาก The Killers สวยโฮก...


    เอวาใช้เวลาในการสร้างผลงานานมากกว่าจะได้เลื่อนขึ้นมาแสดงในบทนำและในปี 1946 นั้นเธอก็ได้เล่นภาพยนตร์เรื่อง The Killers ของทางค่าย Universal แล้วก็ดังเปรี้ยงแบบฉุดไม่อยู่ ทั้งหนังทั้งคนกันเลยทีเดียว

    ด้วยความสำเร็จครั้งนั้น ทำให้เธอมีงานเข้ามามากมายและประสบความสำเร็จมาโดยตลอด ไม่ว่าจะบทนำหรือบทรอง เธอก็ตีบทได้แตกกระจุยทุกเรื่อง ผลงานที่เป็นที่จดจำคือ The Hucksters (1947), ShowBoat (1951) และ The Snows of Kilimanjaro (1952)

    และเราก็ได้รู้จักเธอในเรื่อง One Touch of Venus ภาพยนตร์ปี 1948 ที่ว่าด้วยเรื่องของชายหนุ่มที่ทะลึ่งไปจุ๊บรูปปั้นเทพวีนัส (เอวา การ์ดเนอร์) แล้วอยู่ๆเธอก็กลายเป็นคนมาซะงั้น ซึ่งในเรื่องเอวาก็สวยงามไม่ต่างจากเทพเลยจริงๆ

    จาก One Touch of Venus เทพธิดาตัวจริง สวยยังกะรูปสลักหินอ่อน ละมุนเหลือเกิน


    จากเรื่อง Mogambo ในตำนาน

    เธอเป็นที่พูดถึงอย่างมากอีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่อง Mogambo (1953) ซึ่งเรื่องนี้เองทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar แต่ต้องพลาดไปเพราะปีนั้น ออเดรย์ แฮปเบิร์น ได้รางวัลไปแทน (ถูกที่ผิดเวลาน่าสงสารจัง) และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในรางวัลลูกโลกทองคำอีก 3 ครั้ง แต่น่าเสียดายที่เธอก็ไม่เคยได้รางวัลเลย ฮือๆๆๆๆ


    เอวา สูงถึง 170 กว่าๆ แต่มีรอบเอวเล็กเพียง 18 นิ้ว

    เอวาถือได้ว่าประสบความสำเร็จในอาชีนักแสดงของเธออย่างมากด้วยความฮิตที่เพิ่มขึ้น ตัวเธอเองก็ยิ่งสวยขึ้นไปอีกเช่นกัน ด้วยความสวยและมาดที่ดูสง่า ก็ทำให้เธอได้รับแต่บทหญิงสูงศักดิ์ มีฐานะ และส่วนใหญ่เอวาเองก็ไม่ได้เล่นเป็นนางเอกบ่อยนะแต่ทุกเรื่องที่มีเธอมันดังทุกเรื่องจริงๆ

  • คนสวยที่สวยมาก ก็ต้องมีเรื่องราวความรักมากมายเป็นธรรมดาโดยเอวาก็มักจะมีข่าวก็หนุ่มๆตลอด ตั้งแต่สาวยันแก่เลยจริงๆ โดยแรกเริ่มหลังจากที่เข้าวงการได้ไม่นาน เธอก็มีโอกาสได้รู้จักกับพระเอกหนุ่ม มิกกี้ รูนี่ย์ ทั้งคู่แอบคบกันและแต่งงานกันในปี 1942 (ขณะนั้นเอวาอายุ 19 และตัวมิกกี้อายุเพียง 21 ปี) โดยการแต่งงานของทั้งคู่ก็เป็นความลับเช่นกัน เพราะทาง MGM ต้องรักษาชื่อเสียงและความนิยมของตัวพระเอกหนุ่มเอาไว้ประมาณว่าในยุคนั้นถ้านักแสดงคนไหนไม่ว่าจะหญิงหรือชายที่กำลังโด่งดังจะไม่แต่งงาน ไม่มีแฟน เพราะถ้าเป็นคนมีคู่ความนิยมจะลดลง (ตอนนั้นเอวาก็ยังไม่ดังด้วยล่ะ ถ้าดังแล้วแต่งกันก็น่าจะโอเค) แต่อยู่กันก้นหม้อข้าวยังไม่ทันดำ ทั้งคู่ก็แยกทางกันในเวลาต่อมา โดยเอวาบอกว่าพระเอกหนุ่มนั้นนอกใจเธอไปมีคนอื่น

     

    โฮเวิร์ด ฮิวจ์ ตัวจริง


    หลังจากเจ็บช้ำจากรักแรกจากสาวขี้อาย บ้านๆก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที เอวาเริ่มดื่มและสูบบุหรี่อย่างจัด แถมยังชอบออกไปงานสังสรรค์แบบไม่มีเหน็ดเหนื่อย แล้วก็ได้มีข่าวกุ๊กกิ๊กกับเศรษฐีหน้ามน คาสโนว่าตัวพ่ออย่าง โฮเวิร์ด ฮิวจ์ แต่เอวาก็ออกมาบอกนะ ว่าระหว่างเธอกับเขาน่ะไม่มีอะไรจริงๆสุดท้ายทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนกันมาอีกนานเลยล่ะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง The Aviator ปี 2004 ด้วยนะ

    เป็นเรื่องเกี่ยวกับ โฮเวิร์ด ฮิวจ์ ที่รับบทโดย ลีโอนาโด ดิ คาปริโอ
    และตัว เอวา การ์ดเนอร์ ก็รับบทโดย เคท เบคคินเซล


    ต่อมาเอวาก็ได้แต่งงานอีกครั้งในปี 1945 กับนักดนตรีแจ๊ส อาตี้ ชอว์ สามีเก่าของนักแสดงสาว ลาน่า เทอร์เนอร์ นั่นเอง แต่สงสัยรักนี้ก็คงยังไม่ใช่เพราะก็เลิกกันในปีต่อมา ถึงจะดูไม่มีโชคด้านความรักแต่สุดท้ายเธอก็ได้พบกับคนที่เธอรักหมดหัวใจอย่าง แฟรงค์ ซินาตร้า นักดนตรี-นักร้องเพลงแจ๊สที่โด่งดังมากเช่นกันในขณะนั้น


    คู่ฉาวแฟรงค์ ซินาตร้า กับเอวา

    ด้วยความด่งดังของทั้งคู่ ทำให้ความรักของพวกเขาโดนจับตามองจากทุกสำนักข่าว เพราะในขณะที่ทั้งคู่คบกัน แฟรงค์นั้นก็มีภรรยาอยู่แล้ว พร้อมทั้งลูกอีก 3 คน (อ้าว!?) แต่สุดท้ายในปี 1951 แฟรงค์ก็ตัดสินใจหย่าจากภรรยาและมาแต่งงานกับเอวา ซึ่งนั่นก็เป็นประเด็นใหญ่ให้นักข่าวเล่นอีกเช่นกัน แล้วความรักที่ทั้งคู่มีให้กันนั้นมากเหลือเกิน ทั้งคู่รักกันมากกกกกกกก และก็หึงกันมากเช่นเดียวกัน บ่อยครั้งที่ทั้งคู่มีปากเสียงและทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นขว้างปาทำลายข้าวของทีเดียวเชียว ทำให้ทั้งคู่ก็แต่งๆ หย่าๆกันถึง 3 ครั้ง

    . . . และในที่สุดความรักของทั้งคู้ก็จบลงอย่างจริงจังในปี 1957
    ก็นับว่าเป็นชีวิตรักที่ยาวนานที่สุดของเอวาเลยก็ว่าได้ โดยหลังจากที่เลิกกัน ทั้งคู่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมา . . .

  • หลังจากที่หย่ากับแฟรงค์ เธอเองก็ไม่ได้ต่อสัญญากับทาง MGM ต่อ แต่ก็ยังได้เล่นภาพยนตร์อยู่เรื่อยมา จนช่วงปี 60’s เอวาได้เดินทางย้ายไปอยู่ที่เสปนและก็เป็นที่เม้าท์กันว่าเธอแอบกิ๊กกับนักเขียนชื่อดัง เออเนส แฮมมิงเวย์ ที่นั่นเอง และถ้าไม่ฉาวก็คงไม่ใช้เอวา เนื่องจากเออเนสเป็นคนชอบดูสู้วัวกระทิง ก็พาเอวาไปดูด้วยกันบ่อยๆ ดูไปดูมาอ้าว โฉมงามก็ไปคบกับมาธาดอร์หนุ่มแทนซะงั้น

    ที่จริงเรื่องฉาวกับหนุ่มของเอวาการ์ดเนอร์นี่มีมากมายเหลือเกิน กระทั่งว่าตอนที่คบกับ แฟรงค์ ซีนาตร้า เธอก็เคยแอบไปกุ๊กกิ๊กกับ เคิร์ท ดักลาส ด้วยนะ ประมาณว่าแอบย่องเข้าไปหาพระเอกหนุ่มในห้องนอนเลย (ร้ายจัง) แต่พระเอกหนุ่มนั้นกลัวปืน ที่แฟรงค์มีในครอบครองเลยต้องยอมถอยไปในที่สุด

     

    เอวาในช่วง 60-70's ความสวยไม่เปลี่ยนแปลง

    และการเดินทางครั้งสุดท้ายการมาถึง สังขารย่อมไม่เที่ยง เอวาใช้ชีวิตบั้นปลายที่ประเทศอังกฤษและเสียชีวิตลงเพราะโรคถุงลมโป่งพองโดยมีโรคอื่นแทรกด้วย เธอทรมาณจากอาการป่วยอยู่หลายปีและก็จากไปในปี 1990 ในวัย 67 ปีเท่านั้น

     

    เอวา การ์ดเนอร์ สูบบุหรี่ เป็นภาพที่เห็นกันจนชินตา

    ตลอดที่เธอป่วยและเข้ารับการรักษา แฟรงค์ ซินิตร้า ก็มาเยี่ยมเยียนตลอดและเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เธอเองซึ่งมันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรักที่แฟรงค์มีให้เธอ (เพราะเธอก็มีเงิน ไม่ได้ขัดสนนะ) ตอนแต่งงานทะเลาะกันเป็นบ้า แต่พอเลิกกันกลับรักและเข้าใจกัน โดยความรักของทั้ง 2 ได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเพลง Frank & Ava ของ ซูเซียนนา เวก้า ด้วยนะ ถึงแม้เพลงจะมีจังหวะที่สนุกสนาน แต่ใจความในเพลงมันน่าเศร้าเหลือเกิน (เพราะมันคือเรื่องราวของทั้งคู่นั่นล่ะ) ก็เหมือนกับท่อนนึงในเพลงที่สรุปใจความไว้ทั้งหมดก็คือ "...And so now we know it's not enough to be in love."


    "หรือบางทีกระทั่งคนที่ร้องเพลงรักมานับไม่ถ้วนอย่าง แฟรงก์ ซิเนตร้าหรือคนที่เล่นบทบาทหญิงสาวผู้มีความรักมานับไม่ถ้วนอย่าง เอวา การ์ดเนอร์ก็อาจยังไม่เข้าใจความรักจริงๆ ก็เป็นได้"

    - วิภว์ บูรพาเดชะ
    คอลลัมน์ 'แฟรงก์ กับ เอวาและสิ่งที่เหนือกว่ารัก'

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in