เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
สวัสดี นี่เพื่อนใหม่เรา ชื่อคิตะคิวชูaprilgnawk
02 - วันสัมภาษณ์ ณ อโศก เมืองอันเปิ๊ดสะก๊าด



  •           นับจากวันที่รู้ว่าตัวเองติดสัมภาษณ์ สิ่งแรกที่ทำเลยคือ 'ลางาน' ค่ะ เหตุเพราะวันสัมคือวันศุกร์ ซึ่งยังต้องฝึกงานอยู่ หลังจากลาเรียบร้อยค่อยมานั่งดูรายละเอียดที่จะต้องเตรียมตัวจากอีเมลล์ที่ทางโครงการส่งมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นรายละเอียดที่ทางโครงการได้แจ้งไว้ตั้งแต่วันสมัครแล้ว ยกเว้นอยู่ข้อนึง

              "ในการสัมภาษณ์ ผู้ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์จะต้องถ่าย Selfie VDO ต่อหน้าคณะกรรมการ โดยแนะนำตนเอง ความยาว 1 นาที และ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใน Kita Kyushu ความยาว 2 นาที กรุณาเตรียมบทพูด และอุปกรณ์มาให้พร้อม "



              ห๊ะ...

              นี่เป็นอารมณ์แรกหลังจากอ่านจบ สัมภาษณ์โดยการถ่ายเซลฟี่หน้าคณะกรรมการเอย เตรียมอุปกรณ์ไปด้วยเอย เป็นอะไรที่ไม่คุ้นจริงๆ ตอนแรกนึกว่าจะต้องไปสัมภาษณ์แบบปกติๆ ใจก็คิดละ จะเอาอะไรไปพูดดีนะ เพราะทั้งชีวิตเกิดมาก็ไม่เคยไปญี่ปุ่นเลย 55555555555 สุดท้ายก็ใช้วิธีคิดสถานที่ TOP 5 ที่เราคิดว่าน่าไป และสามารถบ่งบอกถึงสีสันที่หลากหลายของเมืองได้ พร้อมกับสคริปท์คร่าวๆไป วาดรูปใส่กระดาษร้ยปอนด์ติดมือไปด้วย (ฝีมืออนุบาลหมีน้อยมาก...)


    .
    .
    .
    .
    .


              วันจริง เป็นวันที่ชุลมุลอลหม่านมาก มีสัมภาษณ์ตอนเที่ยง นี่ก็เผื่อเวลาไว้เดินทางหนึ่งชม เพราะคิดว่าคงใช้เวลาเดินทางพอๆกับไปที่ฝึกงานแหละ สรุปไม่ใช่จ้า มองนาฬิกาเห็นหน้าปัดอยู่ที่ 11.45น. ทว่า

              

      " สถานีต่อไป สยาม โดยประตูรถจะเปิดด้านขวา ... @#%$@%"

                   

              เอาแล้ว... เวลาแค่นี้แต่ยังเหลืออีกตั้งหลายสถานี แถมพอถึงอโศกก็ต้องงมหาตึกอีก เพราะไม่เคยไปเลย ท้ายที่สุดแต้มบุญก็หนุนนำเราให้ถึงอโศกเวลา 11.50 โชคดีมากที่วันก่อนแคปภาพแผนที่เอาไว้ เลยงมๆตามแผนที่ แต่งมแบบวิ่งมาราธอนมาก ใครที่เห็นผู้หญิงตัวโย่งๆผมเพิ้งๆวิ่งพรวดพราดบนสกายวอล์กอโศกวันนั้นก็ต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แง ซึ่งพอเข้าตึกก็ต้องไปแลกบัตร แลกบัตรเสร็จก็ต้องรอลิฟท์ ขอบคุณสกิลนินจาฮาโตริที่ได้จากการดู NCT life in osaka (ห๊ะ?..) ทำให้วาร์ปตัวเองมาอยู่ที่นัดสัมภาษณ์ได้ในเวลา 11.56 น. 

              
             " น้องนั่งรอก่อนได้เลยค่ะ " พี่ที่เคาท์เตอร์บอกสีหน้ายิ้มๆ แต่คือสภาพนี่ไปหมดแล้วจ้า วิ่งมาหัวฟู หน้าเน่อไปหมดแล้ว หายใจหายคอได้แปปนึงก็เดินตามพี่คนเดิมเข้าไปในห้องสัมภาษณ์ ในนั้นมีคณะกรรมการอยู่ 4 ท่าน เป็นคนไทย 3 คนญี่ปุ่น 1 ซึ่งในการสัมภาษณ์ช่วงแรกๆจะเป็นช่วงให้แนะนำตัว ออกแนวทำให้เราผ่อนคลายไม่ตื่นเต้น ซึ่งนี่ก็ยังตื่นเต้นเหมือนเดิม 5555555 จากนั้นก็สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ อ้อ ลืมบอกไปว่าสัมภาษณ์สามภาษานะ สัมไทยเยอะสุด ต่อมาก็สัมญี่ปุ่นกับกรรมการชาวญี่ปุ่น คำถามไม่ยาก แต่จำได้ว่าตื่นเต้นจนเรียงประโยคผิดๆถูกๆไปหมด ตอนสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน ลิ้นพันกันไปหมด ไม่ต้องถามถึงสคริปที่เตรียมมานะคะ ปลิวหายไปตอนวิ่งบนสกายวอล์คแล้วค่ะ 555555555 สิ่งที่ทำได้ตอนนั้นก็คือ 'ยิ้ม' ยิ้มอย่างเดียว พยายามทำให้การสัมภาษณ์ไม่อึมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด่านสุดท้ายคือการทดลอง Facebook live ด้วยสคริปและอุปกรณ์ที่เตรียมมา ซึ่งก็พยายามให้มันดูสนุกไว้ก่อน และคงคอนเซปท์ยิ้มไว้ก่อนพ่อสอนไว้จนจบ

              สุดท้ายก็จบการสัมภาษณ์ไปแบบสมองอึนๆ พี่ๆคณะกรรมการน่ารักมากๆ เป็นกันเองสุดๆ ซึ่งตอนแรกคิดไว้ว่าจะต้องดูเคร่งๆ ดู まじめมากจนเครียดแน่เลย แต่ก็คิดผิดถนัด รวมถึงพี่ที่เคาท์เตอร์ ซึ่งมารู้ทีหลังว่าพี่คนนี้กับพี่หนึ่งในคณะกรรมการเป็นรุ่นพี่ที่คณะ โลกกลมมาก พอรู้ว่าเป็นรุ่นพี่ที่คณะปุ๊บ อยู่ๆรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก 555555 ปิดจ็อบครั้งนี้ด้วยการออกมาแชะภาพเล็กน้อย พร้อมคำอวยพรจากพี่ (ขอใช้อักษรย่อว่าพี่ทีละกัน รักษา Privacy ให้พี่เค้านิดนึง ฮุ) ว่าขอให้โชคดีนะคะ จากนั้นก็เดินออกมาด้วยความโล่งๆ ปิดจ็อบไปอีกหนึ่งแล้ว



              คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้วอ่ะ พยายามขุดพลังบวกออกมาให้มากๆ ผลสัมจะเป็นยังไงก็ไม่เป็นไร (จริงๆก็แอบหวังไว้นิดๆแหละ แฮ่) แต่ก็ไม่เป็นไรจริงๆนะถ้าจะไม่ใช่เรา เข้าใจได้ๆ


              ...เอาไว้เจอกันวันประกาศผลละกันเนาะ ฮุ...

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in